โตเกียว อาซากุสะ อาซากุสะถือเป็นย่านที่เปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างได้อย่างดีเยี่ยมระหว่างความเก่าและความใหม่ ซึ่งมีตั้งแต่วัดเซนโซจิอันเก่าแก่ไปจนถึงโตเกียวสกายทรี

เดินผ่านประตูคามินาริมงสีแดงสดขนาดใหญ่ยักษ์ ซึ่งชื่อนี้หมายถึง "ประตูแห่งสายฟ้า" แล้วเดินผ่านควันจากกำยานก่อนที่จะทำบุญห้าเยนให้กับวัดเซนโซจิซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองหลวง

อาซากุสะถือเป็นย่านที่ต้องห้ามพลาดเลยทีเดียวขณะเที่ยวโตเกียว มีทั้งอาหารริมทางแสนอร่อย ช้อปปิ้งจุใจ และเสน่ห์ร่วมสมัยในทุกหัวมุม

ย่านอาซากุสะมีอะไรให้คุณได้ดูและทำมากมาย แต่ส่วนใหญ่จะอยู่รอบๆ วัดเซนโซจิ

คุณสามารถเดินไปวัดนี้โดยใช้เวลาห้านาทีจากสถานีอาซากุสะ ซึ่งให้บริการโดยรถไฟสายกินซ่า อาซากุสะ และโทบุ

กำเนิดของวัดที่สวยงามแห่งนี้ถือเป็นตำนาน ตำนานเล่าขานย้อนกลับไปเมื่อปีค.ศ 628 มีชายชาวประมงสองพี่น้องเหวี่ยงแหแล้วได้รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความเมตตาของชาวพุทธกลับมาจากแม่น้ำสุมิดะกาวะ แม้ว่าทั้งสองจะพยายามส่งคืนกลับลงแม่น้ำไป แต่รูปปั้นนั้นก็จะกลับมาหาเขาเสมอ เขาจึงสร้างวัดเซนโซจิขึ้นเพื่อประดิษฐานรูปปั้นอันศักดิ์สิทธิ์นี้และบูชาเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งสร้างเสร็จในปีค.ศ 645

ผู้มาเยือนมากมายจะมาเพื่อบูชาและสวดมนต์ในวิหารวัดเป็นเวลาหลายศตวรรษแล้ว บริเวณตรงกลางโดยรอบคุณจะเห็นเจดีย์โกะจูโนะโตแบบห้าชั้น อาคารเล็กจำนวนมาก และสวนขนาดเล็กๆ ที่สวยงาม สะพานหินที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว และโครงสร้างที่ทำจากไม้ ทางด้านขวาของวิหารหลักคุณจะเห็นศาลเจ้าอาซากุสะ ซึ่งเป็นที่สถิตของชายสามคนผู้ก่อตั้งวัดเซนโซจิ

หลังจากเดินผ่านประตูคามินาริมงเสร็จแล้ว สัมผัสกับถนนนาคะมิเสะ อันสุดคึกคัก มีงานหัตถกรรม ชุดกิโมโนผ้าฝ้ายแบบพิมพ์ลาย และกลิ่นหอมๆ จากขนมหวานญี่ปุ่นที่ล่อตาล่อใจ ลองขนมโดรายากิโบราณที่มีชื่อเสียง ขนมมันจูทอด หรือโมจิเสียบไม้

คุณจะเห็นถนนช้อปปิ้งเล็กๆ แยกออกไปมากมายเหมาะแก่การเดินเล่นสบายๆ เดนโบอิน-โดริ, คันนง-โดริ และ อาซากุสะ ชูโอ-โดริ เป็นถนนที่มีเสน่ห์มาก และยังคงรักษาความเก่าแก่ของอาซากุสะในขณะที่ผู้คนเดินทางไปมาด้วยรถลากผ่านโคมแดงและสะพานต่างๆ

สำหรับผู้ที่กำลังอยากช้อปปิ้งสินค้านำสมัย เขตรอคกุจะมีห้างสรรพสินค้า ร้านขายสินค้าลดราคา และแหล่งบันเทิงมากมาย รวมถึงคาบาเร่คลับที่มีชื่อเสียงอย่าง Rockza ซึ่งเปิดอาชีพแสดงตลกของบีท ทาเคชิ

จากวัดเซนโซจิคุณจะสามารถมองเห็นหอคอยสูงโตเกียวสกายทรี ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่สุดของอาซากุสะได้ หอคอยแห่งนี้สูง 634 เมตร ซึ่งสามารถมองเห็นวิวในมุมกว้างของตัวเมืองและสามารถมองเห็นได้ไกลถึงภูเขาไฟฟูจิ ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสอีกด้วย แม้จะมีความสวยงามตลอดทั้งปี แต่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมายมายังสวนสาธารณะสุมิดะ เพื่อถ่ายภาพหอคอยซึ่งห้อมล้อมไปด้วยดอกซากุระบาน

ทุกคนย่อมชอบเทศกาลดีๆ อยู่แล้ว คนอาซากุสะก็เช่นเดียวกัน ตลอดทั้งปีย่านใกล้เคียงจะมีการจัดงานที่น่าตื่นเต้นมากมาย เทศกาลซันจะมัตสึริ ในปลายเดือนพฤษภาคมซึ่งจะมีคนช่วยกันแบกซุ้มศาลเจ้ามิโคชิไปตามท้องถนน และเทศกาลดอกไม้ไฟแม่น้ำสุมิดะ ถือเป็นงานที่โดดเด่นมากในฤดูร้อน เซนโซจิยังมีตลาดตลอดทั้งปี เช่น โฮซึกิ-อิจิ (ตลาดโทงเทงฝรั่ง) ในเดือนกรกฎาคม โทริโนะอิจิ ในเดือนพฤศจิกายน และ ในเดือนธันวาคม

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาโตเกียวและต้องการเที่ยวสนุกยามค่ำคืนมักจะไปที่ชิบุยะ หรือรปปงงิ แต่คนพื้นเมืองจะนิยมมาที่อาซากุสะหลายทศวรรษและหลายศตวรรษแล้ว เพื่อมาพักผ่อนหย่อนใจหลังพระอาทิตย์ตกดิน เกือบทุกคืนย่านเซนโซจิจะมีบรรยากาศแต่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงหลังพระอาทิตย์ตกดินจนถึง 23:00 น. อย่าลืมตรวจสอบในเครื่องมือค้นหาอาหารพื้นเมืองแสนอร่อยและเครื่องดื่มโบราณยอดนิยมก่อนเดินทางไป

ถนนฮอปปี้อยู่ทางด้านตะวันตกของย่านเซนโซจิ ซึ่งตั้งชื่อตามเครื่องดื่มที่ทำจากเบียร์ไร้แอลกอฮอล์และโชจูซึ่งมีความแรงใกล้เคียงกับสาเก นอกจากเครื่องดื่มรสซ่าแล้ว ถนนฮอบปี้ยังมีร้านอาหารกลางแจ้งทั่วไปซึ่งคุณสามารถหาทานยะกิโทริเสียบไม้ย่างหรืออาหารสุดพิเศษประจำย่านนี้ได้มากมายเช่น สตูเนื้อวัว และคุณคงไม่อยากพลาดแวะคามิยะซึ่งเป็นบาร์แนวตะวันตกที่เก่าแก่ที่สุดและเสิร์ฟ Denki-Bran ซึ่งเป็นค็อกเทลบรั่นดีของร้านเอง