ภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) คือ ภูมิภาคที่อยู่ทางเหนือของเกาะฮอนชู (Honshu) ประกอบด้วย 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอะโอโมริ (Aomori), จังหวัดอะคิตะ (Akita), จังหวัดอิวะเตะ (Iwate), จังหวัดมิยะงิ (Miyagi), จังหวัดยะมะงะตะ (Yamagata) และจังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima)
บริเวณพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ มีความอุมสมบูรณ์ ส่วนอื่นยังมีความเป็นชนบท ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยวิวทิวทัศน์อันสวยงาม ทั้งทะเลสาบ น้ำตก อนเซ็นธรรมชาติท่ามกลางหุบเขา จุดเด่นของภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) อยู่ที่ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีและฤดูใบไม้ผลิ เทศกาลที่เป็นที่รู้จัก คือ เทศกาลแห่โคมไฟ
หมู่บ้านซามูไรคะคุโนะดะเตะ (Kakunodate)
หมู่บ้านซามูไรคะคุโนะดะเตะ (Kakunodate) เป็นชุมชนโบราณในเขตปราสาท ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของที่ราบเซมโบคุ (Senboku) ในอดีตย่านนี้เป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าบรรดาซามูไร หรือที่เรียกว่าบุเคะยะชิกิ (Bukeyashiki) และบ้านเรือนของพ่อค้าวาณิช ซึ่งยังคงได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดีแม้เวลาจะล่วงเลยมาราว 400 ปีแล้วก็ตาม ทำให้ที่นี่ได้รับฉายาว่าเป็น เกียวโตน้อย (The Little Kyoto)
ปัจจุบันเหลือบ้านซามูไรที่เปิดให้เข้าชมเพียง 6 หลัง และหากเดินเล่นจนรู้สึกเมื่อย ก็สามารถนั่งรถลากชมเมืองได้ด้วย ในช่วงปลายเดือนเมษายนที่นี่จะสวยงามเป็นพิเศษด้วยดอกชิดาเระซากุระ (Shidarezakura) ที่บานโน้มกิ่งห้อยระย้าไปทั่วบริเวณ และในฤดูหนาวก็สร้างบรรยากาศที่งดงามได้ไม่แพ้กัน
บ้านอะโอะยะงิ (Aoyagi House) ตั้ง อยู่ทางทิศใต้ของบ้านอิชิงุโระ มีอาณาบริเวณกว้างขวาง ภายในมีสวนที่ปลูกต้นไม้และดอกไม้ชนิดต่างๆมากมาย ให้บรรยากาศที่สวยงามแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล เป็นบ้านซามูไรที่สวยงามที่สุด ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน ภายในมีการจัดแสดงสิ่งของทรงคุณค่าต่างๆเช่น อาวุธโบราณและงานศิลปะจำนวนมาก นอกจากนี้ภายในอาณาบริเวณยังมีร้านอาหารและคาเฟ่สไตล์ย้อนยุคให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองรสชาติอาหารจานเด็ดขึ้นชื่ออีกด้วย นับว่าเป็นบ้านพักซามูไรที่เต็มไปด้วยความเพลิดเพลินรูปแบบต่างๆมากมายราวกับธีมปาร์คเลยทีเดียว
รายละเอียดเพิ่มเติม
http://www.samuraiworld.com/english/index.html
บ้านอิชิงุโระ (Ishiguro House) คือ บ้านหลังเก่าแก่ที่สุดในหมู่บ้านซามูไรที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน และทุกวันนี้ก็ยังคงมีลูกหลานอาศัยอยู่ ส่วนหนึ่งของตัวบ้านเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าเยี่ยมชมภายในได้ ซึ่งก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับลักษณะของตัวบ้าน ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในสมัยก่อน รวมถึงประวัติศาสตร์ของคะคุโนะดาเตะ จึงอยากแนะนำให้แวะมาเยี่ยมชมเป็นที่แรกในการมาเที่ยวคะคุโนะดาเตะแห่งนี้
