เริ่มต้นการเดินทางวันแรกของทริปนี้ที่ พิพิธภัณฑ์ทาจิเนะปุตะ (Tachineputa Museum) เพื่อชมหุ่นโคมไฟขนาดมหึมาที่มีความสูงถึง 23 เมตร เทียบได้กับตึก 7 ชั้น และหนักกว่า 19 ตัน โดยในแต่ละปีจะมีการจัดเทศกาล Goshogawara Tachineputa Festival และมีขบวนแห่หุ่นโคมไฟนี้ขึ้นในเมืองในระหว่างวันที่ 4 ถึง 8 สิงหาคมของทุกปี หากใครที่ไม่ได้มาในช่วงเทศกาลก็สามารถมาชมความอลังการของหุ่นยักษ์ได้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้

หลังจากนั้นเดินจากพิพิธภัณฑ์มาไม่ไกลนัก ก็มาแวะทานอาหารกลางวันที่ มารุโค เซ็นเตอร์ (Maruko center) ตลาดปลาติดแอร์เล็กๆ ที่มีเมนูเด็ดคือ “โนเฮะด้ง Nohedon” ที่สามารถเลือกซื้อซาซิมิอาหารทะเลที่ชอบจากร้านต่างๆ มาวางเรียงลงบนข้าวได้ตามใจ แล้วก็เดินทางไปยังจุดหมายต่อไปด้วย รถไฟเตาผิงซึการุ (Tsugaru Railway, Stove Winter Train) รถไฟท่องเที่ยวสุดพิเศษที่จะเปิดเตาผิงให้ความอบอุ่นภายในขบวนในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่ต้นธันวาคมไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคมเท่านั้น ภายในโบกี้มีเตาผิงแบบโบราณให้ความรู้สึกได้นึกถึงบรรยากาศเก่าๆ และยังสามารถให้พนักงานปิ้งปลาหมึกแห้งบนเตาผิง ที่เข้ากันดีกับรสชาติของสาเกท้องถิ่น

อีกจุดหนึ่งหมายปลายทางของวันนี้คือ ศาลเจ้าทาคายามะ อินาริ (Takayama Inari Shrine) กับ "อุโมงค์เสาโทริอิสีแดง” ตั้งเรียงรายต่อกันมากถึง 200 ต้น ยาวเป็นเส้นทางคดเคี้ยวผ่านธารน้ำ และสวนที่จัดตกแต่งไว้อย่างงดงาม ในช่วงฤดูหนาวเสาโทริอิสีแดงดูโดดเด่นตัดกับพื้นหิมะขาวโพลน

ที่พักในวันนี้คือ โรงแรม โคกาเนะซากิ ฟุโรฟุชิ อนเซ็น (Koganezaki Furofushi Onsen) โดยไฮไลท์อยู่ที่ลงแช่ในบ่ออนเซ็นกลางแจ้งริมทะเล ที่ห่างจากทะเลเพียง 1 เมตร โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ตกดินที่บรรยากาศสุดแสนโรแมนติก

จากโตเกียวใช้บริการเที่ยวบินภายในประเทศไปลงที่
สนามบินอาโอโมริ (Aomori Airport) ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง 15 นาที

รถยนต์ 35 นาที

1.พิพิธภัณฑ์ทาจิเนะปุตะ (Tachineputa Museum)

จังหวัดอาโอโมริ (Aomori)

เทศกาลเนบุตะ (Aomori Nebuta Festival) คือ หนึ่งในสามเทศกาลสุดยิ่งใหญ่ประจำฤดูร้อนในแถบภูมิภาคโทโฮคุ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 ถึง 8 สิงหาคมของทุกปี ไฮไลท์ของเทศกาลคือการแห่ขบวนหุ่นโคมไฟขนาดมหึมาที่เรียกว่า ‘เนบุตะ (Nebuta)’ ทำจากกระดาษสาคุณภาพดี ออกแบบ ขึ้นโครงและลงสีให้เป็นรูปต่างๆ เช่น ซามูไร ยักษ์ ปีศาจ ปลาทอง และอื่นๆ 

โดยเทศกาลนี้ หากเป็นอันที่จัดที่เมือง Goshogawara ในจังหวัดอาโอโมริจะใช้ชื่อว่าเทศกาล Goshogawara Tachineputa Festival  ซึ่งถ้านักท่องเที่ยวมาเมืองนี้ในช่วงเวลาที่ไม่ตรงกับช่วงเทศกาลเนบุตะก็ยังสามารถซึมซับเรื่องราวของเทศกาลนี้ได้ โดยการไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ทาจิเนะปุตะ (Tachineputa Museum) ที่เมือง Goshogawara ภายในจัดแสดงโคมไฟที่มีความสูงถึง 23 เมตร เทียบได้กับตึก 7 ชั้น และหนักกว่า 19 ตัน และเรียกว่า ‘เนปุตะ (Neputa)’ ซึ่งแตกต่างจากที่อื่น

และยังสามารถชมการทำโคมไฟได้อย่างใกล้ชิด มีห้องทำเวิร์กช็อป คาเฟ่ รวมไปถึงร้านขายของฝาก นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมเวิร์กช็อปทำ ‘คิงเกียวเนปุตะ (Kingyo Neputa)’ หรือเนปุตะปลาทอง โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำ และดูแลตั้งแต่เริ่มต้นจนจบชิ้นงานอย่างใกล้ชิด

