HOME Back

Use the

Planning a Trip to Japan?

Share your travel photos with us by hashtagging your images with #visitjapanjp

5 ขบวนรถไฟชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีทั่วประเทศญี่ปุ่น (ตอน 2)

ฤดูใบไม้ร่วง หรือใบไม้เปลี่ยนสี ในประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นช่วงฤดูของการท่องเที่ยว เพื่อสัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม เพราะทั่วทั้งประเทศที่อุดมไปด้วยพันธ์ไม้ต่าง ๆ เช่น ต้นเมเปิ้ล และต้นแปะก๊วย ต้นสนญี่ปุ่น จะพากันอวดสีสันตะการตาทั่วทุกพื้นที่

โดยต้นฤดูใบไม้ร่วงจะเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน ใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสี ไล่จากทางภาคเหนือลงสู่ภาคใต้ของญี่ปุ่น ซึ่งช่วงเวลาอาจคลาดเคลื่อนแตกต่างกันไปในแต่ละปี ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และอุณหภูมิของปีนั้น ๆ

รายละเอียดเพิ่มเติม
https://n-kishou.com/corp/news-contents/autumn/
https://tenki.jp/kouyou/

 

สภาพอากาศ และการแต่งกาย

เมื่อถึงปลายเดือนกันยายน ถึงตุลาคม ชาวญี่ปุ่นต่างพากันออกมาสูดรับอากาศฤดูใบไม้ร่วง และรอคอยใบไม้เปลี่ยนสีในอีกไม่ช้า สภาพอากาศในช่วงนี้จะเย็นสบาย มีอุณหภูมิกำลังพอดีอยู่ที่ 15-25 องศาเซลเซียส

แม้อากาศจะไม่หนาวเท่าฤดูหนาว แต่ควรเตรียมเสื้อสำหรับกันหนาวไปด้วย เช่น เสื้อแขนยาว เสื้อคลุมคาร์ดิแกน เสื้อแจ็กเก็ต หรือเสื้อสเว็ตเตอร์ ท่อนล่างกางเกงขายาว กระโปรงยาว กางเกงเล็กกิ้ง หรือถุงน่องผ้าหนา พร้อมรองเท้าหุ้มส้น หรือรองเท้าบู๊ท

 

กิจกรรม และเทศกาลที่นิยม

เทศกาลคะระทสึ คุนชิ (Karatsu Kunchi Festival)

 

ช่วงฤดูของใบไม้เปลี่ยนสีของญี่ปุ่นเป็นช่วงที่มีสภาพอากาศที่เหมาะแก่การจัดเทศกาลต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับประเพณี และกิจกรรมท้องถิ่นมากมาย อาทิ

・ กิจกรรมเดินป่า พร้อมชมใบไม้เปลี่ยนสี โดยจุดที่คนญี่ปุ่นนิยม และเหมาะสำหรับมือใหม่ก็คือ เขาอาซาฮิดาเคะ (Asahi- dake) ในฮอกไกโด (Hokkaido), คามิโคจิ (Kamokochi)ในนากาโน่ (Nagano) หรือภูเขาทาคาโอะ (Mount Takao) ในโตเกียว (Tokyo)

・ แช่อนเซ็นท่ามกลางวิวใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งคุณจะสามารถอาบน้ำพร้อมกับการเห็นใบเมเปิ้ลเปลี่ยนสีจากบ่อออนเซ็นกลางแจ้งหรือในสวนก็ได้

・ เที่ยวงานวัด หรืองานเทศกาล ตามแต่ละพื้นที่ มักจัดงานเทศกาลประจำฤดูใบไม้ร่วงท้องถิ่นแตกต่างกันไป อาทิ เทศกาลฤดูใบไม้ร่วงของคิชิโจจิ (Kichijoji Autumn Festival) ประจำเมืองโตเกียว จะมีการแห่ศาลเจ้าไปตามถนนต่างๆ เพื่อเฉลิมฉลองการเริ่มต้นของฤดูใบไม้ร่วง

เทศกาลคะระทสึ คุนชิ (Karatsu Kunchi Festival) เทศกาลเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวของซากะ (Saga) ในฤดูนี้จะมีวันหยุดที่เรียกว่า ซิลเวอร์วีค (Silver Week) เป็นวันหยุดยาวฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่น ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามวันหยุดที่เรียงติดต่อกันของแต่ละปี ช่วงสัปดาห์ซิลเวอร์วีค คนจะเยอะตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ รวมถึงราคาที่พักบางที่ปรับสูงขึ้น รถติดบางเส้นทางที่เข้าออกเมือง เพราะฉะนั้นควรจะต้องเผื่อเวลาการเดินทางให้ดี

 

เมนูที่นิยมในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

 

