Luxury Stroll Through History
สูดกลิ่นอายความเป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาคโทโฮคุ

รู้จักภูมิภาคโทโฮคุในแบบที่แตกต่าง ทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันสุดแสนประทับใจ

ภูมิภาคโทโฮคุ นอกจากจะมีธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ และทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยความงดงามซึ่งเป็นสิ่งที่หาสัมผัสได้ยากในเมืองใหญ่แล้ว
ที่นี่ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์อันยาวนานและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวได้มาค้นหา
สำหรับการเดินทางครั้งนี้ของเราได้มุ่งหน้าไปยังจังหวัดอาคิตะและจังหวัดอิวาเตะ
พร้อมกับอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังชาวไทยจาก “เพจครบเครื่องเรื่องญี่ปุ่น” เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวที่จะทำให้ทุกคนได้ประทับใจ

จังหวัดอาคิตะที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์

หออนุรักษ์ประเพณีพื้นบ้านของอาคิตะ (Akita City Folk Performing Arts Heritage Center) สถานที่ที่คุณจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีเฉพาะในจังหวัดอาคิตะอย่าง “เทศกาลอาคิตะคันโต” (Akita Kanto Festival) ซึ่งเป็น 1 ใน 3 เทศกาลใหญ่แห่งภูมิภาคโทโฮคุ จุดเด่นของงานคือการแข่งขันเชิดโคมไฟกระดาษที่แขวนไว้บนเสาไม้ไผ่ต้นเดียว โดยผู้แบกจะต้องใช้เทคนิคต่าง ๆ ประคองเสาไม้ไผ่ไม่ให้ล้ม โดยการใช้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายไม่ว่าจะเป็นฝ่ามือ หน้าผากหรือเอว เป็นต้น

นอกจากจะได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมาและความสำคัญของเทศกาลนี้ที่หออนุรักษ์แล้ว นักท่องเที่ยวยังมีโอกาสได้ลองประคองเสาไม้ไผ่ด้วยตัวเองโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้ความรู้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย

ไมโกะ (Maiko) คือหญิงสาวในชุดกิโมโนแสนงดงาม ที่ทำหน้าที่ดูแลและสร้างความบันเทิงให้กับแขกในงานจัดเลี้ยงญี่ปุ่นผ่านการร้องเพลง เต้นรำ ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทำให้จังหวัดอาคิตะได้ใช้ไมโกะประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวมาตั้งแต่ปี 2014

ครั้งนี้เราก็ได้ชมการแสดงของไมโกะอย่างใกล้ชิดที่มัตสึชิตะ อาคิตะ ไมโกะ (Matsushita Akita Maiko) โดยเริ่มต้นก่อนการแสดง ไมโกะจะชงชาเสิร์ฟพร้อมกับคุกกี้แสนน่ารักเป็นอาหารว่างในขณะเพลิดเพลินกับการแสดง

ย้อนเวลาสู่อดีตที่เมืองคะคุโนะดาเตะ (Kakunodate)

ย่านหมู่บ้านซามูไรนั้นเป็นจุดหมายปลายทางที่พลาดไม่ได้หากได้มาเยือนที่เมืองคะคุโนะดาเตะ ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “Little Kyoto” แห่งภูมิภาคโทโฮคุ มีบ้านซามูไรเพียง 6 หลังที่เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมภายในได้ชื่อ “พิพิธภัณฑ์เอโอะยากิ ซามูไร มาโนะ” (Aoyagi Samurai Manor Museum) ภายในจัดแสดงวิถีชีวิตในสมัยก่อนของซามูไร รวมไปถึงวัตถุโบราณ อาทิ ชุดเกราะที่เราสามารถลองสวม หรือดาบซามูไรที่เราสามารถลองสัมผัสหรือยกดูได้ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีสวนสไตล์ญี่ปุ่นให้ได้เดินเล่น โรงน้ำชาเก่าแก่ที่มีเมนูอาหารอันน่าสนใจ หรือแม้แต่ร้านคาเฟ่ให้ได้แวะพักผ่อนกันอีกด้วย

