หุบเขามิตะไร みたらい渓谷

สำหรับผู้ที่ต้องการหลบเร้นไปในภูเขาสวย ๆ ที่ตั้งอยู่ห่างจากเส้นทางที่มีคนเดินเยอะ หุบเขามิตะไรเป็นสถานที่ที่ตอบโจทย์คุณได้ ที่นี่เป็นที่ตั้งของยอดเขาที่สูงที่สุดหลายยอดในคันไซ รวมถึงภูเขาโอมิเนะที่ผู้แสวงบุญจากทั่วญี่ปุ่นแวะมาเยี่ยมเยือน เมื่อมาที่นี่ รอบตัวคุณจะรายล้อมไปด้วยป่าบริสุทธิ์ เมืองอนเซ็นแบบญี่ปุ่นโบราณที่โดดเด่น และโบราณสถานศักดิ์สิทธิ์

สามารถเดินทางไปยังหุบเขามิตะไรได้ด้วยรถไฟ จากนั้นก็ต่อรถบัส แล้วเดินเท้า สถานีรถไฟที่อยู่ใกล้กับหุบเขาแห่งนี้ที่สุดคือสถานีชิโมะอิชิกุจิ ซึ่งตั้งอยู่บนทางรถไฟสายคินเท็ตสึ

จากโตเกียวหรือเกียวโต: ให้ขึ้นรถไฟเจอาร์โทไคโดชินคันเซนไปยังสถานีเกียวโต โดยใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงครึ่ง แล้วเปลี่ยนสายไปขึ้นรถไฟสายคินเท็ตสึที่สถานีเกียวโต การเดินทางจากเกียวโตไปยังสถานีชิโมะอิชิกุจิโดยผ่านสถานีคะชิฮะระจิงงูมาเอะจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที

จากโอซาก้า: การเดินทางจากสถานีอะเบะโนะบาชิในโอซาก้าไปยังสถานีชิโมะอิชิกุจิโดยผ่านสถานีคะชิฮะระจิงงูมาเอะ ด้วยรถไฟสายคินเท็ตสึจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 25 นาที

จากนารา: การเดินทางจากสถานีคินเท็ตสึนาราไปยังสถานีชิโมะอิชิกุจิจะใช้เวลา 50 นาที โดยมีการเปลี่ยนสายสองครั้งที่ป้ายยามาโตะไซไดจิ และป้ายคาชิฮาระจิงงุมาเอะ

คุณสามารถเดินทางจากสถานีชิโมะอิชิกุจิมายังหมู่บ้านเทนคาวะได้ด้วยรถบัส รถบัสจะใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงในการเดินทางไปถึงป้ายเทนคาวะ ซึ่งเป็นป้ายที่อยู่ใกล้กับหุบเขามิตะไรที่สุด โดยป้ายนี้ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเทนคาวะ

เดินออกจากตัวหมู่บ้าน 40 นาทีก็จะถึงหุบเขา และจะใช้เวลาเดินขึ้นเขาอีกประมาณหนึ่งชั่วโมง เพื่อไปยังโดะโระกาวะอนเซ็น

หากคุณออกเดินทางแต่เช้าและดูตารางเดินรถมาอย่างรอบคอบ ก็สามารถเพลิดเพลินกับการออกเดินทางจากเกียวโต โอซาก้า และนารามาเที่ยวหุบเขามิตะไรแบบไปเช้าเย็นกลับได้ อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำให้คุณพักข้างคืนที่โดะโระกาวะอนเซ็น หรือหมู่บ้านเทนคาวะ เพื่อที่จะได้ดื่มด่ำกับความงดงามแบบชนบทในสถานที่ห่างไกลแห่งนี้ได้อย่างแท้จริง โดยไม่ต้องรีบร้อน

ตารางที่ 1

โดะโระกาวะอนเซ็นเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ไม่เร่งรีบ โดยมีจุดสำคัญอยู่ที่ถนนเส้นหนึ่ง ที่นี่มีร้านค้าและร้านอาหารแบบญี่ปุ่นเก่าแก่จำนวนมาก ในเวลากลางคืน เมืองแห่งนี้จะส่องสว่างด้วยแสงจากโคมไฟ และโรงแรมเรียวกังโบราณที่มีบ่อน้ำพุร้อนเหล่านี้ก็จะทำให้คุณพักผ่อนค้างแรมได้อย่างสบายกายสบายใจ อย่าลืมสวมชุดคลุมยูกาตะออกไปเดินเล่นข้างนอก หลังจากแช่น้ำในตอนกลางดึก และดื่มด่ำไปกับบรรยากาศที่ทำให้นึกถึงญี่ปุ่นสมัยโบราณ

จนถึงปัจจุบันนี้โดะโระกาวะอนเซ็น ก็ยังมีเส้นทางจาริกแสวงบุญให้ผู้ฝึกตนในนิกายชูเง็นโดได้เดินทางไปแสวงบุญยังเทือกเขาศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งคุณอาจจะได้ยินเสียงสะท้อนจากแตรสังข์ของพวกเขาก็ได้ ที่นี่มีการจัดเทศกาลอันคึกคักในช่วงกลางฤดูร้อน เพื่อแสดงถึงการกลับมาจากการเนรเทศของเอ็นโนะเกียวยะ ผู้ก่อตั้งนิกายชูเง็นโดขึ้นมาในศตวรรษที่ 7 ร่วมเพลิดเพลินไปกับเหล่านักเต้นที่สวมเชือกและหน้ากากหน้าตาตลก ๆ เดินพาเหรดบนถนน

ในเดือนสิงหาคม คุณจะได้พบกับผู้แสวงบุญกลุ่มใหญ่ที่บังเอิญมารวมตัวกันเดินทางไปยังภูเขาโอมิเนะ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่บูชาที่สำคัญของนิกายชูเง็นโด และเป็นที่ตั้งของอาราม ที่นี่เป็นแหล่งกำเนิดน้ำพุสำหรับอนเซ็นต่าง ๆ ในโดะโระกาวะ

ภูเขาบางแห่งห้ามไม่ให้ผู้หญิงขึ้นไป ด้วยเหตุผลบางอย่างที่น่าขัดใจ อย่างไรก็ตาม วัดริวเซ็นจิตรงตีนเขาโอมิเนะที่มีอายุมากกว่า 1,000 ปีได้ยกเลิกข้อห้ามนี้ไปนานแล้ว

วัดแห่งนี้เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงที่ยอดเยี่ยม

เดินไปตามเส้นทางเดินเขาที่ตัดผ่านป่าสีเขียวชอุ่ม เริ่มต้นจากเมืองโดะโระกาวะ เลาไปตามหุบเขามิตะไร ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือทางเดินเล่นที่ทอดเลียบหน้าผา สะพานแขวนเหนือช่องเขาลึก และน้ำตกที่มีน้ำไหลอย่างนุ่มนวล หากคุณมาที่นี่ในช่วงที่มีอากาศอบอุ่น อย่าพลาดโอกาสที่จะว่ายน้ำในแม่น้ำอามาโนะอันใสสะอาดสดชื่น

หลังจากเดินเป็นระยะทาง 11 กิโลเมตร คุณก็จะมาถึงเมืองเทนคาวะ โดยรถบัสที่จะพาคุณกลับโดะโระกาวะจะจอดที่นี่ อย่าลืมศึกษาตารางเดินรถไว้ล่วงหน้า

นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีถ้ำหินปูนขนาดเล็กแต่สวยงามอย่างถ้ำเม็นฟุโดะและถ้ำโกโยมัตสึตั้งอยู่ด้วย