ฤดูใบไม้ร่วง หรือใบไม้เปลี่ยนสี ในประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นช่วงฤดูของการท่องเที่ยว เพื่อสัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม เพราะทั่วทั้งประเทศที่อุดมไปด้วยพันธ์ไม้ต่าง ๆ เช่น ต้นเมเปิ้ล และต้นแปะก๊วย ต้นสนญี่ปุ่น จะพากันอวดสีสันตะการตาทั่วทุกพื้นที่
โดยต้นฤดูใบไม้ร่วงจะเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน ใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสี ไล่จากทางภาคเหนือลงสู่ภาคใต้ของญี่ปุ่น ซึ่งช่วงเวลาอาจคลาดเคลื่อนแตกต่างกันไปในแต่ละปี ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และอุณหภูมิของปีนั้น ๆ
สภาพอากาศ และการแต่งกาย
สภาพอากาศในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี อากาศเย็นสบาย มีอุณหภูมิโดยเฉลี่ย 15-25 องศาเซลเซียส แม้อากาศจะไม่หนาวเท่าฤดูหนาว แต่ควรเตรียมเสื้อสำหรับกันหนาวไปด้วย เช่น เสื้อแขนยาว เสื้อคลุมคาร์ดิแกน เสื้อแจ็กเก็ต หรือเสื้อสเว็ตเตอร์ ท่อนล่างควรใส่เป็นกางเกงขายาว กระโปรงยาว กางเกงเล็กกิ้ง หรือถุงน่องผ้าหนา พร้อมรองเท้าหุ้มส้น หรือรองเท้าบู๊ท
กิจกรรม และเทศกาลที่นิยม
กิจกรรมในใบไม้เปลี่ยนสีที่ชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติเองต่างนิยม ก็คือ การสวมชุดกิโมโน เดินเล่นชมใบไม้เปลี่ยนสีตามสถานที่ท่องเที่ยว หรือโบราณสถานต่าง ๆ ให้ความรู้สึกราวกับว่าย้อนเวลา และยังได้วิวสุดโรแมนติกของใบเมเปิ้ลเป็นฉากหลังสวยงาม หากมาตรงกับช่วงเวลาที่มีจัดเทศกาลชมใบไม้เปลี่ยนสี ก็จะได้ชมงานไฟประดับอันสวยงามได้ในตอนกลางคืน
ช่วงเวลานี้เทือกเขา ป่าไม้จะถูกฉาบไว้ด้วยสีสันทั้งสีแดง สีส้ม สีเหลืองอร่ามของใบไม้หลากพันธุ์ การนั่งกระเช้าชมวิวจากมุมสูง ล่องเรือแจวญี่ปุ่นไปตามแม่น้ำ ปั่นจักยานตามเส้นทาง หรือขึ้นรถไฟชมทิวทัศน์ที่โอบล้อมไปด้วยบรรยากาศความอบอุ่น ก็นับเป็นอีกกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด
นอกจากนี้ยังมีเทศกาลที่น่าตื่นตาตื่นใจ และสามารถสัมผัสได้ถึงเอกลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่นอีกมากมาย ซึ่งเทศกาลที่เป็นที่รู้จักเช่น เทศกาลรำพื้นเมืองโอวาระ คะเซะ โนะ บง (Owara Kaze no Bon) เมืองโทยามะ (Toyama), งานเทศกาลจิไดมัตสึริ (Jidai Matsuri) จังหวัดเกียวโต (Kyoto), งานเทศกาลคันชิของเมืองนางาซากิ (Nagasaki Kunchi Festival) เป็นต้น หรือใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศการเที่ยวญี่ปุ่นที่แตกต่างออกไป แนะนำให้ร่วมเทศกาลฮัลโลวีน เพราะหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นจะแต่งตัวมาประชันความคิดสร้างสรรค์ และสนุกไปด้วยกันตามท้องถนน
