HOME Back

Use the

Planning a Trip to Japan?

Share your travel photos with us by hashtagging your images with #visitjapanjp

None None

เรื่องราว สถานที่ผ่อนคลายทางจิตวิญญาณในจังหวัดมิเอะ:จากศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์สู่เมืองประวัติศาสตร์และการเดินทางแสวงบุญตามรอยมรดกโลก

เนื่องจากเป็นที่ตั้งของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของญี่ปุ่นอย่างศาลเจ้าอิเสะ (Ise-jingu Shrine) จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่ามิเอะมีสถานที่ทางจิตวิญญาณที่คุณสามารถไปเยี่ยมชมได้มากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ทั้งศาลเจ้า วัด และวัฒนธรรมดั้งเดิมของมิเอะ มีทิวทัศน์ในตำนานที่สื่อถึงเสน่ห์ของฤดูกาลทั้งสี่ นอกจากศาลเจ้าอิเสะแล้ว ยังมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกหลายแห่งที่สามารถพบและสัมผัสได้หลากหลายที่ ภายในภูเขาอันเงียบสงบและริมทะเล คุณยังจะได้พบกับที่พักมากมายเพื่อให้คุณได้พักผ่อนจากความรีบเร่งวุ่นวายในชีวิต และผ่อนคลายในบรรยากาศอันเงียบสงบของมิเอะ

ศาลเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในญี่ปุ่นและประเพณีอันล้ำค่าในการดำน้ำของอามะที่เกาะไข่มุกมิกิโมโตะ(Mikimoto Pearl Island)

หากคุณต้องการที่จะเข้าใจจิตวิญญาณของศาสนาชินโตอย่างแท้จริง การเดินทางแสวงบุญมายังศาลเจ้าอิเสะเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด ที่ศาลเจ้าอิเสะมีศาลเจ้า 125 แห่งล้อมรอบ แต่ศาลเจ้าส่วนใน(ศาลเจ้าโคะไทจินกู) และศาลเจ้าส่วนนอก (ศาลเจ้าโทโยเคะไดจินกู) สามารถเดินได้จากสถานีอิเซะชิ(Iseshi Station) ใจกลางของศาลเจ้าคือเทพีแห่งดวงอาทิตย์(Amaterasu-Omikami)ที่ถูกประดิษฐานเป็นที่เคารพบูชาในพระราชวังอิมพีเรียลจนถึงจักรพรรดิลำดับที่ 10 เทพีแห่งดวงอาทิตย์นั้นเมื่อได้รับการนับถือในฐานะผู้คุ้มครองประเทศชาติมายาวนานกว่า 2000 ปี พิธีกรรมที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีนั้นจะจัดขึ้นทุกปีตามวงจรของการปลูกข้าว มีพิธีสวดภาวนาเพื่อการเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์ สันติสุขในโลกและความเจริญรุ่งเรืองของราชวงศ์
เทศกาลเก็บเกี่ยวที่ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดคือ คันนาเมะไซ(Kannamesai) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 17 ตุลาคมของทุกปี ในเทศกาลนั้นนักบวชประจำศาลเจ้าชินโตจะถวายข้าวที่เก็บเกี่ยวได้ครั้งแรกของปี และอุทิศคำอธิษฐานแสดงความขอบคุณต่อเทพีแห่งดวงอาทิตย์

