HOME Back

Use the

Planning a Trip to Japan?

Share your travel photos with us by hashtagging your images with #visitjapanjp

10 สถานที่ชมพระอาทิตย์แรกของปี ฮัตสึฮิโนะเดะ (Hatsuhinode)

ประเทศญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายที่ใครหลายคนนิยมเดินทางไปเคาท์ดาวน์ปีใหม่ ในช่วงนี้ของทุกปีจะเริ่มมีการจุดพลุกันทุกคืนตั้งแต่วันที่ 29 ไปจนถึงคืนวันปีใหม่ ที่ พอถึงเวลาเที่ยงคืนจะมีการจุดพลุเฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่

 

วันปีใหม่ดีต่อนักท่องเที่ยวอย่างไร

ข้อดีของการมาเที่ยวปีใหม่ที่ญี่ปุ่น นอกจากจะได้แวะไปตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังมากมาย คุณยังจะได้สัมผัสวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นอย่างแท้จริง อาทิเช่น
● ซื้อถุงนำโชค (Lucky Bags) ตามห้างร้านต่าง ๆ ที่เริ่มขายหลังปีใหม่
● ได้ของในราคาถูก เพราะช่วง 1-2 อาทิตย์ก่อนคริสต์มาส มักจะมีการลดราคาสินค้าครั้งใหญ่
● เที่ยวตัวเมืองใหญ่แบบสบาย ๆ เพราะคนในเมืองมักเดินทางกลับต่างจังหวัด
● ดื่มด่ำบรรยากาศโรแมนติก ชมเทศกาล Illuminations ไฟประดับต่าง ๆ ตามเมือง
● เคาท์ดาวน์พร้อมไฟประดับ ทั้งแสง สี เสียงสุดอลังการ
● ขอพรปีใหม่ที่วัด หรือศาลเจ้าพร้อมกับชาวญี่ปุ่นเรียกว่า ฮัตสึโมเดะ (Hatsumode)
● ลิ้มรสอาหารวันปีใหม่ เพื่อนำโชคดีมาให้ และขอให้มีสุขภาพแข็งแรง ในช่วงนี้ เรียวกัง และโรงแรมต่างพากันทำอาหารปีใหม่เรียกว่า โอเซจิเรียวริ (Osechi Ryori) สำหรับลูกค้าที่มาพัก
● ทานอาหารส่งท้ายปีเก่าอย่าง โทชิโคชิโซบะ (Toshikoshi Soba) เพื่อชีวิตที่ยืนยาวเหมือนเส้นโซบะ
● ชมพิธีการตีโมจิในวันปีใหม่ตามสถานที่ต่าง ๆ
● ชมการบรรเลงดนตรีด้วยโกโตะ (Koto)
● ชมการเชิดสิงโตแบบญี่ปุ่นที่เรียกว่าชิชิไม (Shishimai)
● ชมพิธีการตีโมจิในวันปีใหม่ตามสถานที่ต่าง ๆ

 

ข้อพึงระวังในการเที่ยวญี่ปุ่นช่วงวันหยุดยาวปีใหม่

1. ในช่วงวันที่ 29 ธันวาคม – 3 มกราคม ร้านต่าง ๆ และสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งมักจะปิดให้บริการ (ขึ้นอยู่กับร้านค้า)
2. ในช่วงวันที่ 29 ธันวาคม – 3 มกราคม ตู้เอทีเอ็ม และธนาคารบางแห่งอาจปิดให้บริการ ควรจะเตรียมเงินสดสำหรับที่ต้องการใช้ให้มีจำนวนที่เพียงพอ
3. วันที่ 31 ธันวาคม ร้านอาหารหรือร้านขายของหลาย ๆ ร้านจะเริ่มทยอยหยุด และห้างสรรพสินค้าเองจะปิดเร็วกว่าเวลาปกติ
4. การคมนาคมต่าง ๆ ได้แก่ การเดินทางโดยรถไฟ รถยนต์ เครื่องบิน การจราจร และจำนวนผู้ใช้บริการอาจหนาแน่นมาก เนื่องจากชาวญี่ปุ่นมักเดินทางจากตัวเมืองใหญ่ไปต่างจังหวัดในช่วงวันที่ 27-30 ธันวาคม และจะออกเดินทางกลับมายังตัวเมืองใหญ่ในช่วงวันที่ 3-4 มกราคม
5. ควรระมัดระวังตัว โดยเฉพาะพาสปอร์ตและทรัพย์สินมีค่าเพราะไม่ว่าที่ไหนก็จะเต็มไปด้วยผู้คน
6. สถานที่ที่เปิดในช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ ได้แก่ วัด ศาลเจ้า และสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ

ในช่วงเดือนธันวาคม ไปจนถึง เดือนมกราคม จะเป็นช่วงฤดูหนาวของประเทศญี่ปุ่น มีอุณหภูมิเฉลี่ยตั้งแต่ 0-15 องศาเซลเซียส ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่ช่วยให้ความอบอุ่น เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยที่จะเกิดขึ้นระหว่างทริป เช่นด้านในใส่เป็นลองจอห์นทับกับเสื้อคลุม และมีแจ๊คเกตกันลมตัวหนาพิเศษคลุมด้านนอก ใครขี้หนาวสามารถพันผ้าพันคอ ถุงมือ และถุงเท้าอย่างหนาก็เป็นอีกอย่างที่สำคัญ แนะนำให้ใช้ไคโระ (ถุงร้อน) แบบถุงตามร้านขายยา หรือร้านสะดวกซื้อทั่วไป เพื่อใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ เวลาเดินซุกมือในกระเป๋า และกำถุงไคโระ หรือไคโระแบบแผ่นบางไว้แปะด้านในเสื้อผ้าให้อุ่น

 

กิจกรรมสำคัญในช่วงปีใหม่ที่ญี่ปุ่น

กิจกรรมสำคัญที่ทุกบ้านจะทำในช่วงนี้คือ ธรรมเนียมการทำความสะอาดครั้งใหญ่ในช่วงสิ้นปี เรียกว่า โอโซจิ (Oosoji) จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม นับเป็นวันแรกของการเตรียมตัวต้อนรับเทศกาลปีใหม่ และทำให้เสร็จก่อนวันที่ 28 ธันวาคม โดยจะปัดกวาดสิ่งสกปรก และความโชคร้ายของปีที่ผ่านมา เพื่อต้อนรับสิ่งดี ๆ ที่จะเข้ามาในบ้านในปีถัดไป

