HOME Back

Use the

Planning a Trip to Japan?

Share your travel photos with us by hashtagging your images with #visitjapanjp

อ่าวของหมู่เกาะที่ปกคลุมไปด้วยต้นสนและทิวทัศน์อันงดงามในไฮกุของบาโช

เกาะ 260 เกาะในอ่าวมัตสึชิมะ รวมถึงล่องเรือชมอ่าวมัตสึชิมะ ชื่อดังนับว่าเป็นหนึ่งใน“สามจุดชมวิวที่มีทิวทัศน์งดงามที่สุดในญี่ปุ่น” แม้แต่นักกวีไฮกุผู้เป็นตำนานอย่างมัตสึโอะ บาโช (ค.ศ. 1644 - ค.ศ. 1694) ยังพยายามบรรยายความงดงามของสิ่งที่เขาได้เห็น ซึ่งเป็นสถานที่ที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งของจังหวัดมิยะงิ ในโทโฮคุ

คุณสามารถเดินไปยังเกาะหลายเกาะที่มีอยู่นับร้อย และสำรวจป่าสนดำและสนแดง วัดโบราณต่าง ๆ อย่างวัดซุยงันจิ วัดประจำตระกูลดาเตะอันทรงอำนาจซึ่งเคยปกครองภูมิภาคนี้

พลาดไม่ได้

  • ล่องเรือชมวิวไปรอบอ่าวมัตสึชิมะ
  • เรียนรู้ประวัติศาสตร์ และกลไกลับของวัดซุยงันจิ
  • ชมอาหารทะเลรสเลิศของมัตสึชิมะ

วิธีการเดินทาง

เดินทางไปยังมัตสึชิมะได้ด้วยรถไฟหรือรถบัสจากเมืองใหญ่ ๆ ในโตเกียว และเขตคันไซ

เดินทางด้วยรถไฟหัวกระสุนเจอาร์โทโฮคุ ชินคันเซนจากโตเกียวไปยังเซนไดจะใช้เวลา 90 นาที และรถไฟสายเซ็นเซกิจะพาคุณไปยังมัตสึชิมะประมาณ 40 นาที หมายเหตุ: ลงจากรถไฟที่สถานีมัตสึชิมะไคกัง(ให้บริการโดยรถไฟสายเซนเซกิ) ไม่ใช่สถานีมัตสึชิมะ(โดยรถไฟสายหลักโทโฮคุ) เนื่องจากสถานีที่สองนี้อยู่ไกลสถานที่ท่องเที่ยว

 

 

ชมทิวทัศน์

เดินไปตามแนวชายฝั่งมัตสึชิมะ และเพลิดเพลินทิวทัศน์ตามใจชอบ หากต้องการชมทิวทัศน์ภูมิประเทศและเกาะทั้ง 260 แห่งของอ่าวจากมุมที่สูงยิ่งขึ้น และมองข้ามผ่านภูมิทัศน์ที่กว้างไกลผ่านมุมสูง

ทิวทัศน์สวย ๆ ในจุดอื่นก็มีเกาะสามแห่งที่มีสะพานตั้งอยู่ ซึ่งมีทิวทัศน์แปลกตา และจุดชมทิวทัศน์แนะนำสี่แห่ง ได้แก่ โองิทานิ โทมิยามะ โอตากาโมริ และทามนซัน เรียกรวมกันว่า มัตสึชิมะชิไดคัง จุดชมทิวทัศน์อาจใช้เวลาเดินทางนานหน่อย และงดงามสมคำร่ำลือ

 

 

ขึ้นเรือท่องเที่ยวเพื่อดื่มด่ำทิวทัศน์สุดฮิตของเกาะต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เส้นทางล่องเรือเส้นทางหนึ่งจะพาคุณท่องไปรอบ ๆ เกาะ ส่วนเส้นทางอื่น ๆ จะให้บริการเรือเที่ยวเดียวที่วิ่งจากมัตสึชิมะไปยังเมืองชิโองามะ เรือท่องเที่ยวจะมีให้บริการตลอดปี เสียงประกาศและแผนที่สองภาษาอธิบายรายละเอียดประวัติและชื่อเกาะบางแห่งที่มีลักษณะพิเศษ

สะพานเดินเท้าสามแห่งที่ทอดไปสู่สามเกาะ

เกาะสามแห่งในอ่าวมัตสึชิมะเชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ด้วยสะพานสำหรับเดินและง่ายต่อการสำรวจ

เกาะกลางที่อยู่ติดกับท่าเรือเฟอร์รี่เป็นที่ตั้งของวัดโกไดโดะที่เป็นวัดเล็ก ๆ และเป็นสัญลักษณ์ของมัตสึชิมะ เชื่อกันว่าวัดบิชะมงโดะถูกสร้างขึ้นบนเกาะนี้ช่วงต้นของศตวรรษที่ 9 ตัวอาคารในปัจจุบันสร้างขึ้นในปี 1604 โดยดาเตะ มะซะมุเนะ ขุนนางศักดินาคนแรกของเซ็นได ห้องโถงที่มีการแกะสลักอย่างหรูหราคือหลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังเหลืออยู่ของสถาปัตยกรรมโมะโมะยะมะ (ค.ศ.1573-ค.ศ. 1615) ในภูมิภาคโทโฮคุ