โคคิจิ มิกิโมโตะ (1858 – 1954) เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในการเพาะเลี้ยงไข่มุกเป็นคนแรกบนเกาะเล็กๆในปีค.ศ.1983 สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับไข่มุกในธรรมชาติว่าเกิดขึ้นมาได้อย่างไร รวมถึงประวัติของอุตสาหกรรมเพาะเลี้ยงไข่มุก รวมทั้งวิธีการที่โคคิจิใช้ที่ชั้น 1 ของพิพิธภัณฑ์ และยังมีนิทรรศการแกะสลักไข่มุกขนาดใหญ่ที่มิกิโมโตะสร้างสรรค์มาอย่างยาวนาน และเครื่องประดับโบราณมากมาย และยังสามารถชมการสาธิตของนักประดาน้ำอามะ นักดำน้ำแบบฟรีไดร์ฟผู้หญิงชาวญี่ปุ่น ซึ่งจะมีจัดขึ้นทุกวัน โดยสามารถเรียนรู้ได้ว่าการพวกเขารักษาหอยไข่มุกอย่างไรในช่วงแรกที่มีการเพาะเลี้ยง สำหรับใครที่มีเวลา สามารถทานอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ได้ที่ร้านอาหาร “อะวะโค” ที่นี่มีอาหารขึ้นชื่อมากมายอย่างชุดอาหารที่ทำจากเนื้อหอยอะโกะยะ ชื่อร้านมีความเกี่ยวข้องกับร้านขายอุด้งที่โทบะ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของโคคิจิ ที่หอที่ระลึกมิกิโมโตะโคคิจิ (Kokichi Mikimoto Memorial Hall) มีเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับช่วงชีวิตของโคคิจิ หรือร้านอุด้งอะวะโคแนะนำอย่างละเอียด สำหรับใครที่ต้องการซื้อเครื่องประดับที่ทำจากไข่มุก ที่นี่มีสินค้ามากมายให้เลือกหลายหลายราคา

ที่เกาะไข่มุกมิกิโมโตะสามารถเดินทางมาได้ง่ายจากเกาะใหญ่

*เวลาทำการ : 9:00 – 17:00 (อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามฤดูกาล)

*เดินจากสถานี Toba 5 นาที

ศาลเจ้าอิเสะส่วนนอก

ศาลเจ้าอิเสะส่วนใน

คันนะเมไซ พิธีประจำปีที่ศาลเจ้าอิเสะ

ศิลปหัตกรรมที่ทำขึ้นโดยใช้ไข่มุกจากพิพิธภัณฑ์ไข่มุก เกาะไข่มุกมิกิโมโตะ

การสาธิตของนักประดาน้ำอามะ เกาะไข่มุกมิกิโมโตะ

พักผ่อนแบบหรูหราที่อิเสะชิมะที่อุดมไปด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์

หากต้องการชื่นชมแนวชายฝั่งที่สวยงามของอ่าวอาโกะอย่างเต็มที่ ลองพิจารณาการเข้าพักที่โรงแรมชิมะคันโค(Shima Kanko Hotel) และโรงแรมอามาเนมู(Amanemu)อันหรูหรา โรงแรมชิมะคันโคเป็นโรงแรมที่ล้อมรอบไปด้วยทะเลอ่าวอาโกะและภูเขา ที่นี่คุณสามารถเพลิดเพลินกับอาหารทะเลที่ถูกจับมาสดๆจากพื้นที่ เช่น กุ้งลอบสเตอร์อิเสะ ที่ได้ที่ร้านอาหารระดับ 5 ดาว ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นฮามายุ (Hamayu) ให้บริการอาหารไคเซกิแบบดั้งเดิมโดยใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลของเกาะอิเสะและจับคู่กับสาเกท้องถิ่นของมิเอะ ที่อะมาเนมุ (Amanemu) คุณสามารถพบเจอกับห้องอาบน้ำในร่มและกลางแจ้งได้ที่วิลล่าสไตล์เรียวกัง คุณสามารถทานอาหารที่อะมาเนมุ และลิ้มลองเนื้อมัตสึซากะ กุ้งลอบสเตอร์ และหอยเป๋าฮื้อได้ในขณะที่ชมทิวทัศน์อันงดงามของอ่าวอาโกะ และยังสามารถลิ้มรสอาหารทะเลสไตล์ฝรั่งเศสที่เป็นเอกลักษณ์ได้ที่เลอ เมล(Le Mer) ชื่อร้านมีความหมายว่า "ทะเล" สามารถชมวิวอ่าวอาโกะได้จากหน้าต่างที่บานใหญ่ตั้งแต่เพดานจรดพื้น ที่โรงแรมจะมี 2 พื้นที่คือ เดอะ คลาสสิค กับ เดอะ เบย์สวีท ซึ่งเดอะเบย์สวีทจะเป็นห้องสวีททั้งหมด เราสามารถใช้เวลาในห้องที่ตกแต่งอย่างพิถีพิถันใส่ใจทุกรายละเอียดแม้กระทั่งข้าวของเครื่องใช้