 

 

ตามหน้าบ้าน และห้างร้านจะมีการตกแต่งของมงคลเพื่อต้อนรับวันขึ้นปีใหม่ ประกอบไปด้วย
● นำคะงะมิโมจิ (Kagami Mochi) หรือเครื่องสักการะที่เป็นขนมโมจิ รูปทรงแบนเล็กน้อย วางซ้อนกันสองชั้น ด้านบนสุดประดับด้วยผลส้ม ไปวางที่มุมศักดิ์สิทธิ์ของบ้าน เมื่อพ้นช่วงปีใหม่ไป ประมาณวันที่ 11 มกราคม โมจิทั้งสองลูกก็จะถูกกินเพื่อเสริมสิริมงคลให้กับคนในบ้าน
● ประดับซุ้มสน คะโดะมะสึ (Kado Matsu) ที่ประตูรั้วบ้าน เพื่อต้อนรับเทพเจ้า และบรรพบุรุษ ให้เข้ามาในบ้านได้ถูกต้อง
● แขวนเชือกศักดิ์สิทธิ์ ชิเมะคะซะริ (Shime Kazari) บนระเบียง ด้านนอกของประตูทางเข้าบ้าน หรือ ประตูหลังบ้าเป็นสัญลักษณ์เพื่อเปิดทางให้เทพเจ้าท่านได้ผ่านเข้ามา
● การส่งไปรษณีย์บัตรปีใหม่ หรือในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า เน็งกะโจ (Nengajo) เพื่ออวยพรวันปีใหม่ ให้กับ ญาติพี่น้อง เพื่อน หรือเพื่อนร่วมงาน
● การไปไหว้พระขอพร
● ในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ดูทีวีช่อง NHK มีรายการเพลงพิเศษ “โคฮะขุ อุตะ กักเซ็น (Kohaku uta gassen)”
● การรับประทานโซบะ (Toshikoshi Soba) ช่วงห้าทุ่ม ก่อนเข้าสู่วันปีใหม่ เพราะเชื่อว่าจะทำให้ชีวิตยืนยาวเหมือนเส้นโซบะ การรับประทานซุปโอะโซนิ (Ozoni) อาหารที่มีมาแต่โบราณของญี่ปุ่น นิยมทานกันในช่วงวันขึ้นปีใหม่ ในแต่ละท้องถิ่นก็จะมีสไตล์การปรุงเป็นเอกลักษณ์ เฉพาะตัว
● กิจกรรมชมพระอาทิตย์แรกของปี ฮัตสึฮิโนะเดะ (Hatsuhinode)
● ตอนเช้าปีใหม่จนถึงวันที่สามของ วันขึ้นปีใหม่ ชาวญี่ปุ่นมักรับประทานอาหารที่มีเฉพาะวันขึ้นปีใหม่ ที่เรียกว่า โอเซจิเรียวริ (Osechi Ryori) เพื่อให้โชคดี และมีสุขภาพแข็งแรง
● การละเล่นปีใหม่ เช่น การตีลูกขนไก่ (Hagoita), การเล่นลูกข่าง (koma), การเล่นว่าว (takoage), หรือการเล่นไพ่ (karuta) เป็นต้น
● เทศกาลไม้ตีลูกขนไก่โบราณ (Hagoita-ichi) จัดช่วงกลางเดือนธันวาคม ที่ วัดดังแห่งอาซากุสะ (Asakusa) ในโตเกียว (Tokyo) ชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่าไม้ฮะโกอิตะ (Hagoita) นี้ ช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายให้ผ่านไปก่อนที่ปีใหม่จะมาเยือน ถือว่าเป็นเครื่องรางอย่างหนึ่ง ทำให้ชาวญี่ปุ่นจึงมักจะมาเลือกซื้อ เพื่อนำไปประดับบ้านก่อนวันขึ้นปีใหม่

 

กิจกรรมชมพระอาทิตย์แรกของปี ฮัตสึฮิโนะเดะ (Hatsuhinode)

คนญี่ปุ่นเชื่อกันว่าการชมพระอาทิตย์แรกของปี หรือที่เรียกว่าฮัตสึฮิโนะเดะ (Hatsuhinode) มีพลังศักดิ์สิทธิ์ ตามความเชื่อที่ว่าเทพเจ้าแห่งปีใหม่ จะเสด็จมายังโลกพร้อมกับพระอาทิตย์ในเช้าวันที่ 1 มกราคม และหากเราได้ขอพรต่อแสงแรกของปีจะนำพามาซึ่งความสุขตลอดทั้งปี

โดยช่วงเวลาในการชมพระอาทิตย์แรกที่ดีที่สุดจะอยู่ที่ประมาณ 6 โมง 45 นาที ถึง 7 โมง 25 นาที และสถานที่ที่ชาวญี่ปุ่นมักจะเดินทางไปก็คือ บนภูเขา รอบภูเขาไฟฟูจิ ชายหาด และตามตึกสูงในเมือง

 

ครั้งนี้จะมาแนะนำ 10 สถานที่ชมพระอาทิตย์แรกของปีที่ได้รับความนิยมทั่วประเทศ

 

แหลมโซยะ (Cape Soya), ฮอกไกโด (Hokkaido)


 

 

แหลมโซยะ (Cape Soya) เป็นจุดที่อยู่เหนือที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองวักกะไน(Wakkanai) ในจังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) โดยแหลมโซยะ (Cape Soya) มีอนุสรณ์ทรงสามเหลี่ยมตั้งอยู่เพื่อเป็นการบ่งบอกว่าจุดนี้คือจุดที่เหนือที่สุด หรือ The Monument of Northernmost Point of Japan และยังมาพร้อมกับวิวทะเลที่เปิดกว้างและสวยงาม นอกจากนี้ยังสามารถเห็นเกาะซาฮาลิน (Sakhalin) ซึ่งเป็นเกาะของรัสเซียในปัจจุบัน

จุดชมพระอาทิตย์แรกของปี และช่วงเวลาชม

บริเวณแหลมโซยะ (Cape Soya) สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นได้อย่างชัดเจน ก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับการชมพระอาทิตย์แรกในจุดที่เหนือที่สุดของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
พยากรณ์เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2023 พระอาทิตย์ขึ้นช่วง 7:12 น.
อ้างอิง https://tenki.jp/newyear/#area_1

