โทคุชิมะ นารุโตะ เมืองน้ำวน

นารุโตะมีชื่อเสียงเกี่ยวกับน้ำวนขนาดใหญ่ ถึง 20 เมตร เป็นเมืองแห่งพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นและเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางแสวงบุญชิโกะคุหรือการแสวงบุญ 88 วัด

สามารถเดินทางมาโดยเครื่องบิน รถไฟ หรือรถบัส

ทางรถไฟจะใช้เวลาแปดชั่วโมงจากโตเกียวถึงนารุโตะ คุณสามารถใช้เจแปนเรลพาส เพื่อเดินทางไปดูน้ำวนได้

จากสถานีโตเกียว ขึ้นรถไฟสายเจอาร์โทไคโด/ซันโยชินคังเซ็น ไปยังโอคะยะมะ (4 ชั่วโมง) แล้วต่อสายเจอาร์มารีนไปยังทะคะมัทสึ หรือขึ้นรถไฟนอนตอนกลางคืนสายซันไรส์เซะโตะจากโตเกียวไปยังทะคะมัทสึ (10 ชั่วโมง) จากทะคะมัทสึ ให้ขึ้นรถไฟด่วนของบริษัทอุซุชิโอะไปยังอิเคโนทานิ หรือจากสถานีโซซุยแล้วต่อสายเจอาร์นารุโตะไปยังสวนนารุโตะ จากสวนนารุโตะ ให้ขึ้นรถบัสให้บริการไปสวนนารุโตะ

จากสถานีโอซาก้าจะมีบริษัทให้บริการรถบัสทางหลวงจำนวนมากไปยังสถานีโทคุชิมะ แวะจอดที่สวนนารุโตะ และรถบัสสายโคโซคุนารุโตะจะแวะจอดตลอดเส้นทาง (2 ชั่วโมง ราคา 3,300 เยน) สามารถขึ้นรถบัสท้องถิ่นเชื่อมต่อจากป้ายรถบัสโคโซคุนารุโตะไปยังสวนนารุโตะ (20 นาที ราคา 290 เยน ชั่วโมงละหนึ่งคัน) และสวนนารุโตะ (5 นาที ราคา 110 เยน ชั่วโมละ 2-3 คัน)

เจแปนเรลพาส จะไม่รวมถึงรถบัสทางหลวง แต่ผู้ถือบัตรสามารถประหยัดเงินได้ถึง 700 เยนโดยขึ้นรถไฟเจอาร์ไปยังสถานีไมโคะ (45 นาทีจากโอซาก้า) เพื่อขึ้นรถบัสทางหลวงที่นั่น (หนึ่งชั่วโมง ราคา 2,350 เยนเพื่อไปยังสวนนารุโตะ หรือ 2,550 เยนเพื่อไปยังโคโซคุนารุโตะ) แทนสถานีโอซาก้า

สายการบิน JAL ให้บริการระหว่าง สนามบินฮาเนะดะ จากกรุงโตเกียวและสนามบินโทคุชิมะ (75 นาที) จากสนามบินโทคุชิมะจะมีรถบัสไปยังสวนนารุโตะ (15 นาที ราคา 280 เยน ชั่วโมงละหนึ่งคัน) แล้วต่อไปยังสวนนารุโตะ (35 นาที ราคา 480 เยน ชั่วโมงละหนึ่งคัน) รถบัสจะออกจากสนามบินจากป้ายรถบัสหมายเลขสอง

ช่องแคบนารุโตะอยู่ระหว่างนารุโตะและเกาะอะวะจิ และเกิดน้ำวนเมื่อน้ำจากทะเลเซโตะส่วนในชนเข้ากับกระแสน้ำแรงจากช่องแคบคิอิ โดยจะเกิดน้ำวนขึ้นทุกครั้งที่เปลี่ยนระดับน้ำขึ้นน้ำลง และจะมีขนาดน้ำวนใหญ่ที่สุดในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงเมื่อระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าหนึ่งเมตร ซึ่งกระแสน้ำวนมีเส้นผ่านศูนย์กลางสูงถึง 20 เมตร

