ฮิโรชิมะ มิยะจิมะ มิยะจิมะเป็นพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดฮิโรชิมะ ซึ่งเข้าถึงได้ด้วยการขึ้นเรือข้ามฟากจากแผ่นดินใหญ่มาในระยะสั้นๆv

ที่นี่เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ ซึ่งดูเหมือนว่าจะลอยอยู่บนผืนน้ำในเวลาน้ำขึ้น โดยมีผู้คนหลั่งไหลมาเยือนเกาะแห่งนี้หลายพันคนในแต่ละปี ศาลเจ้าแห่งนี้มีคนนิยมมาถ่ายภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น

ตัวเกาะเองเคยถือว่าเป็นเกาะศักดิ์สิทธิ์โดยแยกตัวออกมาจากศาลเจ้า เพื่อไม่ให้มีผู้ใดนำสิ่งไม่บริสุทธิ์เข้าไปแปดเปื้อนพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว ซุ้มประตูไม้สีแดงขนาดใหญ่ที่เป็นทางเข้าศาลเจ้าจึงถูกสร้างขึ้นนอกชายฝั่ง

คุณต้องโดยสารเรือข้ามฟากจากท่าเรือมิยะจิมะกูชิบนแผ่นดินใหญ่เพื่อเดินทางมายังเกาะแห่งนี้

การขึ้นเรือข้ามฟากใช้เวลาประมาณ 10 นาที ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ท่าเรืออยู่ในระยะที่ใช้เวลาเดินเพียงเล็กน้อยจากสถานีมิยะจิมะกุจิ คุณสามารถนั่งรถไฟสายซันโยเดินทางจากสถานีฮิโรชิมะ ถึงสถานีมิยะจิมะกุจิได้ในเวลาราว 30 นาที

มิยะจิมะมีประชากรเพียงประมาณ 2,000 คน ที่เหลือคือกวางที่เดินเพ่นพ่านไปมาอย่างอิสระ ศาลเจ้าศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ และซุ้มประตูลอยน้ำได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกของ UNESCO เกาะนี้ยังมีศาลเจ้าและวัดอีกหลายแห่ง คุณสามารถนั่งกระเช้าขึ้นไปบนภูเขามิเซน เพื่อชมทัศนียภาพอันน่าทึ่งเหนือเกาะและผืนอ่าวได้

ในขณะที่ศาลเจ้าศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ มีคนนิยมมาเยือนมากที่สุดบนเกาะนี้ แต่ก็ยังมีศาลเจ้าและวัดอีกหลายแห่งที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม

วัดไดโชอินเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดบนเกาะมิยาจิมะ ตั้งอยู่ท่ามกลางต้นเมเปิ้ลที่ผลัดใบเป็นสีแดงงดงามในฤดูใบไม้ร่วง

วัดไดกันจิตั้งอยู่ติดกับศาลเจ้าศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ และได้สร้างอุทิศให้แก่เบ็นไซเต็ง (พระสรัสวดีในคติของญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นเทพีแห่งดนตรี ศิลปะ และสายน้ำ โดยกล่าวกันว่าเป็นวัดที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งที่สร้างอุทิศให้แก่เทพีในญี่ปุ่น

เซนโจคากุ ซึ่งแปลว่า “วิหาร 1,000 อาสนะ” เป็นสิ่งปลูกสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดบนเกาะ โทโยโตมิ ฮิเดโยชิ ขุนศึกผู้ทรงอำนาจเป็นผู้ดูแลการก่อสร้าง แต่ถึงแก่อสัญกรรมใน ค.ศ. 1598 ก่อนที่การก่อสร้างจะแล้วเสร็จ ปัจจุบันที่นี่เป็นสิ่งปลูกสร้างเปิดที่สวยงาม มองเห็นทัศนียภาพอันน่าทึ่ง เป็นที่หลบฝนในยามฝนตก และหลบแดดที่แผดร้อนในฤดูร้อน

โกจูโนโตะ คือเจดีย์สีแดงห้าชั้นที่สวยงาม ซึ่งเดิมสร้างขึ้นใน ค.ศ. 1407 เจดีย์สีแดงสดตัดกันอย่างไม่มีที่ติกับพืชพันธุ์เขียวขจีและท้องทะเลอันไกลโพ้น

ฮิโรชิเงะ ศิลปินภาพพิมพ์แกะไม้ผู้โด่งดัง ได้รังสรรค์ภาพพิมพ์อันโดดเด่นของพื้นที่แห่งนี้ไว้เป็นจำนวนมาก โดยบันทึกความเหมือนของศาลเจ้าศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ และซุ้มประตูทั้งในเวลาน้ำขึ้นและน้ำลง คูนิซาดะผู้อยู่ร่วมสมัยก็ได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่น่าอัศจรรย์ของเกาะแห่งนี้เช่นกัน

มิยะจิมะดึงดูดช่างฝีมือจำนวนมากระหว่างการก่อสร้างศาลเจ้าและการบูรณะอย่างต่อเนื่อง และปัจจุบันก็มีชื่อเสียงด้านงานไม้แกะสลัก มิยะจิมะโบริเหมาะสำหรับซื้อเป็นของที่ระลึกติดไม้ติดมือกลับบ้าน