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://tazawako-kakunodate.com/ja/shops/12
| ที่อยู่ | Kakunodate 394-2 Kamisugesawa, Kakunodate-machi, Senboku-shi, Akita |
| การเดินทาง | จากสถานีรถไฟ Kakunodate แล้วเดินอีก 2 นาที |
| เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) |
https://tazawako-kakunodate.com/ja/ |
| เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) |
https://tazawako-kakunodate.com/en/ |
| เว็บไซต์ (ภาษาไทย) |
https://tazawako-kakunodate.com/th/ |
พิพิธภัณฑ์นามาฮาเงะ (Namahage Museum)
พิพิธภัณฑ์นามาฮาเงะ (Namahage Museum) ตั้งอยู่ในเมืองโอกะ (Oga) นำเสนอทุกสิ่งที่เกี่ยวกับนามาฮาเงะ ผ่านการจัดแสดงต่าง ๆ ที่ "มุมนามาฮาเงะ เซอิโซโรอิ" จัดแสดงหน้ากากและเครื่องแต่งกายจาก 60 อำเภอทั่วโอกะ นามาฮาเงะแห่งโอกะได้รับเลือกให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมพื้นบ้านที่สำคัญของชาติในปีค.ศ. 1978 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้จากยูเนสโกในปี ค.ศ. 2018
สำหรับชาวโอกะ นามาฮาเงะเป็นเทพที่มาเยี่ยมเยียนในช่วงปีใหม่เพื่อเตือนสติเรื่องความเกียจคร้าน นำสุขภาพที่ดีมาสู่ผู้คน พืชผลที่ดีจากทุ่งนา และโชคลาภจากภูเขาและทะเล
พิพิธภัณฑ์นามาฮาเงะ
• มีการจัดแสดงหน้ากากนามาฮาเงะกว่า 150 ชนิดที่ใช้จริงตามส่วนต่างๆ ของเมืองโอกะ
• ห้องโถงลึกลับ ห้องที่แสดงถึง ภูมิประเทศและสภาพอากาศอันเป็นเอกลักษณ์ของโอกะ ซึ่งเป็นที่ที่นามาฮาเงะ เกิด เติบโต และสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น จะถูกนำเสนอผ่านสื่อพื้นบ้าน
• หอประเพณีนามาฮาเงะ บรรยายถึงเทศกาลนามาฮาเงะที่ยังคงสืบสานต่อไปในโอกะ ประเพณี และจิตวิญญาณของผู้คนที่สืบทอดเทศกาลนี้ บนหน้าจอ ภาพยนตร์เรื่อง ``Namahage Night'' ซึ่งแนะนำประเพณีนามาฮาเงะ ในวันส่งท้ายปีเก่า เริ่มตั้งแต่เวลา 8:30 น. จนถึง 16:30 น. ใช้เวลา 30 นาที
• มุมนิทรรศการพิเศษ โดยการจัดนิทรรศการต่างๆ มากมาย รวมถึงการจัดแสดงหน้ากากที่ใช้ในงานพื้นบ้านที่คล้ายกับนามาฮาเงะในจังหวัดอาคิตะและในต่างประเทศ
• มุมการแปลงร่างนามาฮาเงะดิจิทัล แปลงร่างเป็นนามาฮาเงะด้วยระบบดิจิทัลโดยใช้ AR
• สาธิตการทำหน้ากาก Chiaki Ishikawa Namahage ปัจจุบัน จิอากิ อิชิกาวะ ช่างแกะสลักหน้ากากนามาฮาเงะเพียงคนเดียวในโลก จะจัดการสาธิตการแกะสลักหน้ากากนามาฮาเงะด้วยมือ (3-4 วันต่อสัปดาห์)
• ร้านค้าที่จำหน่ายสินค้านามาฮาเงะแบบออริจินัลและแบบพิเศษ
พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านโอกะชินซัง
เพลิดเพลินไปกับพิธีกรรมนามาฮาเงะได้ตลอดทั้งปี เป็นการแสดงสาธิตนามาฮาเงะแบบดั้งเดิมในพื้นที่ชินซัน ในคืนส่งท้ายปี
เทศกาลนามาฮาเงะเซโดะ (Namahage Sedo Festival)
1.ต้อนรับการมาเยือนของเหล่าเทพเจ้า เป็นเทศกาลนามาฮาเงะ คือ 1 ใน 5 เทศกาลหิมะหลักที่จัดขึ้นที่มิจิโนะคุ โดยจัดขึ้นครั้งแรกที่ศาลเจ้ามะยะมะในคิตะอุระ เมืองโองะ จังหวัดอะคิตะ ใน ปีค.ศ. 1964 และจัดงานเป็นเวลา 3 วันของทุกๆปี ในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ที่สองของเดือนกุมภาพันธ์