โรงแรมอะมาเนมูตั้งอยู่บนเนินเขาล้อมรอบไปด้วยป่า เป็นวิลล่าสไตล์เรียวคัง(โรงแรมแบบญี่ปุ่น)สามารถพักผ่อนได้อย่างเป็นส่วนตัว มีทั้งห้องที่มีบ่ออาบน้ำกลางแจ้ง และบ่อภายในอาคาร เราสามารถชื่นชมวิวของอ่าวอาโกะพร้อมชิมอาหารเลิศรสอย่างเนื้อมัตสึซากะ กุ้งลอบสเตอร์ หอยเปาฮื้อและอาหารทะเลอื่นๆ และในโซนสปา ยังมีโซนแช่น้ำที่ใช้น้ำจากอนเซ็นธรรมชาติที่สามารถใส่ชุดว่ายน้ำในการใช้บริการได้ และบ่อน้ำพุร้อนที่สามารถพักผ่อนได้ทั้งกายและใจ

อ่าวอาโกะ

ห้องอาหารเบย์สวีท โรงแรมชิมะคันโค

โรงแรมอามะเนมู

การเดินทางแสวงบุญตามรอยมรดกโลกเส้นทางคุมะโนะโคะโด(Kumano Kodo) อิเสะจิ (Iseji)

ในสมัยโบราณ ผู้คนจำนวนมาก ตั้งแต่จักรพรรดิไปจนถึงสามัญชน ได้มาเยี่ยมชมคุมาโนะคุมาโนะ(Kumano) ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่ที่ชูเก็นโด(shugendo - ศาสนาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะในประเทศญี่ปุ่น)มาเยือนและเป็นสถานที่จาริกแสวงบุญแห่งสำคัญ จังหวัดมิเอะเป็นจุดหมายปลายทางของเส้นทางคุมาโนะโคโดะ อิเสะจิซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางของเส้นทางคุมาโนะโคโดะ

ภูเขาเท็งกุคุระเป็นหนึ่งในภูเขาที่มีชื่อเสียงมากในจังหวัดมิเอะตอนใต้ ตั้งอยู่ในเมืองโอวาเสะ เส้นทางคุมาโนะโคโดะมีเส้นทางแสวงบุญหลายเส้นทางที่ผ่านจังหวัดมิเอะไปประจบกับเส้นทางอื่นๆ อย่างเส้นอิเสะจิ จะเริ่มต้นจากเมืองอิเสะ เส้นทางจะพาไปแสวงบุญที่ภูเขาคุมาโนะซันซัง ซึ่งมีศาลเจ้าใหญ่ 3 ของคุมาโนะในจังหวัดวาคายามะ เป็นเส้นทางแสวงบุญที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดในญี่ปุ่น ใช้มายาวนานนับพันปีในการเดินทางไปมาระหว่างศาลเจ้าอิเสะกับภูมิภาคคุมาโนะ ระหว่างทางจะมีเส้นทางมะโกเสะโทเกะ จากเส้นทางมะโกเสะโทเกะ เราสามารถปีนภูเขาเท็งกุระไปกลับได้ภายในหนึ่งชั่วโมง

เส้นทางอิเซจิยังเป็นที่รู้จักว่าเป็นเส้นทางที่อุดมไปด้วยธรรมชาติพร้อมทัศนียภาพอันงดงามของมหาสมุทรแปซิฟิกและภูเขาโดยรอบ ที่เส้นทางมัตสึโมโตะ ผู้มาเยือนจะได้รับการต้อนรับด้วยรูปปั้นจิโซะขนาดเท่าของจริงขณะที่พวกเขาเข้าไปในเส้นทางเดินที่รายล้อมไปด้วยต้นไผ่ เส้นทางมัตสึโมโต้พาสเกือบทั้งหมดปูด้วยหินกรวดซึ่งให้ความรู้สึกถึงประวัติศาสตร์และความศักดิ์สิทธิ์ จากศาลาเดินไปทางทิศตะวันออกประมาณ 10 นาทีไปตามถนนจากยอดเขา คุณสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามของภูเขาและชายฝั่ง เมื่อคุณไปถึงชายฝั่ง คุณจะสะดุดสายตากับหินสิงโตสูง 25 เมตร ซึ่งเป็นมรดกโลก เป็นหินรูปร่างแปลกตาที่ดูเหมือนสิงโตยักษ์คำรามไปทางทะเล