กิจกรรมอื่นๆ

ไม่ใกล้ไม่ไกลกับแหลมโซยะ (Cape Soya) ยังมีจุดที่น่าไปถ่ายรูปอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเนินบริเวณใกล้เคียงที่สามารถเห็นวิวทะเลและเนินทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่ หรืออาจจะได้พบเห็นกวางป่า หรือวัวดำในฟาร์มใกล้เคียงออกมาเดินเล่นอีกด้วย หรือจะไปถ่ายภาพสวย ๆ ที่เส้นทางเปลือกหอยสีขาว (Path of White Shells) เป็นถนนที่ราดด้วยเปลือกหอยเชลล์สีขาวบด ทำให้ถนนเส้นนี้มีสีขาวสะอาดเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยว และกังหันลมไฟฟ้าขนาดใหญ่ใกล้ ๆ กันนั้นก็เป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมไม่แพ้กัน

เมนูท้องถิ่นแนะนำ

เนื้อวัวดำโซยะ (Soya Black Beef) เนื้อวัวจากวัวดำที่เลี้ยงแบบปล่อยให้หาอาหารเองตามธรรมชาติ โดยวัวจะคอยหากินหญ้าและถั่วเหลืองที่โตขึ้นบริเวณฟาร์มที่เป็นเนินเขาในฤดูร้อน และจะกินฟางแห้งในช่วงฤดูหนาว ทำให้เนื้อมีความแดงสดและมีชั้นไขมันที่ใกล้เคียงเนื้อวากิว นิยมนำมาทำอาหารประเภทโดยเฉพาะเนื้อสเต๊ก

 

 

ที่อยู่ Cape Soya
3 Soyamisaki, Wakkanai, Hokkaido
การเดินทาง จากสถานี Sapporo โดยสารรถไฟ Soya-Sarobetsu ใช้เวลา 5 ชั่วโมง 12 นาที จากนั้นโดยสารรถบัส Soya bus ลงป้าย Soya Misaki ใช้เวลา 50 นาที
เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://www.city.wakkanai.hokkaido.jp/kanko/midokoro/spot/chinohi.html
http://wakkanai-brand.jp/chiikishigen/c02_souyamisaki_full.html
https://www.north-hokkaido.com/spot/detail_1018.html
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://en.visit-hokkaido.jp/destinations/visit-the-monument-to-japans-northernmost-point-at-hokkaidos-cape-soya
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
https://www.japan.travel/th/spot/1887/

 

แหลมโซคันซัง มัตสึชิมะ (Sokanzan Matsushima), มิยากิ (Miyagi)


 

 

แหลมโซคันซัง มัตสึชิมะ (Sokanzan Matsushima) แหลมที่ยื่นเข้าไปในทะเลอยู่ทางตอนใต้ของอ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima) จังหวัดมิยากิ (Miyagi) แหลมแห่งนี้ที่ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 3 ของวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น แหลมนี้มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 45 เมตร เป็นเนินเขาเล็ก ๆ ที่ด้านบนมีสวนสาธารณะ และจุดชมวิว มองเห็นความสวยงามของอ่าวมัตสึชิมะ ( Matsushima) และอ่าวชิโอกามะ (Shiogama) ที่อยู่ด้านล่างได้ในเวลาเดียวกัน

จุดชมพระอาทิตย์แรกของปี และช่วงเวลาชม

พระอาทิตย์จะขึ้นทางฝั่งคาบสมุทรโอชิกะ (Oshika Peninsula) และเขาคินคะซัง Kinkasan ที่อยู่ตรงหน้าพอดี และเมื่อเข้าสู่ช่วงเช้าตรู่ของวันปีใหม่ ชาวญี่ปุ่นมักจะเดินทางมาชมพรแสงแรก เพราะสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามของแสงตะวันสีทองอาบไล้ไปทั่วผืนฟ้าสะท้อนกับทะเลที่อยู่เบื้องหน้าได้อย่างกว้างไกลสุดสายตา
พยากรณ์เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2023 พระอาทิตย์ขึ้นช่วง 6:53 น.
อ้างอิง https://tenki.jp/newyear/#area_2

กิจกรรมอื่นๆ

การล่องเรือครูซเที่ยวชมรอบอ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima) ถือเป็นกิจกรรมยอดฮิตเลยก็ว่าได้ ระหว่างล่องเรือจะได้เห็นภาพของกาะเล็กเกาะน้อยมากมายกว่า 200 เกาะบนท้องมหาสมุทรสีฟ้าสด บนเกาะจะเต็มไปด้วยต้นสนที่มีรูปร่างแปลกตาด้วย โดยเรือจะมีให้บริการตั้งแต่เช้ายันเย็น และมีหลายคอร์สให้เราเลือกตามเวลาที่มี

เมนูท้องถิ่นแนะนำ

ด้านบนของแหลมโซคันซัง มัตสึชิมะ (Sokanzan Matsushima) มีร้านอาหารเล็ก ๆ ชื่อว่า Ajidokoro Sokanzan เน้นใช้วัตถุดิบทะเลที่ได้จากอ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima) อาทิ ปลา หอยนางรม กุ้ง มารังสรรค์เป็นเมนูเรียบง่าย แต่รสชาติอร่อย ได้แก่เช็ตข้าวหน้าปลาดิบ เซ็ตข้าวหน้าหอยนางรมชุบแป้งทอด เซ็ตโซบะและเท็มปุระ เป็นต้น

 

 

ที่อยู่ Sokanzan Matsushima
Osawadaira, Matsushima, Miyagi
การเดินทาง จากสถานี Sendai โดยสารรถไฟ Senseki Line ลงสถานี Matsushimakaigan ใช้เวลา 40 นาที จากนั้นโดยสารรถยนต์ต่อ 5 นาที
เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://www.matsushima-kanko.com/miru/detail.php?id=136
https://gogo-miyagi.com/navi/2526#about
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
http://www.town.miyagi-matsushima.lg.jp.e.ob.hp.transer.com/index.cfm/8,0,29,255,html
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
https://www.jnto.or.th/winter2018/Lake_Shoji.html

 

ชายฝั่งโออาราอิ (Oarai Coast), อิบารากิ (Ibaraki)


 

 