ไฮไลท์อีกกิจกรรมหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อได้มาชมหมู่บ้านซามูไรก็คือ การแต่งชุดกิโมโนพร้อมกับนั่งรถลากสไตล์ญี่ปุ่นที่จะทำให้การเดินทางของคุณนั้นน่าประทับใจมากยิ่งขึ้น โดยคนลากรถผู้ที่เปรียบเสมือนเป็นไกด์นั้นจะเล่าเรื่องราวความเป็นมาของหมู่บ้านซามูไรเพิ่มความสนุกสนาน

เมืองคะคุโนะดาเตะนั้นเคยเป็นเมืองที่เคยเจริญรุ่งเรืองในฐานะเมืองที่ตั้งปราสาทสมัยก่อน สำหรับโรงแรมวาโนะอิ คะคุโนะดาเตะ (wanoi Kakunodate) นั้นเดิมทีได้รับการรีโนเวทมาจากโกดังเก่าของตระกูลซามูไรจริงๆ ทำให้ของตกแต่งภายในบางส่วนล้วนมาจากของโบราณทั้งสิ้น มีทั้งหมด 2 ชั้น โดยชั้นล่างเป็นบริเวณห้องนั่งเล่นและชั้นบนเป็นบริเวณห้องนอน

เสน่ห์ของที่นี่คือนอกจากจะมีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นโบราณแล้ว ยังผสมผสานการออกแบบสไตล์โมเดิร์น พร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และความเป็นส่วนตัวให้กับผู้เข้าพักอย่างเต็มที่

ร้านเรียวเท อินาโฮะ (Ryotei Inaho) เสิร์ฟอาหารในรูปแบบไคเซกิ (Kaiseki) หรืออาหารคอร์สญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่ใช้ความพิถีพิถันในการจัดเสิร์ฟ โดยส่วนใหญ่จะใช้วัตถุดิบท้องถิ่นของจังหวัดอาคิตะตามฤดูกาล และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “คิริทัมโปะ” (Kiritanpo) ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองของจังหวัดอาคิตะนั่นเอง

รถไฟสายอาคิตะไนริกุ (Akita Nairiku Jukan Tetsudo)

รถไฟสายท้องถิ่นสีสันสดใสนี้มีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ตกแต่งด้วยสุนัขอาคิตะทั้งขบวน มีเส้นทางวิ่งระหว่างสถานีคะคุโนะดาเตะ (Kakunodate Station) ไปจนถึงสถานีทะคะโนะสุ (Takanosu Station) ระหว่างทางนอกจากจะได้ชมความงดงามของธรรมชาติแล้ว ยังมีโอกาสได้ชมศิลปะบนนาข้าว (Tanbo Art) ซึ่งเป็นการสร้างภาพบนทุ่งนาโดยใช้พันธุ์ของข้าวที่มีสีที่ต่างกัน นอกจากนี้ ภายในรถไฟยังมีจุดที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่และแผนที่นำทางภาษาต่างประเทศ เตรียมไว้สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกด้วย

สัมผัสประวัติศาสตร์อันล้ำค่าและมรดกโลกแสนสำคัญของภูมิภาคโทโฮคุ

เช้าวันถัดไปเราเดินทางจากจังหวัดอาคิตะเพื่อไปต่อยังจังหวัดอิวาเตะ โดยไปเยือนที่อุทยานเอซาชิ-ฟูจิวาระ (Esashi-Fujiwara Heritage Park) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองโอชู (Oshu) โดยคุณจะได้ย้อนยุคกลับไปยังสมัยเฮอัน (Heian Period) ภายในอุทยานดังกล่าวจะได้พบกับสวนทางประวัติศาสตร์ อาคารต่าง ๆ สไตล์โบราณ

อุทยานเอซาชิ-ฟูจิวาระสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1993 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) กิจกรรมภายในอุทยานนั้นมีมากมายที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายตั้งแต่การแปลงโฉมเป็นชุดขุนนาง หรือชุดเกราะซามูไรสมัยเฮอัน กิจกรรมการทดลองยิงธนู เป็นต้น

