HOME Back

Use the

Planning a Trip to Japan?

Share your travel photos with us by hashtagging your images with #visitjapanjp

บทความพิเศษยอดนิยม ทัวร์รอบเกาะฮอกไกโดและภูมิภาคโทโฮคุ สัมผัสกับผู้คนในท้องถิ่น พบประสบการณ์พิเศษไม่เหมือนใคร และเรียนรู้วัฒนธรรมเก่าแก่ล้ำค่าให้ลึกซึ้งกว่าเดิม

ฮอกไกโดเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี นอกเหนือจากกิจกรรมการเล่นสกีในช่วงฤดูหนาวแล้ว พื้นที่แห่งนี้ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยวัตถุดิบต่างๆ ทั้งจากภูเขาและทะเล เกิดเป็นเมนูอาหารต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะในท้องถิ่น ส่วนภูมิภาคโทโฮคุนั้นเป็นแหล่งพื้นที่สำคัญที่ทุกคนจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมของญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้ง และยังอุดมไปด้วยเมนูอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อแสนอร่อย เทศกาลที่มีประวัติความเป็นมายาวนานที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมดินแดนแห่งนี้ ไม่ว่าคุณจะมาในช่วงฤดูร้อนก็จะได้สัมผัสกับธรรมชาติสีเขียวชอุ่ม หรือช่วงฤดูหนาวที่เต็มไปด้วยหิมะสีขาวโพลน เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้อย่างแน่นอน ในครั้งนี้เราจะขอพาทุกท่านไปทัวร์สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ พร้อมสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ในฮอกไกโดและภูมิภาคโทโฮคุ โดยคุณจะได้ลิ้มรสอาหารท้องถิ่น ชมวัฒนธรรมอันล้ำค่า เรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่ยังหลงเหลืออยู่ พร้อมไปสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้าน ให้การท่องเที่ยวครั้งนี้ของคุณเต็มไปด้วยความสนุก และรอยยิ้ม พร้อมสร้างความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน แม้อากาศจะหนาวสักเพียงใด แต่มนต์เสน่ห์ รอยยิ้มของผู้คน รวมถึงอาหารอันแสนอร่อย จะทำให้หัวใจคุณอบอุ่นขึ้นมาได้อย่างแน่นอน และคุณจะหลงรักฮอกไกโด และภูมิภาคโทโฮคุมากขึ้น จนอยากกลับไปเที่ยวอีกหลายๆ ครั้ง ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหนก็ตาม

 

ประลองฝีมือการตกหมึกญี่ปุ่นกลางตลาดเช้าฮาโกะดาเตะ (Hakodate Morning Market) จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) เต็มอิ่มกับอาหารทะเลสดๆ พร้อมของฝากมากมายให้ช็อปกันอย่างจุใจ

 

 

เริ่มต้นกันที่จังหวัดเหนือสุดของญี่ปุ่นอย่างฮอกไกโด (Hokkaido) ในครั้งนี้เราขอแนะนำเมืองฮาโกะดาเตะ (Hakodate) ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) เมืองท่าแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมาตั้งแต่ยุคสมัยเอโดะ (Edo) (1603-1868) วิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเมืองเมื่อมองจากภูเขาฮาโกะดาเตะ (Mount Hakodate) นั้นสวยงามจนขึ้นชื่อว่าเป็นจุดชมวิวของญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาด นอกจากนี้เมืองแห่งนี้ยังเด่นดังเรื่องอาหารทะเลสดใหม่ที่คุณจะได้ลิ้มรสความอร่อยของเมนูต่างๆ อย่างพลาดไม่ได้ ตลาดเช้าฮาโกะดาเตะ (Hakodate Morning Market)  เริ่มต้นขึ้นมาจากมุมลานกว้างหน้าสถานีฮาโกะดาเตะมาตั้งแต่ปี 1945 ต่อมาได้ย้ายที่ตั้งหลายครั้งจนกระทั่งได้มาตั้งอยู่ในสถานที่ปัจจุบัน ในตลาดมีร้านค้าต่างๆ เรียงรายกันมากกว่า 250 ร้าน ซึ่งนอกจากของขึ้นชื่อของจังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) อย่างปู ปลาแซลมอน และอาหารทะเลสดอื่นๆ แล้ว ร้านค้าต่างๆ ยังมีจำหน่ายอาหารแปรรูป ผักและผลไม้ ของใช้ในชีวิตประจำวัน และสินค้าอื่น ๆ อีกด้วย ตลาดแห่งนี้มีพื้นที่มากกว่า 30,000 ตารางเมตร ในตลาดแห่งนี้จะมีของทะเลสดใหม่ที่เพิ่งนำขึ้นมาจากทะเลในตอนเช้าตรู่มาวางเรียงรายกัน คุณจึงสามารถสัมผัสกับวัฒนธรรม “อาหารญี่ปุ่น” ที่จะรับประทานอาหารทะเลสด ๆ ใหม่ ๆ ที่คุณที่ยังไม่เคยรับประทานมาก่อน