ชายฝั่งโออาราอิ (Oarai Coast) เป็นชายฝั่งที่หันหน้าออกไปทางมหาสมุทรแปซิฟิค ทอดตัวไปทางเหนือจรดใต้เป็นระยะทาง 190 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในเมืองโออาราอิ (Oarai-machi) จังหวัดอิบารากิ (Ibaraki) ได้รับขนานนามให้เป็น 1 ใน 100 ชายหาดที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น และ 1 ใน 100 หาดทรายขาวและต้นสนสีฟ้าที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น และยังเป็นฉากสำหรับแอนิเมชันเรื่อง "GIRLS und PANZER" ด้วย

ไฮไลท์ของที่นี่คือแนวโขดหินที่ขึ้นเรียงกันสวยงามตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเสาโทริอิสีขาว (Kamiiso-no-Torii) ที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ทำให้สามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ขึ้น-ลงได้จากจุดนี้พอดี

จุดชมพระอาทิตย์แรกของปี และช่วงเวลาชม

ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น ที่แสนโรแมนติกแห่งหนึ่งใน ญี่ปุ่น และยังได้รับความนิยมในการเดินทางมาชม พระอาทิตย์แรกของปีอีกด้วย เพราะเบื้องหน้าจะได้เห็นเสาโทริอิสีขาว (Kamiiso-no-Torii) ตั้งตระหง่านบนโขดหินตรงข้ามกับศาลเจ้าโออาไร อิโซซากิ (Oarai Isosaki Shrine) ล้อมรอบด้วยทะเล ตัดกับแแสงพระอาทิตย์ที่ส่องรำไร
โดยเฉพาะช่วงที่เวลาน้ำทะเลซัดขึ้นมา จะทำให้หินเหล่านี้เปียกชุ่มส่องประกายมันวาวสะท้อนไปทั่วหาด ขับให้สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยมนต์ขลังอย่างไม่น่าเชื่อ
พยากรณ์เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2023 พระอาทิตย์ขึ้นช่วง 6:48 น.
อ้างอิง https://tenki.jp/newyear/#area_3

กิจกรรมอื่นๆ

ชายฝั่งโออาราอิ (Oarai Coast) โดยเฉพาะที่หาดพระอาทิตย์ (Oarai Sun Beach) มีกิจกรรมทางทะเลที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน อาทิ ว่ายน้ำ เซิร์ฟ ตกปลา กิจกรรมหาหอยฮามากูริ (Hamaguri) ฯลฯ และที่หาดนี้ยังเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมของเหล่าช่างกล้องด้วย เพราะเป็นหาดที่น้ำตื้น ทำให้เกิดเป็นภาพสะท้อนเหมือนผิวกระจกสวยงาม หรือจะเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอะควา เวิร์ด โออาราอิ (Aqua World Oarai) และยังอยู่ไม่ไกลจากสวนฮิตาชิ ซีไซด์ ปาร์ค (Hitachi Seaside Park) อีกด้วย

เมนูท้องถิ่นแนะนำ

ที่เมืองโออาราอิ (Oarai-machi) นั้น สามารถเพลิดเพลินกับอาหารทะเลสด และอร่อยได้ตลอดทั้งปี เพราะเป็นแหล่งประมงที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะเมนูปลาอังโค (Anglerfish) เป็นปลาที่มีรูปร่างแบน หัวโต มีฟันอันแหลมคมเรียงอยู่ในปากกว้าง นิยมนำมาเป็นเมนูหม้อไฟทานกันช่วงฤดูหนาว

 

 

ที่อยู่ Oarai Coast
Isohamacho, Oarai, Higashiibaraki District, Ibaraki
การเดินทาง จากสถานี Tokyo โดยสารรถไฟสาย Utsunomiya Line ลงสถานี Mito ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 20 นาที จากนั้นโดยสารรถไฟ Kashimarinkai Tetsudo Oarai-Kashima Line ลงสถานี Oarai ใช้เวลา 14 นาที
เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://www.ibarakiguide.jp/spot.php?mode=detail&code=918
https://www.oarai-info.jp/page/page000008.html
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://www.oarai-info.jp/page/page000479.html
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
https://visit.ibarakiguide.jp/th/sightseeing/23036/
https://www.japan.travel/th/destinations/kanto/ibaraki/oarai-and-hitachinaka/

 

ทะเลสาบโชจิโคะ (Lake Shojiko), ยามานาชิ (Yamanashi)


 

 

ทะเลสาบโชจิโกะ (Lake Shojiko) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของทะเลสาบชื่อดังอย่างทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Lake Kawaguchiko) ติดกับป่าอาโอกิงาฮาระ (Aokigahara Forest) ในจังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) โดยทะเลสาบโชจิโกะ (Lake Shojiko) เป็นหนึ่งในทะเลสาบทั้งห้าฟูจิ (Fuji Five Lakes) โดยเป็นทะเลสาบที่มีขนาดเล็กที่สุดและยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์แรกยอดนิยม

จุดชมพระอาทิตย์แรกของปี และช่วงเวลาชม

ที่ทะเลสาบโชจิโกะ (Lake Shojiko) ถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นยอดนิยมเพราะเดินทางไม่ยากจากโตเกียว โดยพระอาทิตย์แรกจะขึ้นบริเวณตีนเขาของภูเขาไฟฟูจิ (Mt.Fuji) สามารถรับชมได้บริเวณหาดทะเทโกะ-ฮามะ (Tatego-hama beach)
พยากรณ์เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2023 พระอาทิตย์ขึ้นช่วง 7:12 น.
อ้างอิง https://tenki.jp/newyear/#area_1

กิจกรรมอื่นๆ

บริเวณโดยรอบของทะเลสาบโชจิโกะ (Lake Shojiko) ยังมีพื้นที่ตั้งแคมป์ให้ได้พักผ่อนริมทะเลสาบอีกด้วย หรือจะย้อนกลับไปเที่ยวในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างบริเวณทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Lake Kawaguchiko) สวนสนุกฟูจิคิวไฮแลนด์ (Fuji Q Highland) หรือชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่เจดีย์ 5 ชั้นชูเรโตะ (Chureito Pagoda) ได้เช่นกัน

เมนูท้องถิ่นแนะนำ

โฮโตะ อุด้ง (Hoto Udon) เมนูอูด้งเส้นหนาในน้ำซุปมิโซะข้มข้นพร้อมฟักทองและผักตามฤดูกาล เป็นเมนูที่สามารถหาทานได้ที่ร้านอาหารหรือเรียวกังบริเวณทะเลสาบทั้ง 5

