ฮอกไกโด (Hokkaido) เป็นภูมิภาคแรก ๆ ที่เข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก่อนใครในญี่ปุ่น ราว ๆ ตั้งแต่กลางเดือนกันยายน ไปจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ขอแนะนำจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีใหม่ ๆ บนเส้นทางท่องเที่ยวยอดนิยม ซัปโปโร (Sapporo) – โอตารุ (Otaru) – นิเซโกะ (Niseko) ที่เดินทางสะดวกทั้งรถส่วนตัวและรถสาธารณะ สามารถวางแผนเที่ยวตามได้เลย
Day 1 เมืองซัปโปโร (Sapporo)
สวนพฤกษศาสตร์ฮิราโอคะ (Hiraoka Tree Art Center) เมืองซัปโปโร (Sapporo)
ภายในสวนมีต้นเมเปิลหลากหลายสายพันธุ์รวมกว่า 700 ต้น ไฮไลต์สำคัญคือ “อุโมงค์ใบไม้แดง” ที่ทางเดินทั้งสองข้างทางเรียงรายไปด้วยต้นเมเปิล เป็นจุดถ่ายรูปที่ห้ามพลาด
ส่วนในฤดูอื่น ๆ อย่างเช่น ฤดูใบไม้ผลิ ที่สวนแห่งนี้ก็มีดอกไม้ให้ชม เช่น ดอกฟูจิ (หรือ ดอกวิสทีเรีย) ที่มีลักษณะเป็นพวงย้อยระย้าสวยงาม และต้นซากุระที่เรียงรายดูคล้ายอุโมงค์สวย ๆ เช่นเดียวกัน
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนตุลาคม ถึงต้นเดือนพฤศจิกายน
ที่ตั้ง : https://maps.app.goo.gl/HCEm2XauknzC1Bhz5
สวนโฮะชิมิ เรียวคุชิ (Hoshimi Ryokuchi Park) เมืองซัปโปโร (Sapporo)
สวนแห่งนี้เที่ยวได้ทุกฤดู โดยเฉพาะช่วงใบไม้เปลี่ยนสีงดงามเป็นพิเศษด้วย “อุโมงค์ต้นแปะก๊วย” ทอดยาวกว่า 120 ต้น ที่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง บรรยากาศราวกับภาพในฝัน นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวบนเนินเขา ที่มองเห็นวิวโดยรอบสวนและทิวทัศน์ภูเขาไกลสุดสายตา
ใครที่เดินทางด้วยรถไฟ JR จากเมืองซัปโปโรไปยังเมืองโอตารุ สามารถแวะที่สวนนี้ระหว่างทาง ซึ่งตั้งอยู่ใกล้สถานี Hoshimi แล้วเดินต่อเพียง 10 นาทีก็ถึง
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนตุลาคม ถึงต้นเดือนพฤศจิกายน
ที่ตั้ง : https://maps.app.goo.gl/sJK2WP6cjbX24Bho8
Day 2 เมืองโอตารุ (Otaru)
สวนเทมิยะ (Temiya Park) เมืองโอตารุ (Otaru)
เป็นสวนที่ตั้งอยู่บนเนินเขา จึงมองเห็นทั้งทิวทัศน์ของสวน พร้อมฉากหลังที่เป็นวิวท้องทะเล และท่าเรือโอตารุ ได้อย่างเต็มตา
นอกจากจะได้ชมวิวสวนที่สวยงามในทุกฤดูแล้ว ภายในสวนยังมีต้นเกาลัดกว่า 250 ต้น นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นถ่ายภาพ เก็บลูกเกาลัดในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีได้อีกด้วย
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนตุลาคม ถึงต้นเดือนพฤศจิกายน
ที่ตั้ง : https://maps.app.goo.gl/arNsgz3QPT81noCj6
อาซาริกาวะ อนเซ็น (Asarigawa Onsen) เมืองโอตารุ (Otaru)
หมู่บ้านเล็ก ๆ อันเงียบสงบ ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองโอตารุ เพียง 20 นาทีโดยรถยนต์ และเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งบ่ออนเซ็นสาธารณะ โรงแรมและที่พักหลากหลาย รวมถึงพื้นที่ตั้งแคมป์ และสามารถมาเล่นสกีในฤดูหนาวได้
ภายในหมู่บ้าน ยังเป็นที่ตั้งของ “ทะเลสาบโอตารุไน (Lake Otarunai)” และมีสวนริมทะเลสาบ ให้ได้เดินเล่นชิล ๆ พร้อมดื่มด่ำกับวิวธรรมชาติสวย ๆ แบบในภาพได้อีกด้วย
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : กลางถึงปลายเดือนตุลาคม
ที่ตั้ง : https://maps.app.goo.gl/1PBpkFELMqnLfpna7
Day 3 เมืองนิเซโกะ (Niseko)
เมืองนิเซโกะ (Niseko)
เมือง Niseko ไม่ได้มีชื่อเสียงแค่สำหรับสกีในฤดูหนาว แต่ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน สามารถชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีสวย ๆ ได้หลายจุดรอบเมือง อาทิ
Niseko Panorama Line เส้นทางขับรถที่เชื่อมระหว่างเมือง Niseko กับเมืองอิวะนะอิ (Iwanai) ระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร สามารถเพลินตากับวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่โอบล้อมไปตลอดทาง
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายกันยายน ถึงกลางตุลาคม
ที่ตั้ง : https://maps.app.goo.gl/JfpeHAothsTmB5EK9
Shinsen-numa Marsh อีกจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยม ซึ่งอยู่ระหว่างทางของเส้นทาง Niseko Panorama Line ที่นี่เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีทางเดินไม้ทอดยาว ให้เดินชมทิวทัศน์ธรรมชาติโดยรอบ รวมทั้งพืชอัลไพน์หายาก ใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาที
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายกันยายน ถึงกลางตุลาคม
ที่ตั้ง : https://maps.app.goo.gl/s84feFCeBtf4uGMH7
Oyunuma Pond บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่อุดมไปด้วยแร่กำมะถัน ถือเป็นแหล่งตาน้ำพุร้อนที่ส่งไปยังเมืองอนเซ็นใกล้เคียง เช่น Yumoto Onsen และยังโอบล้อมไปด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติที่จะแปรผันความงามไปตามฤดูกาล เป็นอีกจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่ต้องแวะระหว่างทางของเส้นทาง Niseko Panorama Line
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายกันยายน ถึงกลางตุลาคม
ที่ตั้ง : https://maps.app.goo.gl/QQvYnEN4seW4Ax8E9
Fukidashi Park สวนแห่งนี้เป็นแหล่งตาน้ำผุดตามธรรมชาติ ที่มีต้นกำเนิดมาจากภูเขาโยเทอิ (Mt.Yotei) น้ำที่ผุดขึ้นมาอุดมด้วยแร่ธาตุ เย็นสดชื่น และสามารถดื่มได้ ภายในสวนยังมีร้านขายของฝากและร้านอาหารที่ใช้น้ำแร่ผุดเป็นวัตถุดิบในอาหาร และสามารถมองเห็นวิวภูเขาโยเทอิ ซึ่งมีรูปทรงคล้ายภูเขาไฟฟูจิได้อีกด้วย
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : ต้นถึงปลายตุลาคม
ที่ตั้ง : https://maps.app.goo.gl/BoiiHg2KveqSkE5o6
บทความใน Facebook :https://www.facebook.com/hokkaido-autumn