ประเทศญี่ปุ่นมีฤดูกาลที่ต่างกันตลาดทั้งปี และมีความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่เพาะปลูก ทำให้ผลไม้ต่างๆ มีความหลากหลาย รสชาติโดดเด่น โดยเฉพาะฤดูใบไม้ร่วง ตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน จะเป็นฤดูเก็บเกี่ยวผลไม้หลากหลายชนิด อาทิ
・องุ่น จังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) ,จังหวัดนากาโน่ (Nagano)
・สาลี่ จังหวัดชิบะ (Chiba)
・เกาลัด จังหวัดกิฟุ (Gifu), จังหวัดอิบารากิ (Ibaraki)
・แอปเปิ้ล จังหวัดอาโอโมริ (Aomori), จังหวัดนากาโน่ (Nagano)
・ลูกพลับ จังหวัดนารา (Nara)

นอกจากผลไม้แล้ว ฤดูใบไม้ร่วงก็เป็นช่วงที่อาหารอุดมสมบูรณ์มากเลยทีเดียว สำหรับวัตถุดิบจากทะเลที่เด่น ๆ ในช่วงนี้คือ อาคิซาเกะ (Aki Sake) ซึ่งจะเป็นช่วงที่ปลาเริ่มว่ายน้ำกลับมายังแม่น้ำ ที่เป็นบ้านเกิด เพื่อเตรียมพร้อมจะวางไข่ในที่ ๆ ตัวเองได้เกิดมา ปลาซาเกะ หรือแซลมอนนี้เป็นปลาที่อยู่ตามธรรมชาติ ต่างจากแซลมอนเลี้ยงสายพันธุ์ที่นอร์เวย์ที่รู้จักกันโดยทั่วไป ทำให้เนื้อลีนแทบไม่มีไขมัน ควรนำมาปรุงสุกให้ก่อนรับประทาน นิยมนำมาย่างเกลือ หรือต้มซีอิ้ว

 

ใบไม้เปลี่ยนสี ทัศนียภาพของฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ครั้งนี้เราจะมาแนะนำ 5 ขบวนรถไฟชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีทั่วประเทศญี่ปุ่น ตอน 2 โดยมีการแนะนำสายรถไฟขบวนพิเศษ ไฮไลท์ของขบวนรถไฟ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมใบไม้เปลี่ยนสี และกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด

 

คลิกอ่านบทความ 5 ขบวนรถไฟชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีทั่วประเทศญี่ปุ่น
https://www.japan.travel/th/th/newsletter/the-best-of-autumn-and-5-trains-in-japan/

 

รถไฟสายยะกัง เทสึโด (Yagan Tetsudo Railway), โทชิงิ (Tochigi)


 

 

รถไฟสายยะกัง เทสึโด (Yagan Tetsudo Railway) เป็นรถไฟของบริษัท Tobu Railway ที่วิ่งตามแนวเทือกเขา ระหว่างสถานีชินฟุจิวาระ (Shin-Fujiwara St.) ในนิกโก้ (Nikko) ถึง สถานีไอสุ โคเก็นโอเสะกุจิ (Aizukogen-Oze-Guchi st.) ทางตอนใต้ของจังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima) เป็นระยะทางกว่า 30 กิโลเมตร

 

จุดเด่นของเส้นทางรถไฟ

เส้นทางสายยะกัง เทสึโด (Yagan Tetsudo Railway) เป็นเส้นทางรถไฟที่จะพาคุณเพลิดเพลินใจไปกับวิวทิวทัศน์ธรรมชาติสุดโรแมนติกตลอดสองข้างทาง โดยวิ่งผ่านจุดเด่นอย่าง หุบเขาริวเคียว (Ryuokyo Canyon) ในเมืองนิกโก้ (Nikko) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในด้านทิวทัศน์อันงดงามของหิน และลำธาร โดยเฉพาะในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี และยังผ่านแหล่งอนเซ็นอีกมากมาย จนได้รับขนานนามว่าเป็น รถไฟแห่งอนเซ็น อย่าง ยุนิชิกาวะ อนเซ็น (Yunishikawa Onsen) ที่สามารถลงไปใช้บริการแช่อนเซ็นเท้าได้ฟรี และวิ่งไปจนถึงประตูสู่อุทยานแห่งชาติโอเซ (Oze National Park) จุดหมายของคนชอบเดินเทรคกิ้ง

 

ไฮไลท์ของรถไฟสายนี้ คือ

ขบวนรถไฟ Yagapi-car จะมีที่นั่งส่วนหนึ่งเป็นแบบเสื่อทาทามิ และโต๊ะโคทัตสึ (Kotatsu) สำหรับผู้ที่อยากนั่งยืดเส้นยืดสาย ผ่อนคลายที่เบาะที่นั่งจากการเดินเทรคกิ้ง หรือการแช่อนเซ็น และยังมีที่นั่งสำหรับใครที่ชื่นชอบรถไฟ และฝันอยากเป็นคนขับโดยเฉพาะ เพราะภายในขบวนจะติดตั้งที่นั่งคนขับ 2 แห่ง โดยมีอุปกรณ์ หน้าปัดแผงควบคุมที่เคยถูกใช้ในห้องคนขับจริง ๆ
รายละเอียดเพิ่มเติม *ต้องจองที่นั่งล่วงหน้า
https://www.yagan.co.jp/yagapi-car/