ถ้าคุณมาที่นี่แล้วเราขอแนะนำกิจกรรมที่เป็นของขึ้นชื่อของตลาดแห่งนี้ให้ได้ลองเปิดประสบการณ์ใหม่ คือโซนตกหมึกกลางตลาด โดยใช้ไม้เบ็ดเกี่ยวตกปลาหมึกที่ว่ายไปมาอยู่ในอ่างที่เตรียมไว้ โดยสายพันธุ์ปลาหมึกและราคาก็จะแตกต่างกันไปตามฤดูกาลนั้นๆ พอคุณตกปลาหมึกขึ้นมาได้แล้วก็นำไปให้เชฟท้องถิ่นแล่ให้ทานเป็นซิชิมิกันแบบสดๆ สำหรับผู้ที่ไม่เคยลิ้มลองรสชาติปลาหมึกดิบสดๆ อาจจะรู้สึกแปลกๆ สักหน่อย แต่รับรองได้ว่ารสชาติปลาหมึกสดใหม่ที่นี่ เนื้อกรอบ หวานอร่อยจนคุณต้องติดใจอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ยังมีโซนโรงอาหารให้คุณได้ทานอาหารทะเลสดๆ ของฮอกไกโดอย่างปลาดิบ, ปูนึ่งตัวโตๆ, ไคเซนด้ง (Kaisen-don) หรือข้าวหน้าอาหารทะเล และเมนูอื่นๆ อีกมากมาย ก่อนกลับก็แวะเลือกซื้อของฝากอย่างอาหารทะเลแปรรูป ขนมหวานต่างๆ ได้อีกด้วย

ตลาดนี้เปิดทำการทุกวันไม่มีวันหยุด ตั้งแต่เวลาเช้าตรู่ (ขึ้นอยู่กับฤดูกาล) ไปจนถึงประมาณ 14:00 น. เดินชิม ชมและช็อปกันได้เพลินๆ ตั้งแต่เช้าไปจนถึงบ่ายๆ เลยทีเดียว นอกจากนี้ใกล้ๆ กันกับตลาดแห่งนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น ฮาโกะดาเตะเมจิคัง (Hakodate Meijikan) อาคารอิฐสีแดงที่สร้างขึ้นในยุคเมจิ (Meiji) (1868-1912) เป็นที่ทำการไปรษณีย์ โดยปัจจุบันเปิดเป็นช็อปปิ้งมอลล์ให้ซื้อของฝาก และยังมีโซนให้คุณได้ทำกล่องดนตรี และเพ้นท์แก้วอีกด้วย

 

ท่องเที่ยวไปในจังหวัดที่มีเทศกาลหน้าร้อนขึ้นชื่อของญี่ปุ่น ลิ้มรสอาหารพื้นบ้านหม้อไฟดามาโคะ (Damako Nabe) เมนูท้องถิ่นทำจากข้าวของจังหวัดอาคิตะ (Akita) ด้วยฝีมือของคุณเอง พร้อมพูดคุยกับชาวบ้าน เรียนรู้วิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นได้ที่นี่