วัดจูซนจิ (Chūson-ji Temple) เป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนานิกายเทนไดในภูมิภาคโทโฮคุ ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.850 นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเมืองฮิราอิซุมิ (Hiraizumi) และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) บรรยากาศภายในวัดนั้นเต็มไปด้วยธรรมชาติและความเงียบสงบ ปลุกคลุมทั่วพื้นที่ตั้งแต่บริเวณทางเข้าไปจนถึงยอดภูเขา

ภายในวัดนั้นมีสิ่งที่น่าสนใจมากมายตั้งแต่อาคารสีทองคงจิคิโด (Konjikido Golden Hall) ซึ่งเป็นสมบัติของชาติ และเป็นอาคารแห่งเดียวของวัดจูซนจิที่สร้างในศตวรรษที่ 12 ที่ยังคงสภาพเดิมแม้จะถูกไฟไหม้ เป็นต้น

เรียนรู้วัฒนธรรมการรับประทานโมจิอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวเมืองอิวาเตะ

จังหวัดอิวาเตะนั้นมีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกับที่ไหนคือการรับประทานโมจิเป็น “อาหารคาว” โดยเฉพาะในช่วงเวลาสำคัญหรืองานสิริมงคล อาทิ งานแต่งงาน เมนูที่เรารับประทานในร้าน “ซันไซคัน ฟูจิเซ” (Sansaikan Fujisei) จะมีโมจิทั้งหมด 8 ชนิด โดยโมจิแต่ละชนิดก็จะมีรสชาติคาวหวานแตกต่างกันไป ได้แก่ โมจิขิง โมจิถั่วแดง โมจิถั่วเหลืองหมัก โมจิงาดำ โมจิถั่ววอลนัท โมจิกุ้ง โมจิถั่วแระบด โมจิงาและตามด้วยหัวไชเท้าบดแก้เลี่ยน เสิร์ฟคู่กับปลาและอาหารต่าง ๆ

หุบเขาเก็นบิเค (Genbikei Gorge) มีไฮไลท์ที่น่าสนใจคือดังโงะลอยฟ้าหรือเรียกว่า “คักโกยะ คักโกดังโงะ” (Kakkoya Kakkodango) ที่มีวิธีการสั่งซื้อที่ไม่เหมือนใคร นั่นก็คือการสั่งดังโงะแบบชักรอก โดยอันดับแรกเราต้องวางเงินลงไปในตะกร้าที่จัดเตรียมไว้ จากนั้นใช้ค้อนไม้ที่วางข้าง ๆ เคาะป้ายไม้เพื่อเป็นสัญญาณ แล้วทางร้านจะชักรอก รับเงินและส่งขนมดังโงะพร้อมชาร้อน ๆ กลับมาให้

ครั้งนี้ทางอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังอย่างครบเครื่องเรื่องญี่ปุ่น ได้กล่าวไว้ว่า “ภูมิภาคโทโฮคุนั้นเต็มไปด้วยเสน่ห์และเอกลักษณ์มากมายที่ไม่ว่าจะมาเยือนกี่ครั้งก็ไม่เคยพอ ที่นี่เป็นสถานที่ที่เราจะได้สัมผัสกับธรรมชาติ วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่นอย่างแท้จริง หากใครที่อยากลองรู้จักประเทศญี่ปุ่นในมุมมองใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนเดิม เราขอแนะนำให้มาที่นี่”

Other Area

ภูมิภาคโทโฮคุนั้นยังมีทั้งความงาม ความเพลิดเพลินและเรื่องราวอีกมากมายตามสถานที่ต่าง ๆ ที่รอคอยให้คุณค้นหา

อย่าลืมใส่ภูมิภาคโทโฮคุเข้าไปในทริปการเดินทางครั้งต่อไปของคุณ รับรองว่าจะประทับใจและเป็นความทรงจำดี ๆ ที่ไม่มีวันลืมเลือนอย่างแน่นอน

About Krobkrueng Japan

ครบเครื่องเรื่องญี่ปุ่น เป็นอินฟลูเอนเซอร์คู่รักชาวไทยอาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งรวบรวม "ข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น" ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลข่าวสารในประเทศ
การท่องเที่ยว ช็อปปิ้ง วัฒนธรรมและอื่นๆ อีกมากมาย