2.งานเทศกาลประกอบด้วยพิธีกรรมชินโต “ไซโตไซ” ที่มีอายุกว่า 900 ปี ซึ่งจัดขึ้นที่ศาลเจ้ามะยะมะเป็นประจำทุกปี ในวันที่ 3 มกราคม รวมถึงกิจกรรมท้องถิ่นนามาฮาเงะ
การเต้นรำของปีศาจนามาฮาเงะที่กล้าหาญและทรงพลังภายใต้โคมไฟพุ่มไม้ในบริเวณศาลเจ้ามะยามะซึ่งเป็นภาพที่สวยงามตระการตา ว่ากันว่าปีศาจนามาฮาเงะ เป็นผู้รับใช้ของเทพเจ้าที่จะช่วยปัดเป่าโชคร้ายทั้งหลายให้ออกไป และนำมาแต่สิ่งดีๆ รวมถึงการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่อุดมสมบูรณ์
| ที่อยู่ | Namahage Museum Mizukuisawa Kitaurashinzan, Oga, Akita |
| การเดินทาง | จากสถานีรถไฟ Oga โดยสาร Namahage Shuttle แล้วเดินอีก 25 นาที |
| เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) |
https://namahage.co.jp/namahagekan/ |
| เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) |
https://namahage.co.jp/namahagekan/en/ |
| เว็บไซต์ (ภาษาไทย) |
https://www.japan.travel/th/spot/1827/ |
“คิริทัมโปะ” ของอร่อยแห่งอะคิตะ
คิริทัมโปะ (Kiritanpo) เมนูขึ้นชื่อประจำจังหวัดอาคิตะ (Akita) มีที่มาที่ไปที่หลากหลาย แต่ก็มักจะเล่าขานกันว่าเมนูนี้เริ่มเกิดขึ้นในบริเวณ เมืองโอดะเตะ (Odate) จากชาวเขาแถบนั้น ได้ริเริ่มการถนอมอาหารจากข้าวที่กำลังจะเสีย นำข้าวมาตำ ปั้น และเสียบไว้กับแท่งไม้ จากนั้นนำไปย่างเพื่อยืดอายุของข้าวให้ยาวนาน และเก็บไว้กิน ต่อมาเริ่มมีการนำมาต้มรวมกับน้ำซุปนาเบะจนกลายเป็นเมนูคิริทัมโปะนาเบะ (Kiritanpo Nabe) เมนูขึ้นชื่อของอาคิตะ (Akita)
คิริทัมโปะ (Kiritanpo) คือ อาหารที่ทำจากข้าว โดยเอาข้าวหุงสุกผสมกับน้ำเกลือเล็กน้อยแล้วนำมาตำรวมกัน จากนั้นปั้นเป็นก้อนเสียบด้วยแท่งไม้ แล้วนำไปย่างด้วยถ่านจนเป็นสีเหลืองน้ำตาลจนมีกลิ่นหอม กรอบนอกนุ่มใน ซึ่งเป็นวิธีการปรุงอาหารในแบบฉบับของชาวอาคิตะ ว่ากันว่ารสชาติอันอร่อยลิ้นของคิริทัมโปะนี้มาจากการใช้ข้าวที่เพิ่งเก็บเกี่ยวขึ้นมาใหม่ๆนั่นเอง
เมนูที่นิยมคือ “หม้อไฟคิริทัมโปะ (Kiritanpo Hot Pot)” โดยใส่ลงในน้ำซุปที่ปรุงจากโชยุและโครงกระดูกไก่ พร้อมกับผักและเห็ดมากมาย เช่น รากโกโบ เห็ดเข็มทอง เห็ดชิเมจิ เห็ดไมทาเกะ ต้นหอมญี่ปุ่น หรือวัตถุดิบอื่น ๆ เช่น โมจิ ขึ้นอยู่กับร้านแต่ละแห่งจะคิดค้นขึ้นมา ให้รสชาติที่หวาน เค็ม กลมกล่มลงตัว
หรือบางครั้งคิริทัมโปก็รับประทานโดยนำไปทามิโซะแล้วย่างไฟ หากใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วบังเอิญผ่านไปเจอเมนูนี้ที่ไหน แนะนำให้ลองชิมกันดูให้ได้
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.akita-yulala.jp/th/specialty/คิริทังโปะ
https://www.tohokukanko.jp/zh_th/attractions/detail_2029.html
เพจที่เกี่ยวข้อง
- ภูมิภาค : โทโฮคุ (Tohoku)
- เล่นสกี แช่อนเซ็นที่โทโฮคุ
- สัมผัสธรรมชาติ ซึมซาบวัฒนธรรม ทั่วภูมิภาคโทโฮคุ
- อิ่มเอมใจกับธรรมชาติ และมิตรไมตรีที่โทโฮคุ
- จุดชมซากุระที่อยากแนะนำ บริเวณญี่ปุ่นฝั่งตะวันออก
- แช่อนเซ็นพร้อมดื่มด่ำไปกับวิวใบไม้แดง ณ ภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku)
- เที่ยวสนุกสุดเพลิดเพลินด้วยการใช้พาส ตอน 2 โทโฮคุ (Tohoku)
- แนะนำอาหารอร่อยของภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku)