เมนูที่นิยมในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
เมนูขึ้นชื่อในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของประเทศญี่ปุ่น คือปลาซัมมะย่างเกลือ และปลาซัมมะย่างซีอิ๊ว ในช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน ปลาซัมมะจะอร่อยที่สุด เนื่องจากปลาจะสะสมไขมันเอาไว้ในตัวจำนวนมาก เพื่อสู้กับอากาศที่หนาวเย็น
นอกจากนี้ยังมีเมนูข้าวอบเห็ดมัตสึทาเกะ (Matsutake gohan) ข้าวอบแปะก๊วย ขนมมองบลังค์ที่ทำจากเกาลัด และวัตถุดิบอื่นๆ เช่น มันเทศ ฝักทอง ลูกพลับ สาลี่ และองุ่นไชน์มัสคัต เป็นต้น และในฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงเก็บเกี่ยวข้าวพอดี ข้าวในฤดูนี้จึงถูกเรียกว่า ชินไม (Shinmai) หรือแปลเป็นภาษาไทยคือข้าวใหม่ มีลักษณะเป็นสีขาวใส เมื่อนำมาหุงจะได้ข้าวที่เหนียวนุ่ม และหอม
ครั้งนี้จะมาแนะนำ 5 สายรถไฟทั่วประเทศญี่ปุ่น
โดยเส้นทางที่รถไฟชมใบไม้เปลี่ยนสีสุดโรแมนติก
รถไฟสายซันริคุ ริอะซุ (Sanriku Tetsudo Rias Line)
รถไฟสายซันริคุ ริอะซุ (Sanriku Tetsudo Rias Line) จังหวัดอิวาเตะ (Iwate) และจังหวัดมิยากิ (Miyagi) เป็นรถไฟที่วิ่งตามแนวชายฝั่งซันริคุ (Sanriku Coast) ทะเลแปซิฟิกของจังหวัดอิวาเตะ (Iwate) ระยะทางรวม 163 กิโลเมตร ระหว่างสถานีคุจิ (Kuji st.) ถึงสถานีซะคะริ (Sakari st.) รวม 41 สถานี มีรถไฟให้บริการหลัก ๆ 2 ประเภท
จุดเด่นของเส้นทางรถไฟ
เส้นทางสายซันริคุ ริอะซุ (Sanriku Tetsudo Rias Line) เป็นเส้นทางรถไฟที่สามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศของธรรมชาติโดยเฉพาะวิวของชายฝั่งทะเลแปซิฟิกที่สวยงามที่มีระยะทางรวมมากถึง 163 กิโลเมตร รวมถึงจุดถ่ายภาพที่เป็นภาพจำของเส้นทางนี้อย่างบริเวณ “สะพานโอซะวะ (Osawa Bridge)” เป็นจุดถ่ายภาพรถไฟที่มีฉากหลังเป็นชายฝั่งทะเล
หากเดินทางมาในช่วงฤดูใบไม้ร่วงในเดือนปลายเดือนตุลาคม ก็จะสามารถถ่ายภาพรถไฟกับใบไม้เปลี่ยนสี และชายฝั่งได้ รวมถึงบรรยากาศของการชมใบไม้เปลี่ยนสีในเส้นทางด้วยเช่นกัน
รถไฟขบวนอื่นๆ
บนเส้นทางรถไฟสายนี้ นอกจากจะมีรถไฟแบบปกติแล้ว ยังมีรถไฟตกแต่งพิเศษให้ได้ใช้สัมผัสกับประสบการณ์ที่แตกต่างเช่น รถไฟโคทัตสึ (Kotatsu Train) เป็นรถไฟสไตล์เรโทรสีน้ำตาลที่ตกแต่งภายในแบบย้อนยุค ปูที่นั่งด้วยเสื่อทาทามิ และมีผ้านวมห่มขาบริเวณโต๊ะแบบเดียวกับโต๊ะโคทัตสึ และมีหน้าต่างขนาดใหญ่ทำให้สามารถชมวิวระหว่างทางได้อย่างเต็มที่มากขึ้น
ใกล้เคียงกับเส้นทางสายซันริคุ ริอะซุ (Sanriku Tetsudo Rias Line) ยังมีรถไฟพิเศษ และน่าสนใจเชื่อมต่อกับทางรถไฟสายนี้ อย่างเช่น TOHOKU EMOTION รถไฟห้องอาหารสุดหรู, รถไฟ SL Ginga รถไฟแบบหัวจักรไอน้ำ และรถไฟโปเกม่อน (POKÉMON with YOU Train) รถไฟที่ตกแต่งด้วยธีมโปเกม่อนสุดน่ารัก
