ฤดูร้อนในญี่ปุ่นเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยสีสัน ความสนุก และความงามทางธรรมชาติ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายเที่ยวแบบไหน ซัมเมอร์ในญี่ปุ่นมีเรื่องราวดี ๆ ที่จะทำให้คุณประทับใจได้แน่นอน สถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมแนะนำ อาทิ
สายถ่ายรูป เก็บภาพประทับใจท่ามกลางวิวสวยสุดตระการตา
ศิลปะบนนาข้าวเมืองเกียวดะ (Gyoda Tanbo Art), จังหวัดไซตะมะ (Saitama)
เคยได้บันทึกลงสถิติโลก Guinness World Records ว่าเป็นศิลปะบนนาข้าวขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อปีค.ศ. 2015 โดยใช้พันธุ์ข้าวหลากสีสันตามธรรมชาติมาปลูกในนาข้าว กลายเป็นภาพศิลปะสวย ๆ ซึ่งลวดลายจะแตกต่างกันไปในแต่ละปี โดยปี 2025 นี้มีธีมหลักคือ “Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba The Movie” มีภาพตัวเอก คามาโดะ ทันจิโร่ ขนาดใหญ่บนทุ่งนา เพื่อฉลองภาพยนตร์ภาคใหม่ที่เข้าฉายในญี่ปุ่น
สามารถชมได้ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกรกฎาคมถึงประมาณกลางเดือนตุลาคม ซึ่งจะได้เห็นสีสันของนาข้าวที่ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงช่วงเก็บเกี่ยวข้าว แนะนำให้ชมจากบนหอคอยโคไดฮาสึ (Kodaihasu) ที่สูงราว 50 เมตร (มีค่าเข้าชม) ที่จะมองเห็นทิวทัศน์ศิลปะบนนาข้าวได้อย่างเต็มตา
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.city.gyoda.lg.jp/shigoto_sangyo/sangyo_shinko/norin_suisan/nogyo/art/11123.html
ที่ตั้ง :
https://maps.app.goo.gl/G4KUTuadwtMaZfTP9
ทุ่งดอกไม้คะมิฟูราโนะ (Flower Land Kamifurano), ฮอกไกโด (Hokkaido)
เป็นเส้นทางถนนระหว่างเมืองบิเอ (Biei) ไปจนถึงเมืองฟุราโนะ (Furano) ที่เรียงรายไปด้วยสวนดอกไม้ชื่อดังมากมาย เช่น
・ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita)” ที่โด่งดังเรื่องทุ่งลาเวนเดอร์
・ทุ่งดอกไม้คะมิฟุราโนะ (Flower Land Kamifurano)” ที่เต็มไปด้วยดอกไม้หลากหลายชนิด และมีวิวภูเขาโทคาจิ (Mt. Tokachi) เป็นฉากหลัง
・สวนชิกิไซ-โนะ-โอกะ (Shikisai-no-oka) ที่มีจุดเด่นของทุ่งดอกไม้บนเนินเขาที่ปลูกสลับสีสันกันอย่างสวยงาม และมีบริการพิเศษพานั่งรถแทรกเตอร์ชมบรรยากาศทุ่งดอกไม้โดยรอบด้วย (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.city.gyoda.lg.jp/shigoto_sangyo/sangyo_shinko/norin_suisan/nogyo/art/11123.html
ที่ตั้ง :
https://maps.app.goo.gl/G4KUTuadwtMaZfTP9
เทศกาลดอกไม้ไฟ นางาโอกะ (Nagaoka Festival Grand Fireworks Show), จังหวัดนีงาตะ (Niigata)
เป็นหนึ่งในเทศกาลดอกไม้ไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น จัดขึ้นวันที่ 2 - 3 สิงหาคมของทุกปี ที่ริมแม่น้ำชินาโนะ (Shinano River) ในเมืองนางาโอกะ ไฮไลต์เด่น อาทิ ดอกไม้ไฟทรงกลมขนาดยักษ์เส้นผ่าศูนย์กลาง 650 เมตร และโชว์ที่ชื่อว่า “ฟีนิกซ์ (Phoenix)” ซึ่งจะจุดดอกไม้ไฟสว่างเจิดจ้าเป็นทางยาวถึง 2 กิโลเมตร
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://enjoyniigata.com/th/event/2441
ที่อยู่ :
https://maps.app.goo.gl/6FdvRvt7rXHcD6Jz9
