เพลิดเพลินไปกับการปั่นจักรยานและเดินป่าบนเกาะที่ห่างไกลที่สุดสองแห่งทางตอนเหนือของญี่ปุ่น
ริชิริและเรบุนเป็นเกาะขนาดเล็ก ๆ สองเกาะที่อยู่ห่างจากจุดเหนือสุดของฮอกไกโด เป็นสถานที่ที่ดูเหมือนหลุดออกมาจากนิยายแฟนตาซี ลองนึกภาพทิวทัศน์ชายฝั่งทะเลอันกว้างขวาง ภูมิทัศน์ที่มีตั้งแต่ป่าไม้และหินสูงชันไปจนถึงเนินเขาเขียว ดอกไม้ป่าและหมู่บ้านชาวประมงที่มีเสน่ห์ และส่วนที่ดีที่สุดคือที่แห่งนี้ถูกแตะต้องโดยมนุษย์น้อยมาก
ที่นี่มีทางเดินเขาที่เดินได้แบบสบาย ๆ ไปจนถึงทางที่ท้าทาย และสถานที่สำหรับปั่นจักรยานที่คุณจะสามารถชื่นชมทุกอย่างได้ แถมยังได้ชิมอาหารเลิศรสจากท้องทะเล ทำให้คุณจะได้รับประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบบนเกาะนี้
พลาดไม่ได้
- ทิวทัศน์จากยอดภูเขาริชิริ
- ชมทิวทัศน์โดยรอบจากหอสังเกตการณ์โมโมอิวะบนเกาะเรบุน
- หอยเม่นและสาหร่ายเก็บสด ๆ จากทะเลในท้องที่

วิธีการเดินทาง
คุณสามารถเดินทางไปยังเกาะสองแห่งนี้ได้ด้วยเครื่องบินและเรือเฟอร์รี่
มีเที่ยวบินตรงจากโตเกียว (สนามบินฮาเนดะ) และซับโปโร (สนามบินชินชิโตเซะ) ไปยังสนามบินวัคคาไน ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อหลักสำหรับเดินทางไปยังเกาะริชิริและเกาะเรบุน โดยเรือเฟอร์รี่จากวัคคาไนไปยังเกาะใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง สำหรับการเดินทางไปยังเกาะริชิริ สามารถใช้เที่ยวบินตรงจากสนามบินโอกาดามะที่ซับโปโรไปยังสนามบินริชิริโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง และสำหรับการเที่ยวชมทั้งเกาะริชิริและเกาะเรบุนภายในหนึ่งวัน มีเรือเฟอร์รี่เชื่อมต่อระหว่างทั้งสองเกาะโดยใช้เวลา 45 นาทีต่อเที่ยว
เกร็ดน่าสนใจ
มีเรือเฟอร์รี่วิ่งเพียง 2-4 เที่ยวต่อวัน โดยขึ้นอยู่กับฤดูกาล
สามารถนำรถ จักรยานยนต์ หรือจักรยานขึ้นไปบนเรือเฟอร์รี่ได้ แต่หากจะนำรถขึ้นไปบนเรือ จะต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งวัน (คุณสามารถจองการนำรถขึ้นเรือได้ล่วงหน้าสูงสุดสองเดือนก่อนออกเดินทาง)

ยอดเขาที่ดูคล้ายภูเขาไฟ ฟูจิ
ภูเขาริชิริเป็นที่รู้จักในชื่อริชิริ-ฟูจิ เนื่องจากมีรูปร่างคล้ายคลึงกับภูเขาไฟ ฟูจิ คุณจะได้เห็นทิวทัศน์แบบพาโนรามา 360 องศาของพื้นที่ชุ่มน้ำและป่าไม้ของเกาะ ทิวทัศน์ของเกาะเรบุนที่อยู่ข้างเคียง หรือแม้กระทั่งเกาะซาฮาลินในรัสเซียจากบนยอดเขาของภูเขาแห่งนี้
ในช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปี ริชิริจะจัดเทศกาลที่แสดงถึงการเริ่มต้นฤดูกาลสำหรับการปีนเขาอย่างเป็นทางการ แต่จะเดินขึ้นป่าได้ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนจนถึงต้นเดือนตุลาคม ที่เกาะจะมีเส้นทางปีนเขาอยู่หลายเส้นทาง แต่โปรดจำไว้ว่าจะต้องฟิตร่างกายและเตรียมพร้อมสำหรับการปีนเขาที่นี่


