HOME Back

Use the

Planning a Trip to Japan?

Share your travel photos with us by hashtagging your images with #visitjapanjp

01_Amakusa 01_Amakusa

คุมะโมโตะ อะมะคุสะ เกาะสวยกลางอ่าวกับเรื่องราวลึกซึ้ง

เกาะสวยกลางอ่าวกับเรื่องราวลึกซึ้ง

เกาะที่อยู่ทางใต้สุดของแผ่นดินใหญ่ญี่ปุ่นแห่งนี้มีชื่อว่าเกาะอะมะคุสะ เป็นเกาะที่มีธรรมชาติที่สงบสุข มีสัตว์น้ำอุดมสมบูรณ์ และประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เกาะแห่งนี้ยังเชื่อมต่อกับภูมิภาคคิวชูด้วยสะพาน

ด้วยที่ตั้งที่ใกล้กับเมืองนางาซากิซึ่งเป็นหน้าด่านแรกสำหรับมิชชันนารีต่างชาติที่เดินทางมาถึงญี่ปุ่น อะมะคุสะจึงกลายเป็นหนึ่งในจุดศูนย์กลางที่สำคัญของศาสนาคริสต์ในประเทศในระหว่างช่วงเวลาที่ศาสนาคริสต์เป็นสิ่งต้องห้าม แม้ว่าในปัจจุบันนี้คนส่วนใหญ่จะมาเยือนอะมะคุสะเพื่อชมความงามที่เรียบง่ายและเล่นกิจกรรมทางน้ำ แต่ผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ในช่วงเวลาดังกล่าวจะรู้สึกว่าพิพิธภัณฑ์และโบสถ์จำนวนมากในบริเวณนี้มีเรื่องราวให้ค้นหามากมาย

พลาดไม่ได้

  • ล่องเรือชมโลมาในอ่าว
  • พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ในยุคแห่งความวุ่นวายและเรื่องราวลับ ๆ ของศาสนาคริสต์ในอะมะคุสะ
  • ลิ้มรสหอยเม่นทะเล อาหารจานเด็ดประจำถิ่น

วิธีการเดินทาง

สามารถเดินทางไปอะมะคุสะได้ด้วยเครื่องบิน เรือข้ามฟาก หรือรถบัส

เที่ยวบินปลายทางสนามบินอะมะคุสะมีให้บริการทุกวันทั้งจากโอซาก้า ฟุคุโอกะ และคุมะโมโตะ และรถบัสจากสถานีคุมะโมโตะก็มีทุกชั่วโมง แต่อย่างไรก็ตาม เรือเฟอร์รี่จะเป็นการเดินทางที่ให้ทิวทัศน์ที่ดีที่สุด เรือเฟอร์รี่มีให้บริการจากท่าเรือคูจิโนตสึในนางาซากิ, ท่าเรือคูราโนโมโตะในคะโงะชิมะ และท่าเรือตะวันออกมิซูมิในคุมะโมโตะ (เหมาะสำหรับผู้ใช้ตั๋วเจอาร์เรลพาสที่สุด)

สำหรับมิซูมิ ให้ขึ้นสายเจอาร์มิซูมิจากสถานีคุมะโมโตะไปลงที่สถานีมิสุมิ ส่วนท่าเรือมิซูมิตะวันออกจะอยู่ด้านนอกสถานี ขึ้นเรือข้ามฟากอะมะคุสะทาคาระจิมะข้ามไปยังเกาะชิโมชิมะซึ่งเป็นเกาะหลักของอะมะคุสะ แม้แต่ในช่วงที่คนใช้บริการเป็นจำนวนมาก เรือข้ามฟากก็ไม่แออัดเท่าไรนัก แถมยังทำคุณให้ได้เห็นวิวเกาะสวย ๆ อีกด้วย หากคุณมีเวลาเหลือก่อนเรือออก ให้ลองนั่งรถบัสหรือแท็กซี่ประมาณ 10 นาทีไปที่ท่่าเรือตะวันตกมิสุมิ ซึ่งจะมีตึกเก่าแก่สภาพดีเปิดให้คนทั่วไปเข้าชมได้