 

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดเพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสี

ช่วงฤดูใบไม้ร่วงในเดือนปลายเดือนตุลาคม ต้นไม้ใบหญ้าตลอดสองข้างทางก็จะเปลี่ยนสีจากเขียว เป็นเหลืองส้มสวยงามอร่าม จนกลายเป็นหนึ่งในเส้นทางรถไฟชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น

กิจกรรมพิเศษ
ระหว่างเส้นทางการเดินทาง สามารถลงที่สถานี Ryuokyo เพื่อเดินเทรคกิ้งไปเรื่อยๆ ตามทาง ชมวิวธรรมชาจิไปจนถึงสถานี Kawaji-Yumoto เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมแอดเวนเจอร์ หรือสายเดินป่า อยากท้าทายความสามารถ
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.yagan.co.jp/ensen/hiking/news.html

 

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำใกล้เคียง

หุบเขาริวเคียว (Ryuokyo Canyon)
เป็นหุบเขาที่อุดมไปด้วยธรรมชาติ ทั้งน้ำตก และแม่น้ำคินุกาวะ (Kinugawa River) ตั้งอยู่ระหว่างคาวาจิอนเซ็น (Kawaji Onsen) และคินุกาวะอนเซ็น (Kinugawa Onsen) ซึ่งเป็นอนเซ็นที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของภูมิภาคคันโต หุบเขามีความยาวประมาณ 4 กิโลเมตรถือเป็นเส้นทางเดินป่า และชมธรรมชาติที่อยากแนะนำ โดยเฉพาะช่วงใบไม้เปลี่ยนสีราวเดือนพฤศจิกายน มวลแมกไม้ต่างพร้อมใจกันเปลี่ยนสีจากเขียวเป็นแดง และเหลืองให้เราได้เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ธรรมชาติอันสวยงามขณะเดินไปตามเส้นทางเดิน
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.tobu.co.jp/en/sightseeing/news/788.html

 

อาหารแนะนำที่ไม่ควรพลาด

 

โรงแรมคาเมะโนอิ (Kamenoi Hotel NikkoYunishigawa) ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานี Yunishigawa Onsen เป็นเรียวกังที่รายล้อมด้วยอุทยานแห่งชาตินิกโก้ (Nikko National Park) มีชื่อเสียงจากดินเนอร์ชุดอาหารไคเซกิ ที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพดีมาปรุงสารพัดเมนูอร่อยให้แขกผู้เข้าพักทาน อาทิ ปลาดิบซาชิมิสด ๆ เนื้อวัว หมูจากโทชิงิที่ย่างในเตาถ่านบนกองทราย หรือจะเลือกเป็นเช็ตหม้อชาบูชาบูได้เช่นกัน
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://kamenoi-hotels.com/en/nikkoyunishigawa/restaurant/

 

 

ชื่อรถไฟ Yagan Tetsudo Railway
การเดินทาง จากสถานี Tobu Nikko โดยสารรถไฟ SPACIA Nikko ลงสถานี Shimoimaichi ใช้เวลา 7 นาที จากนั้นโดยสารรถไฟ Tobu Kinugawa Line ลงสถานี Shin-Fujiwara ใช้เวลา 38 นาที
ขอบเขตเส้นทางที่ให้บริการ สถานี Shin-Fujiwara ⇄ สถานี Aizukogen-Oze-Guchi
เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://www.yagan.co.jp/
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://www.tobu.co.jp/en/sightseeing/nikko_kinugawa/tourism/40.html
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
-

 

รถไฟสายวะตะราเสะ เคโคคุ (Watarase Keikoku Railway), กุนมะ (Gunma)


 

 

รถไฟสายวะตะราเสะ เคโคคุ (Watarase Keikoku Railway) เป็นรถไปที่วิ่งขนานไปตามหุบเขาวะตะราเสะ (Watarase) จากสถานีคิริว (Kiryu St.) ในจังหวัดกุนมะ (Gunma) เชื่อมต่อไปยังสถานีมาโตะ (Mato St.) จังหวัดโทชิงิ (Tochigi) เป็นระยะทาง 44.1 กิโลเมตร ให้ผู้โดยสารได้สัมผัสธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ พร้อมกับชมวิวริมแม่น้ำอันตระการตา มีให้บริการ 3 ขบวนด้วยกันคือ ขบวนรถไฟปกติ และขบวนรถไฟเชิงท่องเที่ยว 2 ขบวน

 