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำใกล้เคียง
ลำธารคุจิ (Kuji Stream) เป็นลำธารที่สวยงามตามแนวหุบเขาที่ไหลจากที่ราบสูงฮิระอิวะ (Hiraiwa height) สู่มหาสมุทรแปซิฟิก สามารถขับรถชมความสวยงามของลำธาร ผาหิน และใบไม้เปลี่ยนสีได้ตลอดเส้นทาง มีน้ำตกในระหว่างเส้นทาง หรือจะแวะตามจุดพักรถเพื่อถ่ายภาพก็สามารถทำได้
เว็บไซต์ https://visitiwate.com/article/4718 (ภาษาอังกฤษ)
อาหารแนะนำ
บินด้ง (Bin-Don) เป็นเมนูขึ้นชื่อของเมืองมิยาโกะ (Miyako) จังหวัดอิวาเตะ (Iwate) ที่รวมเอาอาหารทะเลสดเช่น ไข่หอยเม่น ไข่ปลาแซลมอน มากุโระ หอยเชลล์ หอยเป๋าฮื้อ ปลาหมึก สาหร่ายทะเล และวัตถุดิบอื่น ๆ มาบรรจุในขวดนม เพื่อเพิ่มอรรถรส และความสนุกในการทาน เพียงแค่เทขวดลงบนข้าวสวยร้อน ๆ ก็พร้อมรับประทานได้ทันที
เว็บไซต์ https://www.tohokukanko.jp/en/attractions/detail_1002051.html (ภาษาอังกฤษ)
ชื่อรถไฟ | Sanriku Tetsudo Rias Line |
การเดินทาง | จากสถานี Morioka โดยสารรถบัส Kenpoku Bus สาย Kuji Kohaku ที่ทางออกฝั่งตะวันตก ลงป้าย Kuji Eki Mae ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 3 นาที |
ขอบเขตเส้นทางที่ให้บริการ | สถานี Kuji ⇄ สถานี Sakari |
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) |
https://www.sanrikutetsudou.com/ |
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) |
https://www.sanrikutetsudou.com/en/ |
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) |
https://www.jnto.or.th/newsletter/sanriku-coast/ https://www.tohokukanko.jp/zh_th/attractions/detail_1001857.html |
รถไฟสายอาคิตะ ไนริคุ (Akita Nairiku Line)
รถไฟสายอาคิตะ ไนริคุ (Akita Nairiku Line) จังหวัดอาคิตะ (Akita) เป็นขบวนรถไฟท้องถิ่นของการรถไฟอาคิตะ ไนริคุ จูคัง เท็ตสึโดะ (Akita Nairiku Jukan Tetsudo) วิ่งให้บริการบริเวณทางตอนเหนือของจังหวัดอาคิตะ (Akita) จากสถานีทะคะโนะสุ (Takanosu st.) ไปยังสถานีคะคุโนะดาเตะ (Kakunodate st.) ในเมืองเซ็มโบะคุ (Semboku) รวมระยะทาง 94.2 กิโลเมตร จำนวน 29 สถานี
รถไฟขบวนนี้มีคอนเซปต์ที่เป็นเอกลักษณ์คือ เป็น “รถไฟแห่งรอยยิ้ม (Smile Rail)” ที่พร้อมจะต้อนรับ และพาผู้โดยสารทุกคนเดินทางไปสัมผัสกับเสน่ห์ของจังหวัดอาคิตะ (Akita) ผ่านทิวทัศน์ธรรมชาติ และวิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่นด้วยรอยยิ้ม
จุดเด่นของเส้นทางรถไฟ