คุณสามารถเข้าชมพลังแห่งธรรมชาตินี้ได้หลายวิธี ซึ่งกิจกรรมหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากคือการเข้าชมโดยทางเรือ และดูน้ำวนในระยะใกล้จากดาดฟ้าเรือ

เรือบางลำจะมีพื้นกระจกใต้น้ำเพื่อสามารถดูกระแสน้ำวนได้อีกด้วย โดยทางเรือถือเป็นการเข้าชมวิวของนารุโตะและทิวทัศน์ใกล้ชายฝั่งโดยรอบได้อย่างยอดเยี่ยมมาก

อีกทางเลือกหนึ่งกรณีต้องการชมกระแสน้ำวนจากด้านบน จุดชมวิวอุซุโนะมิจิสร้างอยู่บนดาดฟ้าของสะพานโอนารุโตะเพื่อเชื่อมโทคุชิมะไปยังเกาะอะวะจิ มีความยาว 450 เมตร และมีพื้นกระจกที่แข็งแรงที่ช่วยให้คุณสามารถรับชมกระแสน้ำวนได้ ด้วยมุมมองจากด้านบนเหนือน้ำทะเล 45 เมตร คุณจะสามารถชมกระแสน้ำวนได้หลายๆ จุดในทีเดียว

หลังจากที่เดินบนสะพานโอนารุโตะแล้ว ต่อไปยังหอชมวิวเซนโจจิกิเพื่อชมความสวยงามของสะพานโอนารุโตะที่ล้อมรอบด้วยช่องแคบนารุโตะ หากคุณสนใจก็สามารถขึ้นลิฟต์สูง 68 เมตรขึ้นไปยังหอชมวิวเอสกาฮิลล์นารุโตะเพื่อชมวิวแบบ 360 องศาได้

พิพิธภัณฑ์ศิลปะโอสึกะอยู่ไม่ไกลจากสะพานโอนารุโตะ พร้อมพื้นที่แสดงนิทรรศการที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น พิพิธภัณฑ์นี้ได้รวบรวมงานศิลปะมากกว่า 1,000 ชิ้นบนแผ่นเซรามิกซึ่งทำขึ้นตามต้นแบบที่หลากหลายตั้งแต่ผลงานชิ้นเอกของตะวันตกไปจนถึงภาพฝาผนัง มีการจำลองภาพบนเพดานของไมเคิลแองเจโลขนาดเท่าของจริงและภาพการพิพากษาครั้งสุดท้ายของโบสถ์ซิสติน

ทิวทัศน์อื่นๆ ในนารุโตะ เช่น บ้านเยอรมันนารุโตะ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อรำลึกถึงทหารเยอรมันประมาณหนึ่งพันคนที่ถูกจับเป็นตัวประกันในนารุโตะในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ทหารเหล่านี้ได้รับอิสระบ้างในระหว่างอยู่ที่นี่ และหลังจากสงครามจบสิ้นแล้วนารุโตะและนครลือเนอบวร์กของเยอรมันก็กลายเป็นเมืองพี่เมืองน้อง บ้านเยอรมันสร้างขึ้นเพื่อความสัมพันธ์อันดี

เป็นอนุสรณ์ถึงนักโทษเยอรมันที่เสียชีวิตในขณะอยู่ในนารุโตะซึ่งพบในสวนสาธารณะหมู่บ้านเยอรมันที่อยู่ใกล้เคียง

นารุโตะเป็นที่ตั้งของวัดเรียวเซ็นจิ ซึ่งเป็นวัดพุทธที่สำคัญและพบในศตรวรรษที่ 8 ถือเป็นวัดแรกในเส้นทางแสวงบุญชิโกะคุหรือการแสวงบุญ 88 วัด

วัดเรียวเซ็นจิ ถือเป็นทั้งจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของการแสวงบุญ นอกจากนี้ผู้ที่เดินทางแสวงบุญซึ่งแต่งกายด้วยเสื้อสีขาวที่อาจเพิ่งเริ่มหรือสิ้นสุดการเดินทางรอบเกาะแล้ว พื้นวัดมีความสวยงามมาก มีประตูไม้ตรงทางเข้า และเจดีย์สองชั้นกลางสระน้ำ