 

 

ที่อยู่ Lake Shoji
483 Shoji, Fujikawaguchiko, Minamitsuru, Yamanashi 401-0336
การเดินทาง จากสถานี Kawaguchiko โดยสารรถบัส Omni Bus Blue Line ลงป้าย Kodaki Fuji View Point ใช้เวลา 38 นาที เดินต่ออีก 3 นาที
เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://shojiko-kanko.com/
https://www.yamanashi-kankou.jp/chinese_s/uncover/lake-shojiko.html
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://www.yamanashi-kankou.jp/english/uncover/lake-shojiko.html
 
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
https://www.jnto.or.th/winter2018/Lake_Shoji.html

 

ชายฝั่งโจงะซะกิ (Jogasaki Coast), ชิซุโอกะ (Shizuoka)


 

 

ชายฝั่งโจงะซะกิ (Jogasaki Coast) ตั้งอยู่ในพื้นที่เลียบชายฝั่งทางทิศตะวันออกของคาบสมุทรอิซุ (Izu Peninsula)  เมืองอิโตะ (Ito) จังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka) มีลักษณะเป็นหน้าผาหินขรุขระที่เกิดขึ้นจาก การประทุของลาวาเมื่อประมาณราว 4,000 ปีก่อน ทอดตัวยาวไปตามชายฝั่ง 9 กิโลเมตร สามารถเดินเล่นผ่านเส้นทางเทรลไต่เขาได้ไม่ยาก ตลอดทางรายล้อมไปด้วยดอกไม้ชนิดต่างๆ อาทิ ดอกไฮเดรนเยีย ดอกลิลลี่ ตามฤดูกาล และวิวมหาสมุทรแปซิฟิกอันน่าทึ่งได้อีกด้วย

จุดชมพระอาทิตย์แรกของปี และช่วงเวลาชม

จุดเช็คอินที่เป็นไฮไลท์คือ สะพานแขวนคะโดะวะกิ (Kadowaki Suspension Bridge) ความยาว 48 เมตรที่อยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเลด้านล่าง 23 เมตร พาดข้ามมหาสมุทรที่เชื่อมหน้าผาทั้ง 2 ฝั่ง
ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 1 มกราคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาชมพระอาทิตย์ขึ้นในวันแรกของปี ที่เรียกว่าฮัตสึฮิโนะเดะ (Hatsuhinode) จะได้รับความนิยมมาก เพราะจากบนสะพานจะได้เห็นท้องฟ้าสีทอง และน้ำทะเลที่ทอประกายระยิบระยับจากแสงแรกแห่งปีนัดพบกันตรงปลายขอบฟ้าแบบไม่มีอะไรมากั้น
พยากรณ์เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2023 พระอาทิตย์ขึนช่วง 6:50 น.
อ้างอิง https://tenki.jp/newyear/#area_5

กิจกรรมอื่นๆ

ไม่ไกลจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของประภาคารคะโดะวะกิซากิ (Kadowakizaki) สำหรับขึ้นไปชมวิวโขดหินที่โอบล้อมชายฝั่งทะเล และเกาะโอชิมะ (Oshima Island) ได้จากมุมสูง หรือจะเลือกเดินเทรคกิ้งเพื่อชมทิวทัศน์ที่งดงามของหน้าผา โดยมีเส้นทางให้เลือกหลายเส้นทางตามระดับความยากง่าย

เมนูท้องถิ่นแนะนำ

คาบสมุทรอิซุเป็นแหล่งจับปลาชั้นดีเช่น ปลาคินเมะได (Kinmedai) ใครที่ชอบทานอาหารทะเลสด ๆ แนะนำให้แวะร้านโบรันนะยะ (Boranaya) อยู่ไม่ไกลจากสะพานแขวนคะโดะวะกิ (Kadowaki Suspension Bridge) ตัวร้านเคยถูกใช้เป็นกระท่อมตกปลาตั้งแต่สมัยเอโดะ และมีการตกแต่งภายในแฝงกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นด้วยเสื่อทาทามิ เมนูยอดนิยมคือ คินเมะไดสึเคะด้ง (Kinmedaituke Don) หรือชุดข้าวคินเมะไดต้มซีอิ้ว (Kinmedai Nitsuke Teishoku) เป็นต้น

 

 

ที่อยู่ Jogasaki Coast
Futo, Ito, Shizuoka 413-0231, Japan
การเดินทาง จากสถานี Izu Kogen ใช้รถบัสไปยัง Kaiyo Koen ลงที่ป้าย Izu Kaiyo Koen ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://itospa.com/spot/detail_54002.html
https://itospa.com/lsc/upfile/articleDetail/0000/0066/66_1_file.pdf
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://www.japan.travel/en/spot/163/
 
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)

https://www.japan.travel/th/spot/163/

https://www.jnto.or.th/newsletter/eastern-izu/

 

ชายฝั่งอะมะฮะระชิ (Amaharashi Coast), โทยามะ (Toyama)


 

 

ชายฝั่งอะมะฮะระชิ (Amaharashi Coast) ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองโทยามะ (Toyama) เป็นหนึ่งในจุดชมวิวชายทะเลที่สวยงามที่สุด 1 ใน 100 ของประเทศญี่ปุ่น ชายฝั่งนี้เป็นชายฝั่งน้ำตื้นที่ทอดตัวยาวกว่า 10 เป็นจุดชมวิวและถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นยอดนิยมโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว สามารถมองเห็นเกาะเล็ก ๆ หรือเกาะโออิวะ (Oiwa) ที่มีฉากหลังเป็นเทือกเขาทาเตยามะ (Mount Tateyama) ที่ยิ่งใหญ่ได้ หรือถ้าโชคดีก็อาจจะได้เห็นทะเลหมอกปกคลุมเหนือผิวน้ำในตอนเช้ามืดได้อีกด้วย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของการมาท่องเที่ยวที่บริเวณนี้

จุดชมพระอาทิตย์แรกของปี และช่วงเวลาชม

สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นได้บริเวณริมชายหาด หากหามุมดี ๆ ก็จะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นเคียงข้างกับเกาะโออิวะ (Oiwa) ที่ตั้งอยู่กลางทะเล หรือถ้าโชคดีก็อาจจะได้เห็นทะเลหมอกด้วยเช่นกัน