เดินต่อไปอีกเล็กน้อย จะมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของศาลเจ้าฮานะโนะคุสึ(Hananokutsu Shrine) หินที่ก่อตัวขึ้นตามลมและคลื่นเป็นเวลาหลายปี เชื่อว่าเป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งกล่าวถึงใน "พงศาวดารของญี่ปุ่น" (ค.ศ. 720) กล่าวกันว่าเป็นหลุมฝังศพที่ฝัง "อิซานามิ โนะ มิโคโตะ" มารดาของเทพเจ้า ในเดือนกุมภาพันธ์และตุลาคม จะมีการจัด "พิธีนะวะเกะ" ซึ่งใช้เชือกยาวห้อยลงมาจากยอดหินขึ้นไปบนต้นไม้ สิ่งนี้เรียกว่า "โอสึนางาเกะ ชินจิ" (พิธีแขวนเชือก) ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2547 "สถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเส้นทางจาริกแสวงบุญในเทือกเขาคิอิ" รวมถึงฮานันคุสึได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

มรดกโลก เส้นทางคุมาโนะโคโดะ มะโกเสะโทะเกะ

มรดกโลก เส้นทางคุมาโนะโคโดะ เส้นอิเสะจิ ผามัตสึโมโตะ

หินรูปสิงโต

ศาลเจ้าฮานะโนะคุตสึ

อนเซ็นยุโนะกุจิ ธรรมชาติสร้างที่แถบคิชูตะวันออก

จังหวัดมิเอะนั้นมีธรรมชาติที่สวยงามมากมาย สามารถชมปฎิมากรรมที่เกิดจากธรรมชาติอันหายากจากการล่องเรือชมวิวอ่าวนิคิชิมะ จากทาเทะกะซากิ ในเมืองคุมะโนะ พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยแมกม่ามาก่อนเมื่อประมาณ 140 ล้านปีที่แล้ว หลังจากที่แมกม่าได้เย็นตัวลงสนิทเกิดกลายเป็นหินกรดคุมาโนะมีลักษณะคล้ายเสาหินที่มีความสูงถึง 80 เมตร ใกล้ๆบริเวณนี้มีถ้ำสีฟ้าคุมาโนะที่สวยงามอย่างลึกลับ บริเวณเสาหินที่เกิดจากแมกม่าจะมีรูเล็กๆที่ด้านล่าง ภายในถ้ำมีสีฟ้าสดใสตัดกับสีเทาจากกำแพง

และยังสามารถชมวิวโอนิงะโจจากฝั่งมหาสมุทรได้ โอนิงะโจเป็นมรดกโลกของทางคิชูตะวันออก เป็นศิลปะจากธรรมชาติที่เกิดจากการเคลื่อนตัวของแผ่นดิน กั่นกร่อนของคลื่น และสายลม ที่นี่มีในสมัยเฮอัน(ค.ศ. 794 - 1185) ที่นี่มีเรื่องราวของซามูไรที่มีชื่อว่าซะกะโนะอุเอะ ทะมุระมะโระ ได้ขับไล่โจรสลัดที่อาละวาดที่พื้นที่แห่งนี้ คนในพื้นที่หวาดกลัวราวกับเป็นอสูร โอนิงะโจเป็นสถานที่ที่หินตัดกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวยามค่ำคืนได้อย่างสวยงาม ลองแวะมาชมวิวกันตอนกลางคืนกันดูได้

อนเซ็นยุโนะคุจิอยู่ใกล้กับเขตจังหวัดมิเอะ นาราและวาคายามะ ซึ่งเส้นเป็นเส้นทางเหมืองแร่ที่ใช้มาก่อนสงครามโลก คุณสามารถนั่งรถไฟโทร็อกโกะสุดเรโทรผ่านเส้นทางเหมืองแร่เก่า (ปัจจุบันได้ใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว) ไปยังอนเซ็นยุโนะคุจิได้ พักผ่อนจากความเหนื่อยล้าจากการเดินทางที่อนเซ็นที่มีคุณสมบัติในการผ่อนคลายการปวดกล้ามเนื้อและปวดข้อได้

