สวนปราสาทสึรุกะโจ 鶴ケ城公園

ปราสาทสึรุกะโจและพื้นที่โดยรอบครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่การสู่รบกันระหว่างกองกำลังที่สวามิภักดิ์กับโชกุน และกองกำลังที่เป็นฝ่ายพันธมิตรกับราชวงศ์ของจักรพรรดิ เหล่าขุนนางแห่งเมืองไอซุซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดฟุคุชิมะ ในปัจจุบันได้สู้รบกับฝ่ายต่อต้าน พวกเขาพ่ายแพ้ และปราสาทถูกทำลายลง

สวนที่ได้รับการดูแลอย่างดีที่ถูกสร้างขึ้นบริเวณรอบปราสาทที่ถูกสร้างขึ้นใหม่แห่งนี้ ในปัจจุบันเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับกิจกรรมต่างๆ เช่น เทศกาลชมดอกซากุระและเทศกาลเทียน 

ขึ้นรถบัสเมืองไอซุวะคะมัตสึจากสถานีไอซุวะกะมัทสึ เพื่อไปลงที่สถานีรถบัสสึรุกะโจคิตะกุจิ บริเวณของปราสาทอยู่ห่างไปโดยเดิน 5 นาที

ข้ามคูเมืองและเดินเข้าบริเวณของปราสาท ผ่านกำแพงชั้นนอกเก่าแก่ดั้งเดิมที่น่าประทับใจ ที่ใจกลางของสวนสาธารณะ คือ ปราสาทสึรุกะโจ ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 และถูกโอบล้อมในระหว่างสงครามโบชินในปีค.ศ. 1868

ปราสาทแห่งนี้ซึ่งถูกทำลายลงในปีค.ศ. 1874 และหอคอยของปราสาทถูกสร้างขึ้นใหม่ในปีค.ศ. 1965 ด้วยคอนกรีต และตัวพิพิธภัณฑ์ถูกอุทิศให้กับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของไอซุ

สวนสาธารณะแห่งนี้เป็น 1 ใน 100 สถานที่ดีที่สุดสำหรับการชมดอกซากุระ นำผ้าปูพื้น หาสถานที่ นำเครื่องดื่มและอาหารมาด้วย และเข้าร่วมกับคนในท้องถิ่นจัดงานเลี้ยงและเพลิดเพลินกับดอกซากุระที่สวยงาม ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง บริเวณของปราสาทจะส่องสว่างในยามค่ำคืนเพื่อเน้นใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงให้โดดเด่น

เทียนทาสีของไอซุ หรือเอะโระโซกุ เป็น 1 ในงานฝีมือตามประเพณีดั้งเดิมของฟุคุชิมะ เทียนแบบทำมือและได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามด้วยลวดลายใบไม้และดอกไม้เหล่านี้ เป็นจุดเด่นหลักๆ ของเทศกาลเทียนไอซุที่จัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ในสวนสาธารณะแห่งนี้

เมื่อคุณเดินทางมาเยี่ยมชม อย่าลืมชมทิวทัศน์จากยอดสุดของปราสาท เนื่องจากเทียนที่ถูกจัดเรียงเป็นรูปแบบต่างๆ นั้นจะต้องดูจากด้านบน

โรงน้ำชารินกากุถูกใช้สำหรับการจัดพิธีชงชาโดยเหล่าขุนนางของไอซุ และสามารถรอดพ้นจากการทำลายปราสาทได้อย่างน่าประหลาด สถานที่นี้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญ และได้รับการบูรณะแล้วย้ายไปตั้งที่ตำแหน่งเดิมภายในพื้นที่ของสวนสาธารณะในปีค.ศ. 1990 คุณสามารถเยี่ยมชมสวนเล็กๆ ที่ติดกับโรงน้ำชาแห่งนี้ และดื่มชาในอาคารเล็กๆ ที่มองลงมาเห็นทิวทัศน์ของสวน

แม้หลังจากยุคการปกครองของซามูไรจะสิ้นสุดลงในปีค.ศ. 1867 แต่พื้นที่ซึ่งมีขอบเขตถึงทิศเหนือของโตเกียวได้ทำการต่อต้านรัฐบาลของจักรพรรดิชุดใหม่ กองกำลังของจักรพรรดิมีความทันสมัยมากกว่ากองทหารของซามูไร และสามารถทำลายป้อมปราการได้ทีละชั้นอย่างต่อเนื่อง ไอซุพ่ายแพ้ในเดือนกันยายน ปีค.ศ. 1868 และปราสาทก็ถูกทำลายอย่างรุนแรง

กลุ่มของซามูไรวัยรุ่นในหน่วยทหารที่เรียกว่าเบียกโกะไตได้ทำพิธีฆ่าตัวตาย ความซื่อสัตย์และการอุทิศตนทำให้พวกเขามีชื่อเสียงในประเทศญี่ปุ่น และกลายเป็นเรื่องราวหลักในภาพยนตร์และมังงะหลายเรื่อง มีสุสานของพวกเขาอยู่บนเนินเขาอีโมริ