จุดเด่นของเส้นทางรถไฟ

รถไฟสายวะตะราเสะ เคโคคุ (Watarase Keikoku Railway) เป็นรถไฟที่สามารถดื่มด่ำ สัมผัสบรรยากาศที่สวยงามของธรรมชาติตลอดทั้งสี่ฤดูกาลได้ โดยขบวนจะแล่นผ่านช่องเขา และแม่น้ำวาตาราเสะ (Watarase River) ลัดเลาะไปตามไหล่เขา ตัดสลับกับอุโมงค์ที่เจาะผ่านภูเขาเข้าไป

 

ไฮไลท์ของรถไฟสายนี้ คือ

ความพิเศษของรถไฟสายนี้ คือ ขบวนรถไฟท่องเที่ยวแบบคลาสสิคที่เรียกว่าโทร็อคโคะ (Torokko) มีให้บริการ 2 ประเภทด้วยกัน ก็คือ ขบวน Torokko Watarase Keikoku และขบวน Torokko Wasshi ทั้งสองขบวนจะเป็นตู้รถไฟที่เปิดโล่ง และไม่มีกระจกหน้าต่าง ช่วยให้สามารถชมวิวนอกหน้าต่างได้ราวกับอยู่ท่ามกลางหุบเขา พร้อมกับรับลมเย็น ๆ ไปพร้อมกัน โดยจะวิ่งในวันเสาร์อาทิตย์ และวันหยุดราชการ (วัน และเวลาให้บริการแตกต่างกันในแต่ละช่วง) ยิ่งไปกว่านั้นเฉพาะขบวน Watarase Keikoku เมื่อลอดอุโมงค์ระหว่างทาง เพดานของรถไฟจะสว่างไสวด้วยไฟ LED กว่า 12,000 ดวง สร้างบรรยากาศโรแมนติก
รายละเอียดเพิ่มเติม *ต้องจองที่นั่งล่วงหน้า
https://www.watetsu.com/train/torokei.php
https://www.watetsu.com/train/torowasshi.php

 

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดเพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสี

ในช่วงต้นถึงปลายเดือนตุลาคม ถึงปลายเดือนพฤศจิกายน จะเป็นช่วงที่ทัศนียภาพของป่าไม้บนเส้นทางพร้อมใจกันผลัดใบเป็นสีแดง สีส้ม สีเหลือง ไล่สีอย่างสวยงาม จนสามารถสะกดผู้โดยสารได้ตลอดเส้นทางแบบที่ไม่มีกระจกมากั้นให้กวนใจ

กิจกรรมพิเศษ
ใครที่เป็นชื่นชอบความท้าท้าย และอยากสัมผัสประสบการณ์หลอน ต้องไม่พลาดกับกิจกรรมพิเศษ Zombie Train ที่จะเปลี่ยนรถไฟคลาสสิคในฝันให้กลายเป็นรถไฟชวนขนหัวลุก เพราะตลอด 90 นาทีที่รถไฟแล่นจากสถานี Omama ไปยังสถานี Tsudu จะได้พบกับกลุ่มซอมบี้ที่ออกมาตามล่า และหลอกหลอนผู้โดยสาร ท่ามกลางการตกแต่งภายในรถไฟที่ดูน่ากลัวสมจริง
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://16106midori.jp/event/6352/

 

 

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำใกล้เคียง

หุบเขาทาคาสึโดะ (Takatsudo Gorge)
หนึ่งในสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีขึ้นชื่อบนเส้นทางรถไฟสายวะตะราเสะ เคโคคุ (Watarase Keikoku Railway) สามารถลงที่สถานี Omama ได้ จะเห็นสะพานสีแดง (Takatsudo bridge) ที่ทอดตัวอยู่บนแม่น้ำวาตาราเสะ (Watarase River) เมื่อเดินข้ามแล้วจะมีทางเดินริมแม่น้ำให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงามของหุบเขาที่ถูกตกแต่งด้วยใบไม้เปลี่ยนสีอย่างใกล้ชิดในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.visit-gunma.jp/th/spots/takatsudokyo-gorge/

 

อาหารแนะนำที่ไม่ควรพลาด

 

©️みどり市観光協会

 

 

ร้านคิริวเอ็น (Kiryuen) ร้านโซบะสไตล์บ้านโบราณตั้งอยู่ริมฝั่งเขื่อนคุซากิ (Kusaki Dam) มีจุดเด่นคือเส้นโซบะที่หอม และสัมผัสที่ลื่นคอ ทานคู่กับเทมปุระที่ทำจากผักป่าตามฤดูกาล เช่น ฟุกิโนะโตะ (Fukinoto) และอูโด (Udo) ที่หาได้ในช่วงตั้งแต่เดือนมีนาคม ถึงต้นเดือนมิถุนายน นอกจากนี้ เมนูเซ็ตไก่พื้นเมืองจากจังหวัดอิวาเตะ (Iwate) ที่ย่างมานุ่มเข้าถึงเนื้อข้างในก็เป็นที่นิยมเช่นกัน
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://16106midori.jp/spot/eat/129/

 

 