 

 

ลงมาที่จังหวัดแรกในภูมิภาคโทโฮคุที่เราขอแนะนำคือจังหวัดอาคิตะ (Akita) จังหวัดนี้เต็มไปด้วยธรรมชาติอันสวยงาม แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ก็มีเสน่ห์ที่เปลี่ยนไปตามแต่ละฤดู ในช่วงฤดูร้อน ชาวจังหวัดอาคิตะจะมีการจัด “เทศกาลฤดูร้อน” ขึ้นตามแต่ละพื้นที่ เพื่อขอพรต่อเทพเจ้าให้ร่มเย็นเป็นสุข และพืชผลทางการเกษตรมีความอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เทศกาลแห่โคมไฟ (Akita Kanto)” ที่โด่งดังทั้งในหมู่ท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ ต่างไม่พลาดต้องเดินทางมาร่วมชมความสวยงามและความยิ่งใหญ่ของเทศกาลนี้ นอกจากนี้แล้วจังหวัดแห่งนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องการปลูกข้าว และมีการนำข้าวมาทำเป็นเมนูอาหารท้องถิ่นต่างๆ ที่ขึ้นชื่อ โดยครั้งนี้เราจะขอแนะนำอาหารพื้นเมืองที่หาทานกันได้ยากอย่างเช่นหม้อไฟดามาโคะ (Damako Nabe) จริงๆ หากพูดถึงอาหารท้องถิ่นของจังหวัดอาคิตะ (Akita) อาหารขึ้นชื่อของจังหวัดนี้ก็คือคิริตัมโปะ (Kiritanpo) ซึ่งเป็นเมนูที่นำข้าวสวยที่เราทานกันปกติไปตำให้เหนียวเป็นโมจิ (Mochi) แล้วนำไปปั้นเป็นทรงแท่งยาว เสียบไม้แล้วย่างไฟรับประทานกัน แต่ยังมีอีกเมนูหนึ่งที่ชาวจังหวัดอาคิตะทานกันเป็นเมนูอาหารประจำบ้าน และรสชาติอร่อยไม่แพ้กันเลยก็คือ หม้อไฟดามาโคะ (Damako Nabe) นั่นเอง

หม้อไฟดามาโคะ (Damako Nabe) เป็นหม้อไฟที่ใส่ดามาโคะโมจิ (Damako mochi) เข้าไป ซึ่งว่ากันว่าประวัติความเป็นมาของโมจิชนิดนี้มีมายาวนานกว่าคิริตัมโปะเสียอีก วิธีทำดามาโคะโมจิก็ง่ายมากๆ คือการนำข้าวสวยไปตำให้ละเอียดและนำมาปั้นเป็นก้อนทรงกลมนั่นเอง เสร็จแล้วจึงนำไปใส่ในหม้อไฟต้มทานกับผักหลากหลายชนิด เพิ่มความอบอุ่นในช่วงฤดูหนาวได้เป็นอย่างดี เมนูนี้นอกจากทำทานกันเองที่บ้านแล้ว ยังเป็นเมนูอาหารกลางวันของโรงเรียนในจังหวัดอีกด้วย

โรงเรียนสอนประสบการณ์ซาโตะกุระชิ (Satogurashi Taiken Juku) เป็นโรงเรียนเพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์วิถีท้องถิ่น มีการเปิดห้องเรียนฝึกทำหม้อไฟดามาโคะ (Damako Nabe) โดยมีชาวท้องถิ่นเป็นผู้สอน คุณจึงสามารถสัมผัสประสบการณ์วัฒนธรรมอาหารท้องถิ่นในแถบนี้ได้จากการทำหม้อไฟ