สายลุย ผจญภัยท่ามกลางธรรมชาติอันน่าทึ่ง
เส้นทางชมวิวเจแปนแอลป์ สำหรับสายลุยมือใหม่
คามิโคจิ (Kamikochi) แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติชื่อดังในจังหวัดนากาโน่ (Nagano) ที่มีทัศนียภาพงดงามราวกับสวรรค์บนดิน เป็นที่นิยมในการมาเดินป่าเทรคกิ้งในช่วงฤดูร้อน ซึ่งอากาศเย็นสบาย และเส้นทางเดินง่าย เหมาะกับนักท่องเที่ยวทุกวัย จุดไฮไลต์ อาทิ “สะพานคัปปะ (Kappa Bridge)” ที่มีวิวยอดเขาโฮทากะ (Mt. Hotaka) เป็นฉากหลัง และสามารถเดินเล่นเลียบไปตามแม่น้ำอะซุสะ (Azusa River) ที่ใสราวกับกระจก
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.kamikochi.org/
ที่อยู่ :
https://maps.app.goo.gl/6pc865wEmfU4Rc1E9
อีกจุดท่องเที่ยวสุดฮิตคือ เส้นทางแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะ (Tateyama Kurobe Alpine Route) อยู่ระหว่างจังหวัดโทยามะ (Toyama) และนากาโน่ (Nagano) ซึ่งสามารถเที่ยวชมความงามของเทือกเขาเจแปนแอลป์ที่ระดับความสูงกว่า 3,000 เมตร ได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยยานพาหนะหลากหลายรูปแบบ ทั้งรถไฟ รถบัส และเคเบิลคาร์ โดยมีไฮไลต์เด่น อาทิ กำแพงหิมะสูงกว่า 10 เมตร ชมได้ตั้งแต่กลางเดือนเมษายนไปจนถึงเดือนกรกฎาคม และยังสามารถแวะเที่ยวเขื่อนคุโรเบะที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ส่วนช่วงฤดูร้อนก็เหมาะกับการมาเดินป่าเพลินกับทิวทัศน์ธรรมชาติ ท่ามกลางอุณหภูมิที่เย็นสบาย
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.alpen-route.com/th/
ที่อยู่ :
https://maps.app.goo.gl/feKyCePeYERxA5o66
*จุดท่องเที่ยวทั้งสองแห่งนี้ เปิดให้เข้าชมช่วงกลางเดือนเมษายน ไปจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน (ปิดให้บริการในฤดูหนาว เนื่องจากมีปริมาณหิมะมากจึงไม่สะดวกต่อการสัญจร)
พิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji)
สำหรับสายลุยที่ฝึกฝีมือมาระดับหนึ่ง การปีนภูเขาไฟฟูจิเป็นภารกิจที่ท้าทายและน่าจดจำ ซึ่งจะเปิดเส้นทางปีนเขาในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น (ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงต้นกันยายน) และสามารถเลือกเส้นทางปีนได้หลายระดับ ทั้งจากฝั่งจังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) หรือฝั่งจังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka) โดยเส้นทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ “เส้นทางโยะชิดะ (Yoshida Trail)” เนื่องจากเดินได้ง่าย ไม่ค่อยชัน และมีที่พักให้บริการมากกว่าเส้นทางอื่น
อีกไฮไลต์คือ การได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นจากยอดเขาฟูจิ ซึ่งเป็นภาพที่น่าประทับใจที่สุดภาพหนึ่งในชีวิต นักปีนเขาเรียกช่วงเวลานี้ว่า “Goraikou” ที่แปลว่าแสงแรกของดวงอาทิตย์ที่โผล่พ้นขอบฟ้าเหนือเมฆและภูเขา
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.fujisan-climb.jp/en/index.html
ที่ตั้ง :
https://maps.app.goo.gl/fcXMZnGnZmJbTsps9
เส้นทางปั่นจักรยานชิมะนะมิ ไคโด (Shimanami Kaido)