ชื่อรถไฟ Watarase Keikoku Railway
การเดินทาง จากสถานี Takasaki โดยสารรถไฟ JR Ryomo Line ลงสถานี Kiryu ใช้เวลา 45 นาทีที
ขอบเขตเส้นทางที่ให้บริการ สสถานี Kiryu ⇄ สถานี Mato
เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://www.watetsu.com/
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://www.visit-gunma.jp/en/spots/watarase-keikoku-railway/
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
https://www.visit-gunma.jp/th/spots/watarase-keikoku-railway/

 

รถไฟสายหุบเขาคุโรเบะ (Kurobe Gorge Railway), โทยามะ (Toyama)


 

 

รถไฟสายหุบเขาคุโรเบะ (Kurobe Gorge Railway) เป็นรถไฟที่วิ่งท่ามกลางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ของหุบเขาคุโรเบะ (Kurobe Gorge) มีระยะทางคดเคี้ยว และยาวประมาณ 20 กิโลเมตร จากสถานีอุนะซุคิ (Unazuki St.) ไปจนสุดสายที่สถานีเคะยากิไดระ (Keyakidaira St.)

เดิมทีเคยถูกใช้ในเพื่อขนส่งวัสดุก่อสร้างสำหรับการสร้างเขื่อนคุโรเบะ (Kurobe Dam) แต่หลังจากที่เขื่อนสร้างเสร็จ ได้ปรับเปลี่ยนวัตถุประสงค์มาเป็นสายรถไฟท่องเที่ยว

 

จุดเด่นของเส้นทางรถไฟ

ตลอดเส้นทางเดินรถที่หุบเขาคุโรเบะ (Kurobe Gorge) รถไฟจะวิ่งผ่านสะพานสูง ผ่านผาหิน หรือลอดอุโมงค์หลากหลายแห่ง ให้คุณได้ชมวิวของทั้งยอดเขา และผาด้านล่างอันงดงาม สมกับที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 3 หุบเขาที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น โดยจะผ่านสะพานยามาบิโกะ (Yamabiko) และสะพานชินยามาบิโกะ (Shinyamabiko) เป็นสะพานคู่ สีแดงสดใส ตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้า และน้ำในแม่น้ำ หากยืนอยู่ริมฝั่งจะสามารถถ่ายภาพสะพานคู่นี้ได้ หรือจะถ่ายขณะนั่งรถไฟผ่านสะพานก็ได้เช่นกัน

 

ไฮไลท์ของรถไฟสายนี้ คือ

ตู้รถไฟที่แตกต่างกันไปแต่ละตู้ ซึ่งจะมีทั้งแบบธรรมดาที่เป็นที่นั่งแบบเปิดโล่ง Open Air ให้ได้สัมผัสธรรมชาติแบบรอบทิศทาง มองวิวชัดเต็มตาไม่มีอะไรมาบดบัง แนะนำให้สวมเสื้อผ้าอุ่น ๆ ในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน เพราะลมพัดค่อนข้างเย็น และที่นั่งที่เป็นตู้มีหน้าต่างปิด และมีที่พิงหลัง โดยโบกี้นี้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากที่นั่งธรรมดา อีกโบกี้พิเศษที่ที่นั่งมีลักษณะเหมือนบาร์ มีโต๊ะริมกระจก นั่งหันหน้าชมวิว สามารถนั่งจิบชา กาแฟ เพลิน ๆ ได้สบาย

 

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดเพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสี

รถไฟขบวนนี้ให้บริการเฉพาะตั้งแต่กลางเดือนเมษายน ไปจนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน และจะเป็นที่นิยมมากที่สุดในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี (กลางเดือนตุลาคม-กลางเดือนพฤศจิกายน) เนื่องจากต้นไม้ตามริมทางรถไฟต่างเปลี่ยนเป็นสีส้ม สีเหลือง และสีแดงสลับกันอย่างสวยงามแบบ 360 องศา ให้คุณได้ชมวิวของทั้งยอดเขา และหุบเขารอบทิศ

กิจกรรมพิเศษ
สำหรับช่วงฤดูใบไม้ร่วง จะมีเปิดให้บริการทัวร์นั่งรถไฟสายหุบเขาคุโรเบะ (Kurobe Gorge Railway) ไปยังคุโระนะงิอนเซ็น (Kuronagi Onsen) นอกจากจะได้ชมความสวยงาทของใบไม้เปลี่ยนสีในระหว่างทางแล้ว ยังจะได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมมากมาย อาทิ ทำมะสุซูชิ (Masuzushi) ซูชิที่ทำด้วยปลาเทราต์มะสุ ของดีของจังหวัดโทยามะ (Toyama), ฟังบรรยายจากไกด์, ลงสถานีแล้วเดินไปยังคุโระนะงิอนเซ็น (Kuronagi Onsen) ทำไข่ต้มอนเซ็น หรือ จะลงแช่ผ่อนคลายร่างกายได้
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.kurotetu.co.jp/event-detail/?post=479