คลาสเรียนทำเมนูหม้อไฟดามาโคะจัดขึ้นที่ศูนย์เรียนรู้วิถีพื้นบ้านซาโตะคุราชิไทอิเคนจุกุ (Sato Kurashi Taiken Juku) สอนโดยคนในท้องถิ่นทำให้ทุกคนจะได้ลิ้มรสอาหารชนิดนี้ด้วยรสชาติดั้งเดิม นอกจากคอร์สทำอาหารเมนูชนิดนี้แล้ว ทางศูนย์ก็ยังจัดเตรียมคอร์สอื่นๆ อีกมากมาย เช่น การทำเทียนในเปลือกหอยซาซาเอะ (Japanese turbo shells), ประดิษฐ์ฟางสาน เป็นต้น หรือจะไปเที่ยวเรียนรู้ประเพณีท้องถิ่นและประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับ “นามาฮาเงะ (Namahage)” ซึ่งเป็นเทพอสูรที่จะมาเยี่ยมเยียนมนุษย์ในวันสุดท้ายของปีที่พิพิธภัณฑ์ (Namahage Museum) ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คุณจะได้เห็นหน้ากากเทพอสูรนามาฮาเงะมากกว่า 150 หน้าที่ชาวบ้านประดิษฐ์ขึ้นมา

เพลิดเพลินในบรรยากาศอบอุ่น เป็นกันเองกับคนในท้องถิ่น สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ที่มีเฉพาะที่นี่เท่านั้น
 

ชมสวนประวัติศาสตร์จำลองฉากสมัยเฮอัน (Heian) เรียนรู้ความเป็นมาของวัฒนธรรมฮิราอิซุมิ (Hiraizumi Culture) และเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ตามแบบยุคโบราณที่สวนทางประวัติศาสตร์หมู่บ้านโบราณเอะสะชิฟูจิวาระ (Esashi-Fujiwara Heritage Park) ในจังหวัดอิวาเตะ (Iwate)

 

ⓒEsashi-Fujiwara Heritage Park

 

ต่อไปเราขอแนะนำให้ท่านรู้จักกับจังหวัดอิวาเตะ (Iwate) ซึ่งอยู่ติดกับฝั่งตะวันออกของจังหวัดอาคิตะ (Akita)  จังหวัดนี้เต็มไปด้วยแหล่งน้ำพุร้อนอนเซ็น (Onsen) ที่จะช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าของร่างกายของคุณ และเมนูอาหารทะเลก็ขึ้นชื่อสุดๆ จนเราไม่อยากให้คุณพลาด นอกจากนี้ที่นี่ยังอุดมไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่จะบอกเล่ายุคสมัยอดีตและ “วัฒนธรรมฮิราอิซุมิ (Hiraizumi Culture)” ซึ่งเป็นวัฒนธรรมหนึ่งของญี่ปุ่นที่มีความเป็นมาตั้งแต่สมัยเฮอัน (1794-1185) และสืบทอดมาจนถึงยุคปัจจุบัน ครั้งนี้เราจะพาทุกท่านไปชมสวนทางประวัติศาสตร์หมู่บ้านโบราณเอะสะชิฟูจิวาระ (Esashi-Fujiwara Heritage Park) ที่นอกจากท่านจะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆ และเมนูอาหารที่หาทานไม่ได้ง่ายๆ สวนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1993 เพื่อใช้ในการถ่ายทำละครโทรทัศน์ โดยมีอาคารและสิ่งก่อสร้างรวมกว่า 120 หลัง ในพื้นที่ขนาด 20 เฮกตาร์ โดยแต่ละอาคารล้วนสร้างโดยอิงจากประวัติศาสตร์ในยุคสมัยเฮอัน (Heian) ทำให้เมื่อก้าวเข้าไปแล้วราวกับได้ย้อนยุคกลับไปในสมัยนั้น