 

 

เกาะฟูกูอูระสามารถสังเกตเห็นได้ง่าย ซึ่งต้องยกความชอบให้กับสะพานสีแดงความยาว 252 เมตร คุณสามารถข้ามสะพานและเดินเล่นรอบเกาะที่เต็มไปด้วยป่าไม้ได้โดยเสียค่าเข้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เดินตามทางไปยังฝั่งตรงข้าม เพื่อชมทิวทัศน์อันงดงามอีกมุมของอ่าว

เกาะอีกเกาะที่คุณสามารถเดินไปได้คือ เกาะโอชิมะ ออกจากสถานีมัตสึชิมะไคกัง มุ่งหน้าไปยังชายฝั่ง แล้วเดินเลียบชายฝั่งไปทางใต้ต่ออีกห้าถึงสิบนาที วัดวาและถ้ำสำหรับทำสมาธิขุดด้วยมือหลายแห่งพระในยุคโบราณใช้เ ป็นจุดที่เหมาะไปนั่งใคร่ครวญณาเรื่องราวชีวิตอย่างยิ่ง

วัดสำคัญสองแห่ง

วัดซุยงันจิเป็นวัดเซ็นที่สำคัญที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ วัดนี้ถูกสร้างขึ้นโดยพระที่มีนามว่า จิคาคุ ไดชิ (เอนนิน) และได้ตั้งชื่อว่าวัดเอ็งปุคุจิ จนกลายมาเป็นวัดนิกายเทนได ในปีค.ศ. 828 และรุ่งเรืองในช่วงคะมะคุระ (ค.ศ.1185-ค.ศ.1333) ในฐานะวัดของนิกายเซน จากนั้นถูกอุปถัมป์โดยโฮโจ โทคิโยริ (โชกุนคนที่5 ในยุคคามาคุระ) แต่หลังจากนั้นวัดแห่งนี้ก็ชำรุดทรุดโทรมไป ในปีค.ศ.1609 ดาเตะ มะซะมุเนะขุนนางของเซ็นไดได้สร้างวัดขึ้นมาใหม่และให้ชื่อว่า วัดซุยงันจิหลังจากระยะเวลา 5ปี ที่ได้เป็นวัดประจำตระกูลดาเตะ

ใกล้กับวัดซุยงันจิจะเป็นที่ตั้งของวัดเอ็นสึอินที่ถูกสร้างโดยดาเตะ ทะดะมุเนะ ซึ่งเป็นหัวหน้าของตระกูลทาดะเตะในปีค.ศ. 1646 โดยดาเตะ เทรุมุเนะ ผู้นำตระกูลดาเตะ วัดนี้สร้างขึ้นเพื่อไว้อาลัยมิตสึมุเนะ ลูกชายของเขาซึ่งเสียชีวิตขณะวัยเพียง 19 ปี ที่สุสานจะมีรูปปั้นลูกชายของดาเตะขี่ม้าสีขาว ล้อมรอบด้วยลวดลายแบบตะวันตกตั้งอยู่ วัดเอ็นสึอินมีทั้งสวนสไตล์ญี่ปุ่น และสวนกุหลาบสไตล์ยุโรป ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ผลิที่นี่ก็งดงามเป็นพิเศษ

อิ่มหนำอาหารทะเลมากมายที่จับได้จากอ่าว

มัตสึชิมะอุดมไปด้วยอาหารทะเลสดๆ เลือกทานได้ที่ร้านอาหารและซุ้มขายอาหารหลายแห่งในตลาดปลามัตสึชิมะ สิ่งที่ชาวบ้านแนะนำเป็นอย่างยิ่ง คือ เมนูหอยนางรม เช่น เบอร์เกอร์หอยนางรม รวมถึงอานาโกะ (ปลาไหลทะเล) และปลาหมึกอย่าง

จิบชาเขียวและชมทิวทัศน์ของทะเล

สำหรับประสบการณ์ลิ้มรสชาเขียวญี่ปุ่น ขอแนะนำให้ไปที่คันรันเท โรงน้ำชาแห่งนี้เป็นของขวัญที่โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ผู้ปกครองญี่ปุ่นมอบให้ดาเตะ มาซามุเนะ ไดเมียวของเซ็นได ลูกชายของขุนนางศักดินาแห่งเซ็นไดผู้นี้ได้ย้ายโรงน้ำชาแห่งนี้มายังมัตสึชิมะ จิบชาเขียวขม ๆ คู่กับขนมหวานญี่ปุ่นที่ทำขึ้นในท้องถิ่นบนเอนกะวะ(ทางเดินด้านนอกที่มักถูกใช้เป็นระเบียง) ซึ่งมีทิวทัศน์งดงามตระการตาของอ่าวที่อยู่เบื้องล่าง

 

 



* ข้อมูลต่างๆ บนเวบไซต์ อาจมีการเปลี่ยนแปลงสืบเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19

คำสำคัญ

คำแนะนำสำหรับคุณ

Miyagi
มิยากิ
Sendai
เมืองเซ็นได

Please Choose Your Language

Browse the JNTO site in one of multiple languages