 

 

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำใกล้เคียง

จุดชมวิวคาวาระ (Kawara Observatory)
ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีเคะยากิไดระ (Keyakidaira St.) จะมีบริการบ่อน้ำพุร้อนแช่เท้าฟรีให้ได้นั่งผ่อนคลาย ชมแม่น้ำคุโรเบะ (Kurobe River) พร้อมใบไม้เปลี่ยนสีสวยสะพรั่ง ยิ่งเมื่อมองขึ้นไปด้านบนเหนือศีรษะก็จะเห็นสะพานโอคุคาเนะ (Okukane Bridge) สีแดงเจิดจ้าพาดผ่านหน้าผาทั้งสองฝั่ง จึงเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมอีกแห่งหนึ่ง
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://visit-toyama-japan.com/th/travel-inspiration/Kurobe-kyokoku

 

อาหารแนะนำที่ไม่ควรพลาด

 

ข้าวบาอิเมชิ (Baimeshi) เป็นเมนูท้องถิ่นที่มีจุดกำเนิดมาจากเมืองอุโอะสึ (Uozu) เมืองที่มีการทำประมงมาตั้งแต่สมัยโบราณ ชาวประมงจะจับหอยบาอิ หรือหอยหวานญี่ปุ่น นำมาหุงรวมกับข้าว ซึ่งจะนำไปหุงทั้งเปลือกเพราะ น้ำซุปที่ได้จากหอยบาอิจะเต็มไปด้วยรสอูมามิ ทำให้ข้าวที่ได้จะมีรสชาติอร่อยกลมกล่อมเป็นพิเศษ
หอยบาอิซึ่งมีชื่อพ้องกับคำว่า "บาย" ในภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่าโชคดี ทำให้อาหารจานนี้มีความหมายดีมาก หากได้ลิ้มลองกับข้าวที่ปลูกได้ในเมืองอุโอะสึ (Uozu) รับรองว่าจะอร่อยที่สุด
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://uozu-kanko.jp/library/bai-meshi/

 

 

ชื่อรถไฟ Kurobe Gorge Railway
การเดินทาง จากสถานี สถานี Shin-Kurobe โดยสารรถไฟ Toyama Rail Main Line ลงสถานี Unazuki Onsen ใช้เวลา 25 นาที
ขอบเขตเส้นทางที่ให้บริการ สถานี Unazuki ⇄ สถานี Keyakidaira
เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://www.kurotetu.co.jp/
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://www.kurotetu.co.jp/en/
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
-

 

รถไฟสายโรแมนติก ซะกะโนะ (Sagano Romantic Train), เกียวโต (Kyoto)


 

©️Sagano Scenic Railway Co.,Ltd.

 

รถไฟสายโรแมนติก ซะกะโนะ (Sagano Romantic Train) เป็นรถไฟท่องเที่ยวในจังหวัดเกียวโต (Kyoto) ให้บริการระหว่างสถานีซะกะ โทะรกโคะ (Saga Torokko Station) ถึง สถานีโทะรกโคะ คะเมะโอะคะ (Torokko Kameoka Station) ผ่าน 4 สถานี ระยะทาง 7 กิโลเมตรเลียบแม่น้ำโฮซุกาวะ (Hozugawa River)

 

จุดเด่นของเส้นทางรถไฟ

รถไฟสายโรแมนติก ซะกะโนะ (Sagano Romantic Train) ได้รับความนิยมอย่างมากจากทัศนียภาพอันสวยงามของสายน้ำและหุบเขาอันสงบสุข มีความโดดเด่นในทุกฤดูกาล ด้วยระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที ผ่านแม่น้ำ ต้นไม้ หุบเขา อุโมงค์ และสายลมของป่าเขา จึงกลายเป็นการท่องเที่ยวในเกียวโต (Kyoto) ที่ทุกคนแนะนำและบอกต่อกันมาจนเป็นหมุดหมายสำคัญของการท่องเที่ยวเลยทีเดียว

 

ไฮไลท์ของรถไฟสายนี้ คือ

ความพิเศษของตู้รถไฟของรถไฟสายโรแมนติก ซะกะโนะ (Sagano Romantic Train) แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ประกอบไปด้วย 5 ตู้ โดยตู้หมายเลข 1 - 4 จะเป็นตู้รถไฟปกติ เป็นเก้าอี้ไม้ฝั่งละ 1 คู่ แต่ตู้ที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือตู้หมายเลข 5 หรือ Rich Car เป็นตู้ที่ออกแบบให้เป็นแบบ Open Air รับแสง รับลม ชมวิวได้อย่างเต็มที่

 

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดเพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสี

ช่วงประมาณปลายเดือนพฤศจิกายนจนถึงต้นเดือนธันวาคม เป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี รถไฟสายโรแมนติก ซะกะโนะ (Sagano Romantic Train) จะวิ่งผ่านอุโมงค์ใบไม้เปลี่ยนสีไปตลอดเส้นทาง เป็นไฮไลท์ของการท่องเที่ยวด้วยรถไฟสายนี้