เดิน 1 นาที

2.มารุโค เซ็นเตอร์ (Maruko center)

จังหวัดอาโอโมริ (Aomori)

ตลาดปลาติดแอร์เล็กๆ ตั้งอยู่ข้างพิพิธภัณฑ์ทาจิเนะปุตะ (Tachineputa Museum) ขึ้นชื่อในเรื่องของสินค้าที่เป็นอาหารทะเลสดใหม่ และมีให้เลือกหลากหลาย สามารถซื้อแล้วนั่งทานที่นั่นหรือซื้อกลับบ้านก็ได้

เมนูเด็ดชื่อของที่นี่คือ “โนเฮะด้ง Nohedon” โดยให้ซื้อข้าวสวยก่อน แล้วค่อยเดินเลือกซื้อปลาดิบ ไข่ปลา กุ้ง กั้ง รวมทั้งอาหารทะเลที่ชอบจากร้านต่างๆ มาวางเรียงลงบนข้าว เป็นเมนูที่สร้างสรรค์ได้ตามใจชอบ นอกจากนี้ ขอแนะนำให้ลองชิมราเมงที่ใช้ปลามาทำน้ำซุปด้วย

รถไฟ 50 นาที

3.รถไฟเตาผิงซึการุ (Tsugaru Railway, Stove Winter Train)

จังหวัดอาโอโมริ (Aomori)

รถไฟเตาผิงซึการุ (Tsugaru Railway - Stove Winter Train) วิ่งเชื่อมต่อระหว่างสถานี Tsugaru Goshogawara กับสถานี Tsugaru Nakasato ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที 

เป็นขบวนรถไฟท่องเที่ยวสุดพิเศษที่จะเปิดเตาผิงให้ความอบอุ่นภายในขบวนในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่ต้นธันวาคมไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม โดยวิ่งให้บริการ 3 รอบต่อวัน ภายในโบกี้มีเตาผิงแบบโบราณ คอยให้ความอบอุ่น และให้ความรู้สึกได้นึกถึงบรรยากาศเก่าๆ 

ในรถไฟยังมีปลาหมึกแห้งจำหน่ายด้วย พนักงานจะย่างปลาหมึกแห้งบนเตาผิงจนกลิ่นหอมฟุ้งไปทั้งขบวน แนะนำให้เคี้ยวปลาหมึกย่างคู่กับการจิบสาเกท้องถิ่นเพลินๆ ในขณะที่ชมวิวหิมะสีขาวโพลนนอกหน้าต่าง 

รถยนต์ 20 นาที

4.ศาลเจ้าทาคายามะ อินาริ (Takayama Inari Shrine)

จังหวัดอาโอโมริ (Aomori)

ศาลเจ้าที่อุทิศให้กับเทพเจ้าแห่งการเก็บเกี่ยว และในปัจจุบันก็เป็นที่นิยมในการขอพรเรื่องความสำเร็จในธุรกิจต่าง ๆ มีไฮไลท์คือ "อุโมงค์เสาโทริอิสีแดง” ที่มีชื่อเรียกว่า (Senbon-Torii)” โดยตั้งเรียงรายต่อกันมากถึง 200 ต้น เป็นเส้นทางคดเคี้ยวผ่านธารน้ำ และสวนที่จัดตกแต่งไว้อย่างงดงาม โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะตกปกคลุมทั่วทั้งพื้นที่ ยิ่งทำให้เสาโทริอิสีแดงดูโดดเด่นตัดกับพื้นหิมะขาวโพลน เหมาะกับการถ่ายภาพสุด ๆ 

รถยนต์ 1 ชั่วโมง 20 นาที

5.โรงแรม โคกาเนะซากิ ฟุโรฟุชิ อนเซ็น (Koganezaki Furofushi Onsen)

จังหวัดอาโอโมริ (Aomori)

แหล่งอนเซ็นกลางแจ้งริมทะเล ตั้งอยู่บริเวณคาบสมุทรที่ยื่นไปในทะเลญี่ปุ่น ถือได้ว่าเป็นทั้งที่พักสำหรับแช่อนเซ็น และยังได้ชมวิวบรรยากาศชายทะเลไปในตัว

โดยไฮไลท์การแช่อนเซ็นของที่นี่คือ บ่อน้ำร้อนกลางแจ้งริมทะเล อุมิเบะ โนะ โระเทนบุโระ (Umibe no Rotenburo) ที่อยู่ใกล้ทะเลเพียงหนึ่งเมตร ได้มองเห็นวิวท้องฟ้า ได้ฟังเสียงคลื่นเสียงลมอย่างผ่อนคลาย โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ตกดินที่จะได้สัมผัสกับบรรยากาศสุดโรแมนติก 

บ่ออนเซ็นริมทะเลแบ่งเป็น 2 บ่อ ได้แก่ บ่อรวมเข้าได้ทุกเพศ และบ่อสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ นอกจากนี้ ยังมีห้องอาบน้ำรวมภายในอาคารให้เลือกใช้บริการได้เช่นเดียวกัน