ลักษณะของรถไฟสายอาคิตะ ไนริคุ (Akita Nairiku Line) จะเป็นขบวนสั้น ๆ เพียง 1 ตู้โดยสาร ไม่มีแอร์ แต่สามารถเปิดหน้าต่างรับลมเย็น ๆ ที่นั่งแบ่งเป็นสองฝั่งหันหน้าเข้าหากัน โดยขบวนรถไฟจะเคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งหุบเขา แม่น้ำ นาข้าว และบ้านเรือน เพื่อให้เราได้มองเห็นวิวทิวทัศน์ของธรรมชาติ และสัมผัสความอบอุ่นของชาวบ้านได้อย่างชัดเจน
ถือเป็นอีกหนึ่งเส้นทางสายทัศนียภาพที่สวยไม่แพ้ที่อื่น โดยเฉพาะช่วงกรกฎาคม ถึงต้นเดือนกันยายนจะได้เห็น “ทัมโบะ อาร์ท (TAMPO ART)” หรือศิลปะบนนาข้าว ที่เป็นทุ่งข้าวสวย ๆ สลับสีให้เป็นลวดลายต่าง ๆ ซึ่งในแต่ละปีจะมีลวดลายไม่เหมือนกัน
ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงกลางเดือนตุลาคม ถึงต้นเดือนพฤศจิกายน หุบเขา และต้นไม้ริมเส้นทางที่เคยเขียวชอุ่มจะผลัดใบเปลี่ยนเป็นสีหลือง สลับแดง ปะปนกันจนสวยงามตระการตา และจะมีช่วงที่รถไฟแล่นข้ามผ่าน “สะพานเหล็กสีแดง โอมะตะคาวะ (Oomatagawa Bridge)” บริเวณระหว่างสถานีโอคะชิไน (Okashinai st.) และสถานีคะยะคุสะ (Kayakusa st.) บรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสี จะมาเติมเต็มความสวยงามให้กับรถไฟที่กำลังแล่นอยู่บนสะพาน และมีฉากหลังที่เป็นภูเขาดูมีชีวิตชีวา ถือเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมสำหรับช่างภาพที่มาสัมผัสเส้นทางรถไฟสายนี้
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำใกล้เคียง
หุบเขาดะคิกะเอะริ (Dakigaeri Gorge) เป็นหุบเขาที่ซ่อนตัวอยู่ไม่ไกลจากถานีคะคุโนะดาเตะ (Kakunodate St.) เมืองเซ็มโบะคุ (Semboku) ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากโดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงในต้นเดือนตุลาคม ถึง ต้นกันพฤศจิกายน มวลแมกไม้ต่างพร้อมใจกันเปลี่ยนสีจากเขียวเป็นแดงและเหลือง ตัดกับสีฟ้าสดของแม่น้ำทามะ (Tama River) ที่ไหลผ่านบริเวณช่องเขา
มีไฮไลต์คือสะพานคามิโนะอิวะฮาชิ (Kami no Iwahashi) สีแดงสด ทอดยาวเชื่อมหุบเขาทั้งสองฝั่งท่ามกลางสีสันใบไม้เปลี่ยนสี เป็นภาพที่สร้างความประทับใจให้ผู้มาเยือนได้ตั้งแต่แรกเห็น บริเวณหุบเขายังมีทางเดินยาว 1.5 กิโลเมตรที่ให้เราได้ลัดเลาะไปตามป่าเขา ผ่านศาลเจ้าดะคิกะเอะริ (Dakigaeri Shrine) และน้ำตกมิคาเอะริ (Mikaeri no Taki)
เว็บไซต์ https://www.tohokukanko.jp/en/attractions/detail_1717.html (ภาษาอังกฤษ)
อาหารแนะนำ
โฮะโฮะเอะมิ โคะมะจิ เบนโตะ(Hohoemi Komachi Bento) เป็นข้าวกล่องรถไฟที่จำหน่ายเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ประกอบด้วยข้าวห่อสาหร่ายรูปดอกไม้สวยงาม เสิร์ฟมาพร้อมกับเครื่องเคียง 9 ชนิดที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นตามฤดูกาล นอกจากรสชาติท้องถิ่นที่อร่อยแล้ว ยังมีประโยชน์ ดีต่อสุขภาพไม่แพ้กันอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีเมนูเบนโตะชิอาวาเสะ เท็ตสึโดะ โกะเซ็น (Shiawase Tetsudou Gozen) ให้เลือกเช่นกัน โดยเน้นเป็นอาหารประเภทวะโชกุ (Washoku) ทานง่าย เช่นหมูตุ๋นคาคูนิ ไก่ทอดคาราอาเกะ เท็มปุระเห็ดหอมเป็นต้น