พยากรณ์เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2023 พระอาทิตย์ขึนช่วง 6:55 น.
อ้างอิง https://tenki.jp/newyear/#area_4

กิจกรรมอื่นๆ

บริเวณชายฝั่งอะมะฮะระชิ (Amaharashi Coast) มีจุดชมวิวและคาเฟ่สร้างใหม่ให้ได้เข้าไปพักผ่อนชื่อว่า มิจิโนะเอคิ อะมะฮะระชิ (Michinoeki Amaharashi) หรือเที่ยวชมงานของอาจารย์นักวาดผู้สร้างผลงานการ์ตูนมังงะและแอนิเมชั่นในตำนานอย่างอาจารย์ฟุจิโอะ เอฟ ฟุจิโกะ (Fujio F Fujiko) เช่น โดราเอม่อน ได้ในเมืองฮิมิ (Himi) และทาคาโอคะ (Takaoka) รวมถึงรูปปั้นพระโพธิสัตว์ทาคาโอคะ (Takaoka Daibutsu) ซึ่งเป็น 1 ใน 3 รูปปั้นพระโพธิสัตว์ขนาดใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น

เมนูท้องถิ่นแนะนำ

มาสุซูชิ (Masuzushi) เมนูท้องถิ่นของจังหวัดโทยะมะ (Toyama) ที่มีหน้าตาสวยงามเหมือนเค้ก โดยเป็นเมนูที่นำปลาเทราต์มาโปะบนข้าวและกดทับเข้ากับภาชนะทรงกลมห่อด้วยใบไม้ไผ่พร้อมกับน้ำส้มสายชู เป็นเมนูที่นิยมใช้เป็นข้าวกล่องในรถไฟหรือเอกิเบน (Ekiben) นั่นเอง

 

 

ที่อยู่ Amaharashi Coast
Ota, Takaoka, Toyama 933-0133
การเดินทาง จากสถานี Takaoka โดยสารรถไฟ Himi Line ลงสถานี Amaharashi ใช้เวลา 20 นาที เดินต่ออีก 5 นาที
เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://www.city.takaoka.toyama.jp/kanko/rejya/amaharashi.html
https://toyama.visit-town.com/toyamastyle/amaharashi
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://visit-toyama-japan.com/en/places-to-go/21011
 
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
https://www.japan.travel/th/spot/1413/l
 

 

ภูเขามายะ คิคุเซได (Mt. Maya Kikuseidai), เฮียวโกะ (Hyogo)


 

 

ภูเขามายะ คิคุเซได (Mt. Maya Kikuseidai) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโกเบ (Kobe) จังหวัดเฮียวโกะ (Hyogo) เป็น 1 ใน 3 จุดชมวิวตอนกลางคืนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น มีเคเบิลคาร์ 2 คัน สีแดง และสีเขียวให้บริการที่สถานี Maya Cable และจะต้องต่อกระเช้า Maya Ropeway เพื่อขึ้นไปยังยอดเขาด้านบนที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 700 เมตร

ที่สถานี Hoshi no Eki Station บนยอดภูเขามายะ (Mt. Maya) จะมีจุดชมวิวคิคุเซได (Kikuseidai Observation Deck) ซึ่งหมายความว่า ‘เนินเขาเอื้อมคว้าดาว’ และยังได้ชื่อว่าเป็น “The Ten Million Dollar Night View” อีกด้วย เพราะเมื่อมองลงมาด้านล่างจะเห็นแสงไฟระยิบระยับทั่วเมืองโกเบ (Kobe) พร้อมด้วยอ่าวโอซาก้า คาบสมุทรคิอิ (Kii Peninsula) และเกาะอาวะจิ (Awaji Island) ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของทัศนียภาพยามค่ำคืน

ด้านบนนอกจากจะได้ชมวิวจะพบกับทางเดินที่เต็มไปด้วยเมล็ดไฟสีฟ้าแซมเขียวเล็ก ๆ ปรากฏอยู่รอบ ๆ ราวกับทางช้างเผือกสายยาวพาดผ่านท้องฟ้า เหมาะสำหรับการพาคู่รักมาเดท

จุดชมพระอาทิตย์แรกของปี และช่วงเวลาชม

จากจุดชมวิวคิคุเซได (Kikuseidai Observation Deck)ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 1 มกราคม จะแน่นขนัดไปด้วยชาวญี่ปุ่นที่ต่างเดินขึ้นเขามาชมแสงอาทิตย์แรก โดยพระอาทิตย์จะขึ้นเหนือภูเขาที่มีหมอกหนาปกคลุม เป็นภาพสวยงามที่เห็นแล้วต้องหยิบกล้องขึ้นมาถ่าย
พยากรณ์เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2023 พระอาทิตย์ขึ้นช่วง 7:00 น.
อ้างอิง https://tenki.jp/newyear/#area_6

กิจกรรมอื่นๆ

ใครที่อยากลองเปลี่ยนบรรยากาศการขึ้นเขา แนะนำให้เดินเทรคกิ้งดู โดยบริเวณนี้จะมีให้เลือกเดินหลายเส้นทางตั้งแต่มือใหม่ไปจนถึงระดับผู้ที่ชำนาญ โดยเส้นทางสำหรับมือใหม่ จะมีให้เลือกเดิน 2 คอร์ส ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับคอร์ส) และคอร์สที่แนะนำคือ เดินจากสถานี Ojikoen ไปยังจุดเดินป่า Aotani Trailhead เพื่อเดินขึ้นต่อไปยังเขาด้านบน

นอกจากนี้ที่ด้านบนจุดชมวิวคิคุเซได (Kikuseidai Observation Deck ยังเต็มไปด้วยสถานที่เที่ยวมากมายที่เพลิดเพลินได้ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ สามารถนั่งรถบัสประจำทางแวะเที่ยวได้จากสถานีกระเช้าด้านบน อาทิ วัดมะยะซัง เท็นโจจิ (Mayasan Tenjoji Tample), ฟาร์มรกโคซัง (Kobe Municipal Rokkosan Pasture), ทะเลสาบโฮดาคะ (Hodaka Lake) เป็นต้น