เป็นเส้นทางจักรยานชื่อดังระดับโลกที่เชื่อมระหว่าง เมืองโอโนมิจิ (Onomichi) ในจังหวัดฮิโรชิม่า (Hiroshima) และเมืองอิมาบาริ (Imabari) ในจังหวัดเอฮิเมะ (Ehime) ผ่านสะพานข้ามทะเล และเกาะต่าง ๆ รวมระยะทางกว่า 70 กิโลเมตร ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเส้นทางจักรยานที่งดงามที่สุดในโลก ท่ามกลางวิวทะเลเซโตะที่เปิดโล่งแบบ 360 องศา และยังมีจุดแวะพัก รวมถึงจุดคืนจักรยานที่เช่าได้ตลอดทาง เหมาะกับทั้งนักปั่นมือใหม่และมือโปร
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://visitshimanami.com/
ที่อยู่ :
https://maps.app.goo.gl/MJWTgSmRhKzQBQR5A
สายเฮฮา สนุกสนานกับเทศกาลฤดูร้อนสุดยิ่งใหญ่
เทศกาลอาโอโมริ เนบุตะ (Aomori Nebuta Festival)
จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 - 7 สิงหาคมของทุกปี ที่เมืองอาโอโมริ (Aomori) ครึกครื้นด้วยขบวนแห่โคมไฟเนบุตะขนาดยักษ์ ที่นิยมทำลวดลายเป็นรูปนักรบหรือเทพเจ้า เคลื่อนผ่านถนนไปทั่วเมือง พร้อมทั้งขบวนพาเหรด “ฮาเนโตะ (Haneto)” ที่นักท่องเที่ยวสามารถเช่าชุดและเข้าไปร่วมขบวนเต้นรำได้ด้วย
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.nebuta.jp/foreign/english.html
ที่อยู่ :
https://maps.app.goo.gl/yP7h5pxo2aCP7iKK8
เทศกาลอาคิตะ คันโต (Akita Kanto Festival)
จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 - 6 สิงหาคมของทุกปี ที่เมืองอาคิตะ (Akita) มีเอกลักษณ์อยู่ที่ เสาไม้ไผ่สูงกว่า 12 เมตร (เรียกว่า คันโต) ซึ่งแต่ละอันจะแขวนโคมไฟไว้จำนวนมากถึง 46 ดวง และมีน้ำหนักรวมกันกว่า 50 กิโลกรัม ถือประคองไว้โดย “คันโตไท (Kanto-tai)” คนละ 1 เสา ซึ่งก็จะแข่งกันโชว์ลีลาประคองเสาโคมไฟนี้ด้วยฝ่ามือ ไปจนถึงการใช้หน้าผาก ไหล่ หรือเอว เป็นต้น เรียกได้ว่าทั้งสนุก ตื่นเต้น สวยงาม แถมหวาดเสียวอีกด้วย
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.kantou.gr.jp/english/
ที่อยู่ :
https://maps.app.goo.gl/PLPg8qHakcpQuY8w9
เทศกาลเซนได ทานาบาตะ (Sendai Tanabata Festival)
จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 - 8 สิงหาคมของทุกปี ที่เมืองเซนได (Sendai) ในจังหวัดมิยะงิ (Miyagi) ซึ่งจะประดับประดาไปด้วยโคมไฟกระดาษหลากสี กับเสาไม้ไผ่ที่เรียกว่าคาซาริ (Kazari) ทั่วทั้งเมือง โดยสามารถเขียนคำอธิษฐานลงไปในกระดาษ แล้วนำไปแขวนกับกิ่งไผ่ได้ นอกจากนี้ ยังมีการแสดงบนเวที และกิจกรรมต่าง ๆ ให้ร่วมสนุกมากมาย
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.sendaitanabata.com/en/
ที่อยู่ :
https://maps.app.goo.gl/w9rfaJ5xcZAW7uRY8
สายมู เสริมดวง เสริมพลังชีวิต
เทศกาลกระดิ่งลม วัดซันโนจิ (Sannoji) จังหวัดฟุกุโอกะ (Fukuoka)
วัดแห่งนี้มีอีกชื่อเรียกว่า “วัดทานุกิ” เพราะทั่วบริเวณวัดประดับประดาไปด้วย “ตุ๊กตาทานุกิ (แรคคูนญี่ปุ่น)” หลากหลายแบบที่เรียกรอยยิ้มจากผู้มาเยือน และยังมีชื่อเสียงในเรื่องเทศกาลกระดิ่งลม (ปีนี้จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม - 5 ตุลาคม 2025) ซึ่งจะเนรมิตทั้งวัดให้เต็มไปด้วยกระดิ่งลมสีสันสดใสกว่า 5,000 ชิ้น กลายเป็นจุดถ่ายภาพยอดฮิต นักท่องเที่ยวสามารถเขียนคำอธิษฐานลงบนกระดิ่งลม และนำไปแขวนเพื่อขอพรได้ด้วย (1 ชิ้น 500 เยน)
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.crossroadfukuoka.jp/en/event/11994
ที่อยู่ :
https://maps.app.goo.gl/yQqBbjUn9Kd9UVtZ7
ฝึกสมาธิใต้น้ำตก (Takigyo) จังหวัดมิเอะ (Mie)
ในช่วงหน้าร้อนที่น้ำตกชิระทะคิ ไดเมียวจิน (Shirataki Daimyojin) ในเมืองโทบะ (Toba) นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถร่วมกิจกรรมทะคิเกียว (Takigyo) หรือการฝึกสมาธิใต้น้ำตกกลางป่า เพื่อผ่อนคลายความเครียด และเติมพลังให้จิตใจ ท่ามกลางธรรมชาติของป่าเขา เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจวัฒนธรรมญี่ปุ่น หรืออยากค้นพบความสงบภายในจิตใจตัวเอง
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.japan.travel/en/experiences-in-japan/4014/
ที่ตั้ง :
https://maps.app.goo.gl/c9LaUCufL1wqXE7A7
ศาลเจ้าสึชิมะ (Tsushima Shrine), จังหวัดคางาวะ (Kagawa)
เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์กลางน้ำที่สามารถเข้าชมได้เพียงปีละครั้ง ในวันที่ 4–5 สิงหาคมของทุกปี ทำให้ผู้คนหลั่งไหลมาเพื่อขอพรด้านสุขภาพ ความรัก และโชคลาภ ที่นี่จึงถือเป็นจุดหมายสำคัญสำหรับสายมูที่ต้องการสักการะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ลับไม่ซ้ำใคร
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.japan.travel/en/japans-local-treasures/summer-festival-tsushima-shrine-2023/
ที่ตั้ง :
https://maps.app.goo.gl/89dFziYVRgZcDa77A
สายกิน ลิ้มรสความอร่อยเฉพาะฤดูร้อน
เก็บผลไม้ (Fruit Picking), จังหวัดโอคายาม่า (Okayama)
จังหวัดโอคายาม่า (Okayama) ได้ฉายาว่าเป็นอาณาจักรแห่งผลไม้ เนื่องจากสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสม ทำให้สามารถปลูกผลไม้ได้หลากหลายชนิด รวมถึงมีรสชาติหอมหวานอร่อย โดยเฉพาะผลไม้เลื่องชื่อที่หาทานได้ในช่วงฤดูร้อนอย่าง
ลูกพีชสีขาว (White Peach) ช่วงเก็บเกี่ยว ปลายมิถุนายน – ปลายสิงหาคม
องุ่นเขียวมัสแคท (Muscat Grape) ช่วงเก็บเกี่ยว กันยายน - ตุลาคม
ต้องไม่พลาด “กิจกรรมเก็บผลไม้ที่ฟาร์ม” แล้วทานแบบสด ๆ จากต้นเลย นอกจากนี้ ในตัวเมืองโอคายาม่ายังมีชื่อเสียงว่าเป็นเมืองแห่งพาร์เฟ่ต์ (Parfait) โดยนำผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดมารังสรรค์เป็นเมนูพาเฟ่ต์ที่สวยจนถ่ายรูปไม่หยุด ซึ่งแต่ละร้านก็มีเอกลักษณ์ต่างกันไป ให้ได้ตระเวนชิมอย่างเพลิดเพลิน
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.okayama-japan.jp/en/20360
นางาชิ โซเม็ง (Nagashi Somen)
อีกเมนูไฮไลต์ที่ต้องลองในช่วงหน้าร้อนคือ “นางาชิ โซเม็ง” เส้นบะหมี่เย็นที่ไหลมาตามรางไม้ไผ่ ต้องใช้ตะเกียบคีบจับก่อนจะไหลผ่านไป สนุกทั้งการกินและบรรยากาศเย็นสดชื่นกลางธรรมชาติ
หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ที่หลากหลายในฤดูร้อน ญี่ปุ่นคือจุดหมายที่ไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะเที่ยว ถ่ายรูป ปีนเขา ขอพร หรือกินของอร่อย ทุกอย่างรอคุณอยู่ในช่วงเวลาที่สดใสที่สุดของปี
บทความใน Facebook : https://www.facebook.com/visitjapanth/posts/summerinjapan2025