ทาเทะกะซากิ

ถ้ำสีฟ้าคุมะโนะ ©️ภาพจากจังหวัดมิเอะ

โอนิงะโจ

บ่อกลางแจ้งและเส้นทางรถโทร็อกโกะ(รถไฟที่ใช้ในเหมืองแร่) ที่อนเซ็นยุโนะคุจิ

เดินทางย้อนเวลากลับไปในเมืองมิสึกิ(Misugi Town)เมืองสึ(Tsu City)พร้อมสัมผัสวิถีแห่งเซนและงานฝีมือท้องถิ่น

เส้นทางอิเสะฮงไคโด(Ise Honkaido Road)ได้รับความนิยมในช่วงสมัยเอโดะ(ค.ศ. 1603-1867)ในฐานะที่เป็นเส้นทางในการเดินทางแสวงบุญที่ศาลเจ้าอิเสะเป็นที่นิยม การเดินทางไปแสวงบุญที่ศาลเจ้าอิเสะเป็นสิ่งที่คนในสมัยก่อนต้องการจะทำสักครั้งนึงในชีวิต พวกเขาเริ่มต้นการเดินทางจากศาลเจ้าทะมะทสึคุริอินะริในโอซาก้าไปจนถึงศาลเจ้าอิเสะที่ประดิษฐานเทพีแห่งดวงอาทิตย์(Amaterasu- Omikami) จากยามาโตะไปยังอิเสะมีระยะทางประมาณ 129 กิโลเมตร โดยวิ่งผ่านหมู่บ้านมิสึกิซึ่งเป็นหมู่บ้านหลักสำหรับนักเดินทางเพื่อพักผ่อนและเติมพลังก่อนเดินทางต่อไปยังอิเสะ ตามทางหลวงมีป้ายบอกทางและบ้านโบราณที่จะพาคุณย้อนอดีตในมิสึกิ(ในเมืองสึ) คุณสามารถสัมผัสกับวีถีแห่งเซนและประสบการณ์ทำงานฝีมือจากฟางที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะและเป็นมรดกอันล้ำค่าของภูมิภาคนี้ ย้อนเวลากลับไปเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และระบบศักดินาของภูมิภาคนี้ในขณะที่คุณเดินทางผ่านเมืองนี้

ถนนอิเสะฮงไคโด

สัมผัสวิถีแบบเซน

งานหัตถการจากการสานฟาง

การเยี่ยมชมทางจิตวิญญาณที่ศาลเจ้าสึบากิ(Tsubaki Grand Shrine)

แม้ว่าจะไม่ค่อยมีใครรู้จัก แต่ศาลเจ้าสึบากิก็มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และไม่ควรที่จะมองข้าม ศาลเจ้าสึบากิมีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 2,000 ปี และเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นศาลเจ้าหลักของเทพเจ้าซารุทาฮิโกะ(Sarutahiko no Okami) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งการนำทาง ความกล้าหาญ ความแข็งแกร่ง และความชอบธรรม เส้นทางที่เข้าชมสูงตระหง่านด้วยต้นไม้ใหญ่ในป่าทึบทำให้ได้บรรยากาศที่แปลกประหลาด ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ สามารถชมดอกซากุระริมแม่น้ำบริเวณศาลเจ้าได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีห้องชงชาที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับชาเขียวสักถ้วยและวากาชิ(ขนมญี่ปุ่น)ชิ้นเล็กๆได้ที่นี่ในราคาเพียง 800 เยน

ศาลเจ้าสึบากิ

การเดินทางไปยังจังหวัดมิเอะ

สามารถเดินทางมายังมิเอะได้โดยทางสนามบิน 2 แห่ง ได้แก่ สนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์(Chubu Centrair International Airport) และสนามบินนานาชาติคันไซ(Kansai International Airport) นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้บริการรถไฟด่วนพิเศษจากโอซาก้า เกียวโตและนาโกย่าได้อีกด้วย สามารถเดินทางมากับรถไฟชินคันเซนผ่านนาโกย่า หรือโดยทางรถบัสด่วนพิเศษข้ามคืนก็ได้เช่นกัน

Did this information help you?

คุณอาจจะชอบ...

Please Choose Your Language

Browse the JNTO site in one of multiple languages