เมนูท้องถิ่นแนะนำ

มาเที่ยวโกเบแล้ว ต้องไม่พลาดเนื้อโกเบ หรือโกเบกิว เป็นเนื้อวัวญี่ปุ่นขนดำที่ผลิตในจังหวัดเฮียวโกะ (Hyogo) ที่มีจุดเด่นคือลายไขมันที่แทรกละเอียดในเนื้อแดงอย่างสวยงาม ถือเป็นหนึ่งในสามวัวชั้นดีของญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงทั่วโลก เมืองโกเบ (Kobe) มีร้านอาหารหลายแห่งที่ใช้เนื้อโกเบ ตั้งแต่ร้านเนื้อย่างราคาสบายกระเป๋าไปจนถึงร้านเทปันยากิระดับหรู เมนูเด่น ๆ ที่ไม่ควรพลาดลองก็คือ เสต็กเนื้อโกเบ

 

 

ที่อยู่ Mt. Maya Kikuseidai
Mayasan, Nada Ward, Kobe, Hyogo
การเดินทาง จากสถานี Kobe sannomiya โดยสารรถไฟ Hankyu Kobe Line ไปลงที่สถานี Oijikoen ใช้เวลาประมาณ 5 นาที จากนั้นโดยสารรถบัส Saka bus ลงที่สถานี Maya Cable ใช้เวลา 5 นาที
เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://www.mayasan.jp/
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://kobe-rokko.jp/en/nightview-3/
https://koberope.jp/en/maya
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
https://kobe-rokko.jp/th/course/54/

 

ชินโตซัง (Shintozan), โอคายาม่า (Okayama)


 

 

ชินโตซัง (Shintozan) แห่งจังหวัดโอคายาม่า (Okayama) เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าหลักของนิกายคุโรซุมิ (Kurozumi kyo) นิกายเก่าแก่กว่า 200 ปี ก่อตั้งขึ้นในสมัยเอโดะโดยนักบวชคุโรซุมิ มุเนทาดะ (Kurozumi Munetada) มุ่งเน้นไปที่ 'การบูชาดวงอาทิตย์' (บูชาเทพธิดาอามาเทราสึ) ซึ่งเป็นการบูชาพระอาทิตย์ขึ้นด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยอารมณ์ และความกตัญญู และมุ่งมั่นที่จะใช้ชีวิตด้วยจิตวิญญาณของ 'มารุโคโตะ' (Marukoto)

*Marukoto เป็นสภาวะแห่งความกลมกลืนที่ปราศจากการบิดเบือนหรืออคติ หมายถึงการอยู่ร่วมกันในลักษณะนี้กับสวรรค์ ดิน และธรรมชาติ*

จุดชมพระอาทิตย์แรกของปี และช่วงเวลาชม

ที่ชินโตซัง (Shintozan) จะมีพิธีสักการะพระอาทิตย์ขึ้น โดยจะจัดขึ้นทุกเช้าตลอดทั้งปีก่อนพระอาทิตย์ขึ้น 15 นาที และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์แรกยอดนิยมอีกด้วย โดยในช่วงเช้าตรู่ของวันขึ้นปีใหม่ จะเริ่มพิธีบูชาพระอาทิตย์ตั้งแต่เวลา 07:00 น. เป็นต้นไป ซึ่ง 3 วันแรกของช่วงฮัตสึฮิโนะเดะ (Hatsuhinode) นี้เองมีผู้ศรัทธากว่า 45,000 คนหลั่งไหลมาสักการะ และชมความงดงามของทัศนียภาพที่อยู่เบื้องหน้า

กิจกรรมอื่นๆ

นอกจากจะชมพระอาทิตย์ขึ้นในวันแรกของปีแล้ว ที่บริเวณด้านบนของชินโตซัง (Shintozan) ยังรายล้อมไปด้วยธรรมชาติมากมาย โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิ จะเต็มไปด้วยดอกซากุระสีชมพูอ่อนโยนที่บานสะพรั่งสวยงาม และในเดือนพ.ค.-มิ.ย. จะเป็นฤดูของดอกอาซาเลีย หรือดอกซึซึจิ (Tsutsuji) พร้อมใจกันเบ่งบานสีสันสดใส

เมนูท้องถิ่นแนะนำ

เมื่อพูดถึงอาหารท้องถิ่นประจำจังหวัดโอคายาม่า (Okayama) และเป็นแหล่งผลิตที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ ต้องยกให้เมนูหอยนางรวมตัวอวบอ้วนที่หาทานได้ตลอดปี เพราะทะเลของโอคายาม่านั้นอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสารอาหาร เมนูที่แนะนำคือ Nissei Kakioko คล้ายๆ กับโอโคโนมิยากิ ทำโดยการใส่กะหล่ำปลีหั่นฝอยและหอยนางรมลงบนแป้งนุ่มๆ และอบลงบนถาดร้อน

และก่อนที่จะขึ้นไปถึงศาลเจ้าด้านบน จะมีร้านอาหาร Shintozan saten ให้บริการอยู่บริเวณตีนเขา เป็นร้านเดียวกับที่นักบวชนิกายคุโรซุมิทานกันเป็นประจำ เน้นเสิร์ฟอาหารเป็นชุดตามสไตล์ญี่ปุ่นแบบง่ายๆ อาทิ ปลาแซลมอนย่างเกลือ ไก่ทอดคาราอาเกะ หรือแฮมเบิร์กเป็นต้น

 

 

ที่อยู่ Shintozan
2770 Onoue, Kita Ward, Okayamao
การเดินทาง จากสถานี Okayama แท็กซี่ หรือ ขับรถ ไปที่ Shintozan ใช้เวลา 20 นาที
เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://www.okayama-kanko.jp/okatabi/158/page
https://okayamastyle.com/shintozan/#toc1
https://kurozumikyo.com
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)

https://matcha-jp.com/en/7938

เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
-

 

สะพานนารุโตะ (Onaruto Bridge), โทคุชิมะ (Tokushima)


 

 

สะพานนารุโตะ (Onaruto Bridge) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดโทคุชิมะ (Tokushima) เชื่อมต่อเกาะชิโกะคุ (Shikoku) กับเกาะอาวะจิ (Awaji Island) และเป็นประตูสู่เกาะฮอนชู (Honshu) บริเวณจังหวัดเฮียวโกะ (Hyogo) เป็นที่รู้จักจากการชมน้ำวนขนาดใหญ่ตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นใกล้กับสะพาน โดยมีบันทึกสถิติว่าเคยมีน้ำวนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 20 เมตร จึงกลายเป็นน้ำวนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก น้ำวนอาจจะส่งเสียงกึกก้องในช่วงฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วงอยู่เสมอ ด้วยความสวยงามอลังการขนาดนี้จึงเป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่อยากมาชมความสวยงามของธรรมชาติแห่งนี้ในทุก ๆ ปี รวมถึงการชมพระอาทิตย์แรกของปีก็เช่นเดียวกัน