กิจกรรมพิเศษ
การจัดไฟในเส้นทางรถไฟสายโรแมนติก ซะกะโนะ (Sagano Romantic Train) ในยามค่ำคืน จัดระหว่างวันที่ 12 ตุลาคม ถึงวันที่ 29 ธันวาคม ที่จะแต่งเติมบรรยากาศความสวยงาม ยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.sagano-kanko.co.jp/プレスリリース

 

 

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำใกล้เคียง

โซเมะโคโบะ ยุเมะยุไซ (Somekobo Yumeyusai)
เป็นแกลเลอรี่จัดแสดงงานย้อมผ้าที่มีทั้งงานจัดแสดงและยังมีเวิร์คช้อปการย้อมผ้าให้ได้ทำเช่นกัน แต่อีกจุดเด่นหนึ่งคือการไปชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีสะท้อนผิวโต๊ะ ฉากหน้าต่างสวย ๆ และมีวิวแม่น้ำที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://yusai.kyoto

 

อาหารแนะนำที่ไม่ควรพลาด

©️KUMAHIKO

 

ร้านอะระชิยะมะ คุมะฮิโกะ (Arashiyama Kumahiko) ตั้งอยู่ใจกลางย่านอะระชิยะมะ (Arashiyama) เป็นร้านอาหารสไตล์เกียวโต (Kyoto Cuisine) เก่าแก่ดั้งเดิมเปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1969 ที่จะเสิร์ฟเมนูมาในรูปแบบไคเซกิ (Kaiseki) หรือเป็นอาหารแบบเซ็ทที่เป็นการนำวัตถุดิบธรรมชาติในท้องถิ่นที่ดีที่สุดตามฤดูกาล มารังสรรค์เมนูต่าง ๆ ในหนึ่งเซ็ท
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://kumahiko.com/en/

 

 

ชื่อรถไฟ Sagano Romantic Train
การเดินทาง จากสถานี Kyoto โดยสารรถไฟ San-in Line ลงสถานี Saga Arashiyama ใช้เวลา 17 นาที เดินต่ออีก 2 นาที
ขอบเขตเส้นทางที่ให้บริการ สถานี Saga Torokko ⇄ สถานี Torokko Kameoka
เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://www.sagano-kanko.co.jp
. https://ja.kyoto.travel/event/single.php?event_id=4079
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://www.sagano-kanko.co.jp/en/
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
-

 

ชิโกะคุ มันนะกะ เซ็นเน็น โมโนงาตาริ (Shikoku Mannaka Sennen Monogatari), คางาวะ (Kagawa)


 

 

รถไฟชิโกะคุ มันนะกะ เซ็นเน็น โมโนงาตาริ (Shikoku Mannaka Sennen Monogatari) เป็นรถไฟท่องเที่ยวสุดหรูที่วิ่งระหว่างสถานีทะโดะทสึ (Tadotsu Station) ในจังหวัดคางาวะ (Kagawa) กับสถานีโอโบเคะ (Oboke Station) ในจังหวัดโทคุชิมะ (Tokushima) ตัดผ่านใจกลางภูมิภาคชิโกะคุ (Shikoku)

 

จุดเด่นของเส้นทางรถไฟ

รถไฟชิโกะคุ มันนะกะ เซ็นเน็น โมโนงาตาริ (Shikoku Mannaka Sennen Monogatari) เป็นรถไฟท่องเที่ยวขบวนพิเศษผ่านวิวทิวทัศน์ 2 จังหวัดของเกาะชิโกะคุ (Shikoku) อิ่มท้องกับอาหารคอร์สสุดพิเศษ ทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยความงดงามหลากหลาย
รถไฟนี้แบ่งออกเป็น 2 สาย ประกอบไปด้วย รถไฟโซระโนะซาโตะ คิโค (Sora-no-sato Kiko) วิ่งจากสถานีทะโดะทสึ (Tadotsu Station) ถึงสถานี โอโบะเคะ (Oboke Station) นำโดยตู้รถไฟสีเขียว และรถไฟชิอาวะเซะโนะซาโตะ คิโค (Shiawase-no-satio Kiko) จากสถานีโอโบะเคะ (Oboke Station) ถึงสถานีทะโดทสึ (Tadotsu Station) เป็นรถไฟตู้สีแดง โดยทั้งสองชื่อนั้นคือรถไฟขบวนเดียวกัน รถไฟวิ่งเลาะไปกับแม่น้ำโยชิโนะ (Yoshino River) กับวิวหุบเขาและป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ โดยจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง

 