อาคารสำคัญที่ไม่ควรพลาดไปชม ได้แก่ อาคารบ้านซามูไร, อาคารรัฐบาล, บ้านจำลองของขุนนาง เป็นต้น นอกจากอาคารต่างๆ ที่คุณจะได้ชมความงามของสถาปัตยกรรม และบรรยากาศการใช้ชีวิตของผู้คนในยุคนั้นแล้ว คุณจะได้ชมสวนดอกไม้และพรรณพืชต่างๆ ที่แตกต่างไปในแต่ละฤดู รวมถึงหิมะสีขาวโพลนในช่วงฤดูหนาว เรียกได้ว่าไปเที่ยวฤดูไหนก็มีไฮไลท์ให้ได้ชมกันตลอดทั้งปี
หลังจากเที่ยวชมบรรยากาศต่างๆ ไปแล้ว ที่สวนนี้ยังมีการจัดกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวเข้าร่วมหลากหลาย เช่น การแต่งเครื่องแต่งกายของขุนนางในสมัยก่อน, ทดลองยิงธนูแบบซามูไร, สวมเสื้อเกราะแบบซามูไร เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมก็มีทั้งแบบเสียค่าใช้จ่าย และให้เข้าร่วมได้ฟรี นอกจากนี้ยังมีอาคารจัดโซนถ่ายภาพศิลปะ 3 มิติ ฉบับสมัยเฮอัน ให้คุณได้ถ่ายรูปสนุกๆ เก็บเป็นที่ระลึกได้

หลังจากเหนื่อยกับการเดินชมเที่ยวแล้วสามารถแวะพักทานอาหารได้ที่ร้านอาหารในสวน พิเศษสุดคือหากมีผู้เดินทาง 5 ท่านขึ้นไปสามารถสั่งอาหารสไตล์เฮอัน (Heian) มาลิ้มรสกันได้ เรียกว่ามาที่เดียวได้ครบทั้งความรู้ ความสนุก และความอร่อยอิ่มท้องกลับไปอย่างแน่นอน ใกล้ๆ กันกับสวนนี้มีแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อื่นๆ อีกมากมาย และสวนสาธารณะขนาดใหญ่อย่าง คิตะคะมิเทนโชจิ (Kitakami Tenshochi Park) ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงามของต้นซากุระที่ปลูกเรียงรายริมฝั่งแม่น้ำที่คุณต้องไปชมให้ได้สักครั้ง
 

สนุกกับกิจกรรมเดินป่า แช่บ่อน้ำพุร้อน และเปิดประสบการณ์ทดลองทำเส้นโซบะแบบพื้นเมือง พร้อมพักผ่อนไปในบรรยากาศกลางทุ่งนาขั้นบันไดที่หมู่บ้านโอคุระ (Okura Village) จังหวัดยามากาตะ (Yamagata)

 

 

จังหวัดถัดมาคือจังหวัดยามากาตะ (Yamagata) ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งทะเลญี่ปุ่นของภูมิภาคโทโฮคุ มีแหล่งน้ำพุร้อนอนเซ็น (Onsen) เป็นจำนวนมากที่อยู่ท่ามกลางพื้นที่ที่เขียวจีซึ่งโอบล้อมไปด้วยภูเขาที่แสนงดงาม อย่างเช่น ซาโอ (Zao) ภูเขากัซซัง (Gazzan) ฯลฯ  สามารถเดินทางโดยนั่งรถไฟชินคันเซน (Shinkansen) จากโตเกียวใช้เวลาเพียงประมาณ 3 ชั่วโมง จังหวัดนี้ล้อมรอบไปด้วยภูเขาน้อยใหญ่ที่สวยงาม เช่น ภูเขาซะโอ (Mount Zao) และภูเขากัซซัง (Mount Gassan) เป็นต้น และยังเต็มไปด้วยแหล่งน้ำพุร้อน (Onsen) เขตพื้นที่ที่มีอากาศและน้ำสะอาดสดชื่นแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงด้านการเป็นแหล่งผลิตผลไม้อย่างเชอร์รี่ เมล็ดข้าว และเมล็ดโซบะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโซบะที่คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับวิธีการรับประทานรูปแบบต่าง ๆ เช่น “อิตะโซบะ (Ita-soba)” ที่เสิร์ฟมาในกระบะไม้ หรือ “โซบะเนื้อเย็น (tsumetai-niku-soba)” ซึ่งเป็นโซบะสูตรเย็นที่ใส่เนื้อลงไป ฯลฯ ที่นี่มีกิจกรรมที่เราอยากแนะนำให้คุณได้ไปลองสักครั้ง โดยจะเป็นอย่างไรหากครั้งนี้คุณได้ลองลงมือทำโซบะ (Soba) แบบพื้นเมืองกับแม่บ้านญี่ปุ่นทานเองสักครั้ง ที่ฟุรุซาโตะ มิไรคัง (Furusato Miraikan) ในหมู่บ้านโอคุระ (Okura Village) จังหวัดยามากาตะ (Yamagata) ที่นี่เปิดคอร์สสอนทำเส้นโซบะแบบพื้นเมืองที่เรียกว่า “อิตะโซบะ (Ita Soba)” โดยใช้แป้งโซบะที่ผลิตในท้องถิ่นนำมานวดมือทีละขั้นตอนอย่างประณีต ก่อนจะนำไปลวกเป็นเส้นโซบะใส่ในกล่องไม้ขนาดใหญ่ให้ทุกท่านได้ลิ้มรสอร่อยกัน กิจกรรมนี้ให้เด็กๆ ตั้งแต่อายุ 7 ขวบเข้าร่วมได้ นับเป็นกิจกรรมสนุกๆ ทำกันเป็นครอบครัว

ในหมู่บ้านโอคุระ (Okura Village) มีทุ่งนาขั้นบันได ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่ออีกอย่างหนึ่ง เพราะเป็นทุ่งนาที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามให้คุณได้ชมครบทั้ง 4 ฤดู เมื่อแสงแดดส่องกระทบน้ำในทุ่งนาจะส่งประกายระยิบระยับในช่วงฤดูใบไม้ผลิ, ต้นข้าวสีเขียวสดที่เจริญงอกงามในช่วงฤดูร้อน, ต้นข้าวที่ออกรวงสวยงามเหลืองอร่ามในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และทุ่งนาสีขาวโพลนด้วยหิมะในช่วงฤดูหนาว ไม่ว่าจะเดินทางไปยังฤดูไหนคุณก็สามารถชมความงามของทุ่งนานี้ได้อย่างไม่ผิดหวังแน่นอน
นอกจากกิจกรรมทำเส้นโซบะแล้ว ในหมู่บ้านนี้ยังมีกิจกรรมเดินป่า, กิจกรรมเดินสำรวจปล่องภูเขาไฟฮิจิโอะริ (Hijiori Caldera), กิจกรรมเก็บเห็ด เป็นต้น ก่อนกลับคุณสามารถแวะแช่บ่อน้ำพุร้อนที่ฮิจิโอริ อนเซ็น (Hijiori Onsen) ที่เปิดมายาวนานกว่า 1200 ปีแล้วกันได้
พักผ่อนทั้งใจและกายไปในบรรยากาศของธรรมชาติ สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ กับชาวบ้านในท้องถิ่นของญี่ปุ่นที่จะทำให้การเดินทางครั้งนี้ของคุณอบอุ่นจนลืมไม่ลง

 

เต็มอิ่มกับเมนูคิตะคะตะราเม็ง (Kitakata Ramen) ราเม็งชื่อดังของญี่ปุ่น พักผ่อนแช่น้ำพุร้อนให้สบายตัวและไปเปิดโลกวัฒนธรรมญี่ปุ่น ชมการแสดงของเกอิชา (Geisha) และทดลองเป็นซามูไรที่เมืองแห่งน้ำพุร้อน ฮิงาชิยามะอนเซ็น (Higashiyama Onsen) จังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima)

 

 

สุดท้ายกับจังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima) ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ของภูมิภาค ที่นี่นอกจากคุณจะได้ชื่นชมกับธรรมชาติอันสวยสดงดงามของที่ลุ่มชื้นโอเซะ (Ozegahara), ชมหงส์ขาวที่ทะเลสาบอินาวาชิโระ  (Lake Inawashiro) และสัมผัสวัฒนธรรมสมัยเอโดะ (Edo) ที่ปราสาทซึรุกะ หรือปราสาทนกกระเรียน (Tsuruga Castle) แล้ว ยังมีอาหารขึ้นชื่ออย่างคิตะคะตะราเม็ง (Kitakata Ramen) ซึ่งเป็นเมนูที่โด่งดังของญี่ปุ่น รวมไปถึงเมนูท้องถิ่นที่ทำจากวัตถุดิบสุดแสนอร่อยทั้งจากทะเลและจากภูเขา ก่อนจบทริปอันแสนประทับใจนี้เราจะพาทุกท่านไปพักผ่อนแช่น้ำพุร้อนให้สบายตัวกันที่ฮิงาชิยามะอนเซ็น (Higashiyama Onsen) จังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima) ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีโรงแรมให้บริการแช่น้ำพุร้อนอยู่มากมายให้คุณได้เลือกเข้าพัก โดยตั้งอยู่ห่างจากเมืองไอซุวะกะมัทสึ (Aizu-wakamatsu) ประมาณ 10 นาทีจากการเดินทางด้วยรถยนต์ นอกเหนือจากการพักผ่อนตามสไตล์ญี่ปุ่นแล้ว ที่นี่ยังเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมาย เช่น ปราสาทไอซุวะกะมัทสึ (Aizu-Wakamatsu Castle), ศาลเจ้าฮากุโระซังยุกะมิ (Hagurosanyugami Shrine) เป็นต้น

หากได้มาเยี่ยมเมืองนี้แล้วต้องไม่พลาดชมการแสดงการร้องเพลงและร่ายรำของฮิงาชิยามะเกงิ (Higashiyama Geigi) หรือที่ทุกคนรู้จักกันว่าเกอิชา (Geisha) ซึ่งเป็นการแสดงที่มีมาตั้งแต่ยุคสมัยเอโดะ (Edo) (1603-1868) เลยทีเดียว

หากรักในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่นแล้ว ที่นี่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวเกี่ยวกับซามูไรอย่างพิพิธภัณฑ์บ้านซามูไรไอซุ (Aizu Bukeyashiki) ซึ่งเป็นบ้านของซามูไรในอดีต โดยจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงบรรยากาศในบ้านให้คุณได้สัมผัสถึงชีวิตความเป็นอยู่ของคนในยุคสมัยก่อนได้เป็นอย่างดี หลังจากเรียนรู้ประวัติศาสตร์แล้ว ที่นี่ยังมีเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ลองเป็นซามูไรด้วยกิจกรรมต่างๆ เช่น การฝึกเคนโดแบบซามูไร, การฝึกดาบยาว, การยิงธนู และสวมชุดเกราะแบบซามูไร (สามารถตรวจสอบวันและเวลาให้บริการได้ที่เว็บไซต์เพิ่มเติม) เรียกได้ว่าคนรักซามูไรญี่ปุ่นพลาดกิจกรรมสนุกๆ แบบนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน

  • Home
  • Experiences in Japan
  • ทัวร์รอบเกาะฮอกไกโดและภูมิภาคโทโฮคุ สัมผัสกับผู้คนในท้องถิ่น พบประสบการณ์พิเศษไม่เหมือนใคร และเรียนรู้วัฒนธรรมเก่าแก่ล้ำค่าให้ลึกซึ้งกว่าเดิม | Experiences in Japan | Travel Japan(องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น)

Please Choose Your Language

Browse the JNTO site in one of multiple languages