จุดชมพระอาทิตย์แรกของปี และช่วงเวลาชม

บริเวณสะพานนารุโตะ (Onaruto Bridge) เป็นอีกหนึ่งจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม สามารถชมได้ที่บริเวณเซนโจจิคิ (Senjojiki) จุดชมวิวสะพาน หรือบริเวณหาดไองะฮะมะ (Aigahama)ด้านล่างของสะพานก็สามารถชมแสงอาทิตย์แรกของปีได้อย่างสวยงามเช่นกัน
พยากรณ์เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2023 พระอาทิตย์ขึ้นช่วง 7:06 น.
อ้างอิง https://tenki.jp/newyear/#area_8

กิจกรรมอื่นๆ

นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือชมวิวกระแสน้ำวนนารุโตะ (Naruto Whirlpools) ได้อย่างใกล้ชิด หรือเดินชมน้ำวนจากบริเวณจุดชมวิวอุซุโนะมิจิ (Uzunomichi Observatory) โดยจะเป็นทางเดินใต้สะพานนารุโตะ (Onaruto Bridge) ที่สามารถชมวิว คลื่นทะเล และน้ำบนในอีกมุมมองหนึ่ง ผ่านกระจก หรือราวกั้นที่เปิดโล่งจนได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่และสวยงามของสายน้ำวนอีกด้วย

เมนูท้องถิ่นแนะนำ

มันหวานนารุโตะ คินโทคิ (Naruto Kintoki) มันหวานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มีต้นกำเนิดจากพื้นที่ในเขตนารุโตะ (Naruto) มีสีแดงเชอร์รี่ เนื้อภายในสีเหลืองทอง นิยมนำมาทำขนมหวานหลากหลายเมนู

 

 

ที่อยู่ Onaruto Bridge
Hei-947-22 Fukura, Minamiawaji, Hyogo 656-0503
การเดินทาง จากสถานี Osaka โดยสารรถบัส Osaka-Tokushima ลงป้าย Naruto Parkguchi ใช้เวลา 2 ชั่วโมง เดินต่ออีก 8 นาที
เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://naruto-tourism.jp/sightseeing/1928
https://www.naruto-kankou.jp/uzu/
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://discovertokushima.net/en/topics/whirlpools-in-naruto/
https://naruto-tourism.jp/en/sightseeing/1928
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
https://www.jnto.or.th/newsletter/naruto/

 

บงโกะ ฟุทะมิกะอุระ (Bungo Futamigaura), โออิตะ (Oita)


 

 

บงโกะ ฟุทะมิกะอุระ (Bungo Futamigaura) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองโออิตะ (Oita) ภูมิภาคคิวชู (Kyushu) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในการมาชมพระอาทิตย์แรกของปีเพื่อความหวังให้สิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิตตลอดปี โดยมีจุดเด่นจากหินคู่ชายหญิงความสูง 17 เมตร และ 10 เมตร เชื่อมต่อกันด้วยเชือกชิเมะนะวะ (Shimenawa) เชือกศักดิ์สิทธิ์ที่ผูกหินทั้งสองเข้าไว้ด้วยกัน มีความยาวมากถึง 65 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 75 เซนติเมตร มีน้ำหนักมากถึง 2 ตัน จนกลายเป็นเชือกศักดิ์สิทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และยังเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นอยู่เสมอ ๆ โดยเชือกจะถูกเปลี่ยนในทุกวันอาทิตย์ที่สองของเดือนธันวาคมในทุก ๆ ปี โดยกลุ่มอาสาสมัครในเมือง)

จุดชมพระอาทิตย์แรกของปี และช่วงเวลาชม

จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นนั้นสามารถรับชมได้หลายจุด โดยเฉพาะบริเวณสวนอนุสรณ์มะริโนะโปริสุ (Marinoporisu Memorial Park) และริมถนนบริเวณใกล้เคียง
พยากรณ์เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2023 พระอาทิตย์ขึ้นช่วง 7:15 น.
อ้างอิง https://tenki.jp/newyear/#area_9

กิจกรรมอื่นๆ

ศาลเจ้าทะคิมิฮะชิระ (Takimihashira Shrine) ศาลเจ้าที่อยู่ห่างจากบงโกะ ฟุทะมิกะอุระ (Bungo Futamigaura) เพียง 500 เมตร เป็นศาลเจ้าที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1288 และน้ำตกเกียวรัน (Gyouran Falls) น้ำตกที่มีความสูง 14 เมตรกับผาหินสวยงามเป็นอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายภาพ

เมนูท้องถิ่นแนะนำ

ปลาปักเป้าช่องแคบบุงโกะ (Bungo Fugu) เมนูปลาปักเป้าที่สามารถจับได้บริเวณช่องแคบบุงโกะ (Bungo Channel) ทะเลชายฝั่งตะวันออกของจังหวัดโออิตะ (Oita) นิยมนำมาแร่เป็นซาชิมิบาง ๆ ขาวใสโดยเชฟที่ได้รับใบอนุญาต หรือเนื้อวัวบุงโกะ (Bungo Beef) เนื้อวัวดำคุณภาพสูงที่นิยมนำมาทำเมนูที่หลากหลายเช่นสเต๊กหรือบาร์บีคิว เป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบขึ้นชื่อของจังหวัดโออิตะ (Oita)

 

 

ที่อยู่ Bungo Futamigaura Seashore
Oita, Saiki, 879-2601
การเดินทาง จากสถานี Oita โดยสารรถไฟ Nippou Line ลงสถานี Azamui ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 6 นาที เดินต่ออีก 10 นาที
เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://www.visit-saiki.jp/spots/detail/09a6859a-cddb-43ad-bd34-5d35bf225b76
http://oitaisan.com/heritage
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
http://oitaisan.com/english/heritage/bungo-futamigaura/
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
http://th.visit-oita.jp/spots/detail/5832

 

เพจที่เกี่ยวข้อง

ค้นหา

Categories

Archives

Please Choose Your Language

Browse the JNTO site in one of multiple languages