เพลิดเพลินไปกับเวทมนตร์ของดอกไม้ประจำฤดูกาล
เกาะริชิริเป็นเกาะที่สวยงามตลอดทั้งปี พืชที่อยู่เฉพาะที่สูงบางชนิดที่นี่มีความเป็นเอกลักษณ์และสามารถพบได้แค่ที่ภูเขาริชิริ เท่านั้น ดอกสกังค์แคบเบจที่เบ่งบานเป็นสัญญาณของฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะมาถึง ดอกไม้สีสันสดใสเบ่งบานในฤดูร้อน ใบไม้ร่วงปกคลุมภูมิทัศน์ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และในฤดูหนาวหิมะก็จะปกคลุมริชิริ
ปั่นจักรยานรอบเกาะ
คุณสามารถเช่าจักรยานปั่นไปตามทางจักรยานรอบริชิริความยาว 25 กิโลเมตร แล้วหยุดตามรายทางเพื่อสำรวจพื้นที่ป่า การตั้งแคมป์ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งเช่นเดียวกัน

เสน่ห์ของอีกเกาะ
เรบุนเป็นเกาะที่เล็กกว่าในสองเกาะ เกาะแห่งนี้มีพืชที่สูงที่มีประมาณ 300 ชนิดเติบโตอยู่ แม้กระทั่งในระดับน้ำทะเลก็ตาม เรบุนจึงเป็นที่รู้จักในชื่อ “เกาะแห่งดอกไม้ลอยน้ำ” ช่วงเดือนพฤษภาคมจนถึงสิงหาคมของฤดูดอกไม้บานเป็นช่วงที่ดอกไม้เบ่งบานมากที่สุด และการเดินเล่นในดงดอกไม้ก็เป็นประสบการณ์ที่ผ่อนคลายและแสนสนุกสนาน
แหลมสุโกทนที่อยู่บนจุดเหนือสุดของเกาะแสดงให้เห็นด้านที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงของเกาะด้วยแนวชายฝั่งขรุขระที่มีหินกัดกร่อน เช่นเดียวกันกับผาของแหลมโกโรตะ
จุดชมวิว
สถานที่ชมทิวทัศน์ที่ดีที่สุดของเรบุนก็คือหอสังเกตการณ์โมโมอิวะที่อยู่ทางทิศใต้ ที่เกาะมีเส้นทางเดินป่าจำนวนมาก และจุดชมทิวทัศน์ส่วนใหญ่ล้อมรอบไปด้วยดอกไม้สวยงาม ซึ่งรวมถึงจุดที่คุณสามารถเห็นภูเขาริชิริ จากแหลมคาเนดาโนะ คุณจะเห็นแมวน้ำนอนอาบแดดอยู่ท่ามกลางแสงอาทิตย์ได้ตั้งแต่ต้นฤดูร้อนจนถึงต้นฤดูหนาว
เรื่องเกี่ยวกับอากาศ
นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับดอกไม้สวยได้ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนไปจนถึงกลางเดือนกันยายน และคนมักจะมาเที่ยวเกาะนี้อย่างมากตลอดช่วงไฮซีซั่นตั้งแต่เดือนกรกฎาคมจนถึงเดือนสิงหาคม โปรดจำไว้ว่าตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์จะเป็นช่วงลมประจำฤดูแรง และอุณหภูมิเฉลี่ยระหว่างเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์จะลดลงอยู่ที่ประมาณ -7 องศาเซลเซียส ในช่วงนี้ บริการเรือเฟอร์รี่ก็จะอาจหยุดให้บริการเช่นกัน
อยู่นานแค่ไหนดี
ขอแนะนำให้พักที่นี่สักสามวัน หากคุณต้องการชมทั้งสองเกาะแบบสบาย ๆ และได้เดินเขาหรือปั่นจักรยาน แต่ก็สามารถชมสถานที่ต่างๆ บนเกาะได้ในหนึ่งวันเช่นกัน หากคุณใช้บริการรถบัสชมทิวทัศน์ รถบัสจะให้บริการตามตารางการเดินเรือเฟอร์รี่ ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวสะดวกสบาย