เมืองมัตสึโมะโตะเป็นเมืองรอบปราสาทที่เคยเจริญรุ่งเรืองในอดีต ซึ่งปราสาทดังกล่าวนั้นก็คือปราสาทมัตสึโมะโตะที่ในปัจจุบันได้รับการกำหนดให้เป็นสมบัติแห่งชาติของประเทศญี่ปุ่น ภายในเมืองยังคงมีภูมิทัศน์ที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไปในช่วงหลายร้อยปีก่อน ขณะเดียวกัน พื้นที่รอบเมืองก็รายล้อมไปด้วยเขตธรรมชาติอันกว้างใหญ่ทั้งคามิโคจิและที่ราบสูงโนริกุระ หากคุณต้องการเพลิดเพลินกับการเที่ยวชมเมืองและเขตธรรมชาติ เราขอแนะนำแผนการท่องเที่ยวแบบ 2 วัน 1 คืน ยกตัวอย่างเช่นโปรแกรมการท่องเที่ยวดังต่อไปนี้
โปรแกรมการท่องเที่ยว วันที่ 1 :
เพลิดเพลินไปกับศิลปะร่วมสมัยและวัฒนธรรมดั้งเดิมผ่านการเดินเล่นในเมืองรอบปราสาท
ในการเดินทางมายังเมืองมัตสึโมะโตะ จังหวัดนะงะโนะซึ่งอยู่ใกล้ใจกลางของเกาะฮอนชู หากคุณเดินทางจากโตเกียวด้วยรถไฟ Limited Express หรือชินคันเซ็น จะใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงครึ่ง เมื่อมาถึง คุณสามารถเดินเล่นเที่ยวชมเมืองได้ตั้งแต่ช่วงเช้าของวัน
<11:00>
ชมงานศิลป์ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองมัตสึโมะโตะ (Parco de Museum)
ผลงานจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองมัตสึโมะโตะคือผลงานของยาโยอิ คุซามะ ศิลปินชื่อดังก้องโลกซึ่งเกิดที่เมืองมัตสึโมะโตะ ผู้ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชินีแห่งศิลปะแนวอาวองต์การ์ด” ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสกับโลกอันน่าพิศวงผ่านผลงานศิลปะต่าง ๆ ของยาโยอิ คุซามะ เช่น ฟักทองลายจุด “Great gigantic pumpkin” (ค.ศ.2017) ขณะนี้ พิพิธภัณฑ์ ฯ ปิดให้บริการเนื่องจากอยู่ในระหว่างการปรับปรุงซ่อมแซมโดยจะเปิดเข้าชมอีกครั้งในวันที่ 21 เดือนเมษายน ปีค.ศ.2022
* ปัจจุบัน คุณสามารถเยี่ยมชมผลงานได้ที่ Parco de Museum บนชั้น 6 ของห้างสรรพสินค้า Matsumoto Parco ถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ปีค.ศ.2022
<12:00>
เดินเล่นบนถนนนากามาจิและถนนนาวาเตะก่อนทานโซบะในมื้อเที่ยง
เมืองมัตสึโมะโตะมีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 400 ปี ปัจจุบัน ภายในเมืองยังคงมีบ้านโบราณที่ถ่ายทอดเค้าลางในอดีตให้นักท่องเที่ยวได้เห็น โดยเฉพาะบริเวณถนนนากามาจิและถนนนาวาเตะซึ่งเป็นพื้นที่เดินเล่นที่เรียงรายเต็มไปด้วยร้านขายสินค้าและร้านอาหารในอาคารบ้านพ่อค้าเก่าที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ หากคุณเหน็ดเหนื่อยจากการเดินเที่ยวแล้ว เราขอแนะนำให้คุณแวะทานมื้อเที่ยงในร้านโซบะบริเวณนี้ ทั่วทุกพื้นที่ในจังหวัดนะงะโนะมีการทำโซบะอย่างแพร่หลายและเมืองมัตสึโมะโตะนั้นก็มีโซบะที่อร่อย ๆ อยู่มากมาย เนื่องจากภายในเมืองมีแหล่งน้ำผุดอยู่ตามจุดต่าง ๆ ซึ่งส่งผลทำให้น้ำที่ใช้ในการทำโซบะมีทั้งความสะอาดและความอร่อย
(* มีร้านค้าหลายร้านที่ปิดทุกวันพุธ)
<15:00>
ลองทำลูกกวาดแบบดั้งเดิมของมัตสึโมะโตะด้วยตัวเอง
เมืองมัตสึโมะโตะเคยเป็นแหล่งผลิตลูกกวาดระดับแนวหน้าของประเทศญี่ปุ่น ภายในเมืองมีร้านขายลูกกวาดเจ้าเก่าแก่ที่เปิดมาแล้วไม่ต่ำกว่า 350 ปีซึ่งคุณสามารถลองทำลูกกวาดสไตล์โบราณด้วยตัวเอง※ คุณจะได้ฟังการบรรยายไปพร้อม ๆ กับทดลองรีดก้อนน้ำเชื่อมข้าวที่เกิดจากข้าวและมอลต์ก่อนนำเอามาขึ้นรูปและตัดเป็นลูกกวาด การเรียนรู้เทคนิคทำลูกกวาดแบบดั้งเดิมในห้องญี่ปุ่นบรรยากาศผ่อนคลายนี้ถือเป็นประสบการณ์อันล้ำค่า คุณสามารถนำเอาลูกกวาดที่ทำเสร็จแล้วไปเป็นของฝากได้อีกด้วย
※กิจกรรมการทำลูกกวาดสไตล์โบราณจัดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น ควรจองวันเวลาที่ต้องการเข้าร่วมผ่านเว็ปไซต์ล่วงหน้า(https://airrsv.net/yamayacandy-workshop/calendar)
<17:00>
ชมการจัดแสดงแสงไฟและงานประดับประดาไฟยามค่ำคืนที่ปราสาทมัตสึโมะโตะ
ปราสาทมัตสึโมะโตะถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 16 ปัจจุบัน หอคอย 5 ชั้นของปราสาทเป็นหอคอยปราสาทที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงมีอยู่ ในช่วงกลางวัน คุณจะได้ชมปราสาทสวย ๆ ที่มีสีดำตัดกับสีขาวอย่างเต็มตา ส่วนในช่วงกลางคืนจะมีการจัดแสดงแสงไฟทุกวันตลอดทั้งปีโดยเริ่มตั้งแต่เวลา 17.00 น. ถึง 22.00 น. นอกจากนี้ยังมีงานประดับประดาไฟในยามค่ำคืนและโชว์ยิงแสงเลเซอร์ทาบบนตัวปราสาท
(*) ปราสาทที่ถูกส่องแสงเป็นสีสันต่าง ๆ และให้บรรยากาศแตกต่างไปจากช่วงกลางวันได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก
(*) งานประดับประดาไฟมีทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 21.00 น. ในช่วงเดือนธันวาคมจนถึงเดือนกุมภาพันธ์
<19:00>
พักผ่อนในห้องที่มีอ่างแช่ตัวกลางแจ้งในโรงแรมอนเซ็นสไตล์ญี่ปุ่น
ในเมืองมัตสึโมะโตะมีอนเซ็นอยู่ 16 แห่ง อนเซ็นของที่นี่มีน้ำแร่ร้อนคุณภาพดีซึ่งจะช่วยทำให้คุณผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการท่องเที่ยว ห้องพักบางห้องในที่พักแบบมีอนเซ็นจะมีอ่างแช่ตัวกลางแจ้งอยู่ในตัว ห้องพักดังกล่าวได้รับคำชมเป็นอย่างดีเพราะทำให้แขกที่เข้าพักได้ผ่อนคลายกับการแช่น้ำแร่ร้อนสบาย ๆ อย่างเต็มที่โดยไม่มีสิ่งใดมารบกวน ที่พักในอะซะมะอนเซ็นและอุซึกุชิกาฮาระอนเซ็นเป็นที่พักที่สะดวกต่อการเดินทางจากย่านเมือง หลังจากสนุกสนานกับการเที่ยวภายในเมืองช่วงกลางคืนแล้ว การได้แช่ตัวในอนเซ็นและชมดาวกลางดึกก็เป็นสิ่งที่ดีไม่น้อย นอกจากนี้ การได้ลิ้มลองเมนูอาหารที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบท้องถิ่นอย่างเนื้อวัวชินชูพรีเมียมซึ่งเป็นเนื้อวัวแบรนด์เฉพาะของจังหวัดนะงะโนะ(*) และผักท้องถิ่นของชินชู (จังหวัดนะงะโนะ) ก็เป็นอีกหนึ่งความเพลิดเพลินในที่พักที่รอให้คุณมาสัมผัส
(*) เนื้อวัวรสชาติดีที่มีความปลอดภัย ได้รับความไว้วางใจ และผ่านเกณฑ์ความอร่อยที่ทางจังหวัดนะงะโนะเป็นผู้กำหนดขึ้นมาเองโดยเฉพาะ
<21:00>
ดื่มด่ำกับช่วงเวลายามค่ำคืนที่ยาวนานด้วยการตระเวนเที่ยวบาร์
หลังทานมื้อเย็นอิ่มแล้ว ขอแนะนำให้คุณลองออกไปเที่ยวกลางคืนในเมืองดูอีกครั้ง เมืองมัตสึโมะโตะมีบาร์เทนเดอร์ฝีมือดีอยู่มากมายจนผู้คนเรียกว่าเป็น “เมืองแห่งบาร์” ภายในย่านเมืองมีร้านรวงต่าง ๆ ตั้งแต่บาร์แบบแท้ ๆ ไปจนถึงผับบรรยากาศสบาย ๆ หากมีโอกาส เราอยากให้คุณลองนั่งตรงเคาน์เตอร์เพื่อชมการทำงานอันพิถีพิถันของบาร์เทนเดอร์ชาวญี่ปุ่นและลิ้มรสชาติเครื่องดื่มสูตรเฉพาะอันน่าจดจำของมัตสึโมะโตะอย่างค็อกเทลที่ใช้น้ำแข็งจากน้ำรสชาติดีจากเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น (ความสูงระดับ 3,000 เมตร)
โปรแกรมการท่องเที่ยว วันที่ 2 :
ออกไปท่องเที่ยวท่ามกลางเขตธรรมชาติอันงดงามที่อยู่รอบเมืองมัตสึโมะโตะ
<ตัวเลือก A>
เดินป่าในคามิโคจิ
คามิโคจิเป็นดินแดนกลางหุบเขาที่มีทิวทัศน์งดงาม เมื่อราว 130 ปีก่อน มิชชันนารีชาวอังกฤษที่ชื่อ วอลเตอร์ เวสตัน ได้ทำให้ดินแดนแห่งนี้เป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วโลก หลังเดินทางมาจากพื้นที่ภายในเมืองมัตสึโมะโตะด้วยรถบัสโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง คุณจะพบกับทิวทัศน์ของเทือกเขาสูงระดับ 3,000 เมตรและแหล่งน้ำอันงดงามท่ามกลางสภาพอากาศที่สดชื่น เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งในการเดินป่าที่นี่คือความสนุกเพลิดเพลินที่ผู้คนแทบทุกวัยสามารถสัมผัสได้เนื่องจากเส้นทางเดินเที่ยวชมธรรมชาติของที่นี่เป็นทางราบและมีให้เลือกหลายเส้นทาง นอกจากนี้ยังมีไกด์คอยให้ข้อมูลเกี่ยวกับธรรมชาติเพื่อทำให้นักท่องเที่ยวเข้าใจสิ่งต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น (*ปิดรับนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนจนถึงกลางเดือนเมษายนของทุกปี)
<ตัวเลือก B>
ใส่รองเท้าลุยหิมะเดินเที่ยวชมธรรมชาติในโนริกุระ
การใส่รองเท้าลุยหิมะเดินชมวิวหิมะซึ่งให้อารมณ์เหมือนได้ออกไปปิกนิกเป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก บนที่ราบสูงโนริกุระมีภูมิทัศน์หลากหลายรูปแบบรอให้คุณได้มาสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นป่าต้นเบิร์ชขาวและต้นไม้แบบใบเข็ม รวมถึงสระและน้ำตกที่แข็งตัวจากอุณหภูมิอันหนาวเย็น
<ตัวเลือก C>
กำแพงหิมะ
โนริกุระสกายไลน์เป็นถนนที่ตัดผ่านพื้นที่ที่สูงจากระดับน้ำทะเล 2,702 เมตรซึ่งสูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น หลังจากที่มีการกวาดหิมะเพื่อเปิดเส้นทางให้สัญจรในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม สองฟากฝั่งของถนนจะปรากฏกำแพงหิมะที่สูงถึง 5-10 เมตร คุณควรลองขึ้นรถบัสมาชมกำแพงหิมะที่สวยงามนี้ดูสักครั้ง
การเดินทางจากโตเกียวมายังมัตสึโมะโตะด้วยรถไฟ Limited Express หรือชินคันเซ็นใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ที่นี่คุณสามารถเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับได้ แต่หากจะสัมผัสกับธรรมชาติที่กว้างใหญ่อย่างเต็มอิ่ม ควรเที่ยวไม่ต่ำกว่า 2 วัน หากมีโอกาส ลองมาสนุกเพลิดเพลินไปกับการท่องเที่ยวสบาย ๆ 2 วัน 1 คืนดังเช่นตัวอย่างโปรแกรมการท่องเที่ยวที่เราได้แนะนำไปนี้