ไฮไลท์ของรถไฟสายนี้ คือ

รถไฟประกอบไปด้วย 3 ตู้ แบ่งออกเป็น 3 สี สื่อถึง 3 ฤดู ประกอบไปด้วย
- ตู้สีแดง “Shusai no Sho”ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพภูเขาหลากสีและผลไม้สุกงอม
- ตู้สีน้ำเงิน “Natsusugashi no Sho” และ “Fuyusugashi no Sho” ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพของแม่น้ำในฤดูร้อนและอากาศที่สดชื่นในฤดูหนาว
- ตู้สีเขียว “Haruakari no Sho” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพของหญ้าที่เพิ่งงอกใหม่
โดยการตกแต่งภายในเน้นวัสดุไม้ให้ผู้โดยสารได้สัมผัสกับบรรยากาศเหมือนกับกำลังนั่งอยู่ในบ้านแบบญี่ปุ่นโบราณ แลยังมีความแตกต่างไปตามสีภายนอกอีกด้วย เช่น ตู้สีแดง การตกแต่งภายในก็จะเน้นสีโทนแดง และส้ม เป็นต้น

 

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดเพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสี

สำหรับเส้นทางรถไฟชิโกะคุ มันนะกะ เซ็นเน็น โมโนงาตาริ (Shikoku Mannaka Sennen Monogatari) สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ดีที่สุดในระหว่างต้นเดือนพฤศจิกายน ถึงปลายเดือนพฤศจิกายน

กิจกรรมพิเศษ
ระหว่างเส้นทางการเดินทาง รถไฟจะจอดแวะบางสถานีในช่วงเวลาสั้น ๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้แวะเที่ยวตามจุดต่าง ๆ เช่น วัดเซนสึจิ (Zentsuji Temple) วัดลำดับที่ 75 จาก 88 วัดแสวงบุญที่มีชื่อเสียงของชิโกะคุ (Shikoku) หรือศาลเจ้าโคโตฮิระ (Kotohira Shrine) ที่มีจุดเด่นจากบันไดหิน 785 ขั้นเพื่อเดินทางขึ้นไปที่ศาลเจ้าหลัก และอีก 1,368 ขั้นเพื่อไปบริเวณศาลเจ้าด้านหลัง เป็นต้น

 

 

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำใกล้เคียง

สะพานเถาวัลย์ อิยะ โนะ คาซุระบาชิ (Iya-no-Kazurabashi Bridge)
สะพานแขวนที่ทำจาเถาวัลย์มีความยาวกว่า 45 เมตร สูงจากน้ำ 14 เมตร เป็นสะพานที่มีช่องว่างระหว่างขั้นเยอะ ทำให้เวลาเดินผ่านก็จะรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ แต่วิวรอบข้างก็สวยงามมากเช่นกัน
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://miyoshi-tourism.jp/en/spot/iyanokazurabashi/

 

อาหารแนะนำที่ไม่ควรพลาด

 

ระหว่างการเดินทางด้วยรถไฟชิโกะคุ มันนะกะ เซ็นเน็น โมโนงาตาริ (Shikoku Mannaka Sennen Monogatari) จะมีบริการเสิร์ฟอาหารในรถไฟ โดยจะแบ่งออกเป็น 2 แบบตามเส้นทางที่เดินทาง

แบบที่ 1  คือ โซระโนะซาโตะ คิโค (Sora-no-sato Kiko) จะเสิร์ฟอาหารสไตล์ตะวันตกจากวัตถุดิบชั้นดีที่จากซะนุกิ (Sanuki) จังหวัดคางาวะ (Kagawa)
แบบที่ 2 คือ ชิอาวะเซะโนะซาโตะ คิโค (Shiawase-no-satio Kiko) จะเสิร์ฟเมนูเบนโตะ 3 ชั้น ยุซันบาโกะ (Yusanbako) ที่นำไอเดียมาจากข้าวกล่องของเด็กในจังหวัดโทคุชิมะ (Tokushima) ที่พกติดตัวเมื่อได้ไปเที่ยวในป่าในสมัยก่อน
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.jr-eki.com/global/en/travel/sennen/index.html

 

 

ชื่อรถไฟ Shikoku Mannaka Sennen Monogatari
การเดินทาง จากสถานี Shin-Osaka โดยสารรถไฟ Sanyo Shinkansen ลงสถานี Okayama ใช้เวลา 48 นาที จากนั้นโดยสารรถไฟ Yosan Line Limited Express ลงสถานี Tadotsu ใช้เวลา 48 นาที
ขอบเขตเส้นทางที่ให้บริการ สถานี Tadotsu ⇄ สถานี Oboke
เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://www.jr-shikoku.co.jp/sennenmonogatari/
https://www.jr-eki.com/pickup_train/sennen.html
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://www.jr-eki.com/global/en/travel/sennen_top/index.html
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
hhttps://www.jnto.or.th/newsletter/shikoku-mannaka-sennen-monogatari/

 

เพจที่เกี่ยวข้อง

 

ข้อมูลที่เป็นประโยชน์

ค้นหา

Categories

Archives

Please Choose Your Language

Browse the JNTO site in one of multiple languages