เมื่อขึ้นฝั่งที่อะมะคุสะแล้ว การเช่ารถขับเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสำรวจเกาะ เนื่องจากรถบัสวิ่งไม่ค่อยถี่นัก

สวรรค์ของคนรักมหาสมุทร

อะมะคุสะและเกาะรอบข้างมีชายหาดที่อุดมสมบูรณ์ บ่อน้ำพุร้อน และกิจกรรมทางน้ำมากมายเช่นตกปลา ดำน้ำลึก ดำน้ำตื้น เวคบอร์ด และอื่น ๆ อีกมากมาย

เกาะโกโชอูระได้รับการกล่าวว่าเป็น “เกาะไดโนเสาร์” และมีพิพิธภัณฑ์และสถานที่ค้นพบฟอสซิลให้ได้สำรวจ ส่วนเกาะสึกิโนชิมะและโฮงาชิมะมีให้บริการล่องเรือท้องกระจก

ล่องเรือชมโลมา

อะมะคุสะประกอบด้วยเกาะแก่งหลากหลายขนาดกว่า 120 แห่ง โดยเกาะที่ใหญ่ที่สุดคือเกาะชิโมชิมะและอูเอชิมะ เกาะเหล่านี้เป็นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของโลมา ด้วยเหตุนี้ กิจกรรมท่องเที่ยวสุดฮิตในอะมะคุสะก็คือการชมโลมานั่นเอง

ผู้ให้บริการล่องเรือมีหลายเจ้า อาทิ บริษัทซีครุยส์และบริษัทดอลฟินครุยส์ หากคุณต้องการสัมผัสประสบการณ์แบบส่วนตัว ให้เลือกนั่งเรือเอกชนลำเล็ก หรืออยากจะประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยการไปล่องเรือกับนักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ ด้วยเรือขนาดใหญ่กว่าที่ราคาถูกกว่าแต่ระดับการเข้าถึงต่างกัน

สนุกกับการล่องเรือ

การถ่ายรูปโลมาสวย ๆ เป็นเรื่องยาก เราแนะนำให้คุณเอนหลังพิงเบาะสบาย ๆ และดื่มด่ำประสบการณ์ให้เต็มที่จะดีกว่า รับประกันว่าคุณจะมีโอกาสที่จะได้เห็นโลมาถึง 98% เลย แม้ว่าจะไม่มีนโยบายคืนเงิน แต่บริษัทส่วนใหญ่จะมีการให้ตั๋วเรือฟรีเพื่อใช้ในครั้งต่อไปเป็นการชดเชยหากคุณนั่งเรือออกไปแล้วไม่เห็นโลมา ทัวร์ชมโลมานี้ได้รับความนิยมมากที่สุดในช่วงฤดูร้อน แต่เปิดให้บริการตลอดปีหากสภาพอากาศเอื้ออำนวย

วัดแห่งความลับ

วัดเมียวโตกูจิเป็นหนึ่งในวัดพุทธนิกายเซ็นในอะมะคุสะ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1645 เพื่อพยายามชักจูงให้ชาวคริสต์ในท้องถิ่นเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธ หลังจากเหตุการณ์กบฏชิมาบาระ (ค.ศ. 1637-8) ชาวคริสต์ในท้องถิ่นก็ยังคงมีการต่อต้านกันอยู่ การกวาดล้างจึงดำเนินต่อไปจนถึงช่วงทศวรรษที่ 1850

ถึงกระนั้นก็ตาม วัดแห่งนี้ยังมีสัญลักษณ์ของผู้นับถือศาสนาคริสต์ซุกซ่อนอยู่จำนวนมาก บ่งบอกถึงความศรัทธาที่ยังมีอยู่ต่อไปของชาวคริสต์ที่ถูกปราบปราม มีสัญลักษณ์กางเขนอันเล็ก ๆ แกะสลักลงบนขั้นบันไดทางเดินขึ้นวัด พระพุทธรูปคันนง เทพธิดาแห่งความเมตตาในศาสนาพุทธแท้จริงแล้วเป็นตัวแทนที่สื่อถึงพระแม่มารี คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์เหล่านี้ได้จากพิพิธภัณฑ์ชาวคริสต์ที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ

ประวัติศาสตร์การก่อกบฏ

ในเหตุการณ์กบฏชิมาบาระปี ค.ศ. 1637 มีการสังหารชาวคริสต์นับพันคน และตามด้วยภาวะข้าวยากหมากแพง การขูดรีดภาษี และการกวาดล้างอันยาวนาน อะมะคุสะ ชิโร ผู้นำกบฏยอดวาทศิลป์ ได้เสียชีวิตจกาการต่อสู่ในวัย 16 ปีกับกองกำลังของโชกุนผู้ครองอำนาจ แต่สุดท้ายเขาก็กลายเป็นวีรบุรุษที่ได้รับการยกย่องและเชิดชูตราบจนทุกวันนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นภายหลังการก่อกบฏก็คือศาสนาคริสต์กลายเป็นศาสนาต้องห้ามโดยสิ้นเชิง และมีการกำหนดมาตรการรุนแรงเพื่อเปลี่ยนชาวคริสต์ให้กลับไปนับถือศาสนาพุทธอย่างเป็นทางการ

 

 

![](kumamoto/Kumamoto1533_10 kumamoto/Kumamoto1533_1 kumamoto/Kumamoto1533_5 kumamoto/Kumamoto1533_6 "")

แต่ชาวคริสต์จำนวนมากยังคงอยู่ในอะมะคุสะเช่นเดิมและพื้นที่แห่งนี้ยังคงเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีชาวคริสต์มากที่สุดในญี่ปุ่นจนถึงปัจจุบัน

ใช้ชีวิตอย่างปกติ

ในปี ค.ศ. 1933 มีการสร้างโบสถ์โอเอะ ซึ่งเป็นโบสถ์สไตล์โรมาเนสก์โดยบาทหลวงการ์เนียร์ มิชชันนารีชาวฝรั่งเศส หลังจากคำสั่งห้ามนับถือศาสนาคริสต์ได้รับการยกเลิกไปในปี ค.ศ. 1873 ด้านล่างของโบสถ์เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์อะมะคุสะโรซาริโอ ซึ่งจัดแสดงสิ่งของต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของชาวคริสต์ที่ต้องอยู่อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ

ใกล้ ๆ กันนั้นมีโบสถ์ซากิตสึ โบสถ์คาทอลิกที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1934 ถึงแม้ว่าตัวโบสถ์จะเป็นสไตล์กอธิคแต่การตกแต่งภายในบางส่วนนั้นใช้เสื่อทะตะมิโดยผสมผสานไปกับวิถีชีวิตของหมู่บ้านชาวประมง และโบสถ์แห่งนี้ได้รับการนำเสนอชื่อให้กับองค์การยูเนสโกเพื่อให้เป็นมรดกโลกร่วมกับสถานที่ที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกหลายแห่งในจังหวัดนางาซากิ

ไปแล้วเที่ยวไหนดี

ไม่ควรพลาดพิพิธภัณฑ์อะมะคุสะคอลเลจิโอ ที่แสดงถึงประวัติศาสตร์ของพื้นที่แห่งนี้ก่อนเกิดเหตุการณ์กบฏชิมาบาระ และมีแบบจำลองเครื่องพิมพ์ตัวแรกของญี่ปุ่นขนาดเท่าของจริงด้วย

สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ในชิโมชิมะที่ไม่เกี่ยวข้องกับอดีตอันรุนแรงของอะมะคุสะ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และคติชาวบ้านฮนโด ซากปราสาทโทมิโอกะบนคาบสมุทรทางทิศเหนือ และชายหาด สวนสาธารณะ และเส้นทางปีนเขาหลายเส้นทาง ย่านชิโมโดะอนเซ็นทางด้านตะวันตกของชิโมชิมะมีเรียวคังแบบโบราณ (บ้านพักแบบญี่ปุ่น) เปิดให้บริการสำหรับผู้ที่อยากใช้เวลาสำรวจเกาะเพิ่มเติม



* ข้อมูลต่างๆ บนเวบไซต์ อาจมีการเปลี่ยนแปลงสืบเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19

คำแนะนำสำหรับคุณ

aso & around
คุมะโมโตะ
aso & around
อะโซะและพื้นที่โดยรอบ

Did this information help you?

Please Choose Your Language

Browse the JNTO site in one of multiple languages