ชื่อรถไฟ | Akita Nairiku Line |
การเดินทาง | จากสถานี Akitaโดยสารรถไฟ JR Ouu ลงสถานี Higashinoshiro ใช้เวลา 57 นาที จากนั้นโดยสารรถไฟ Ou Main Line ลงสถานี Takanosu ใช้เวลา 1 ชั่วโมง |
ขอบเขตเส้นทางที่ให้บริการ | สถานี Takanosu ⇄ สถานี Kakunodate |
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) |
https://www.akita-nairiku.com/ |
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) |
https://www.akita-nairiku.com/en/ |
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) |
https://www.akita-nairiku.com/thai/ https://www.jnto.or.th/tag/รถไฟสายอะคิตะไนริคุ-akita-nairiku-line/ https://www.japan.travel/experiences-in-japan/th/222/ |
รถไฟสายฮาโกเนะโทซัง (Hakone Tozan Line)
รถไฟสายฮาโกเนะโทซัง (Hakone Tozan Line) จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa) เส้นทางรถไฟสู่ฮาโกเนะ (Hakone) จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa) แบ่งออกเป็นสองส่วน ประกอบไปด้วยเส้นทางระหว่างสถานีโอะดะวะระ (Odawara sta.) กับสถานีฮาโกเนะ-ยุโมโตะ (Hakone-Yumoto sta.) และระหว่างสถานีฮาโกเนะ-ยุโมโตะ (Hakone-Yumoto sta.) กับสถานีโกระ (Gora sta.) ก่อนจะเดินทางต่อด้วยกระเช้าไฟฟ้าขึ้นสู่หุบเขาโอวะคุดะนิ (Owakudani) และทะเลสาบอะชิ (Lake Ashi)
จุดเด่นของเส้นทางรถไฟ
เส้นทางสายฮาโกเนะโทซัง (Hakone Tozan Line) เป็นเส้นทางรถไฟที่ตัดผ่านธรรชาติที่สวยงามขึ้นสู่ความสูงที่มากขึ้นไปเรื่อย ๆ ทำให้บรรยากาศของการเดินทางดูน่าตื่นเต้นมากขึ้น เนื่องจากสถานีปลายทางอย่างสถานีโกระ (Gora st.) นั้นจะมีความสูงจากระดับน้ำทะเลมากถึง 541 เมตร หากใครมาเที่ยวในช่วงเดือนต้นเดือนกรกฏาคมก็จะสามารถชมดอกไฮเดรนเยียได้ตามเส้นทางรถไฟได้อีกด้วย แต่ถ้าใครที่เดินทางมาในช่วงต้นหรือกลางเดือนพฤศจิกายนจะพบกับใบไม้เปลี่ยนสีตลอดสองข้างทางระหว่างที่โดยสารรถไฟ
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำใกล้เคียง
หุบเขาโอวะคุดะนิ (Owakudani) มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่าหุบเขานรก เป็นหุบเขาที่ตั้งอยู่ในฮาโกเนะ (Hakone) ที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อหลายพันปีก่อน โดยปัจจุบันนี้ก็ยังคงเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับลงไป มีควันและกลิ่นกำมะถันฟุ้งไปทั่วบริเวณ และยังมีบ่อน้ำพุร้อนอยู่โดยรอบ มีไข่ต้มอนเซ็นเปลือกสีดำเป็นของกินที่ไม่ควรพลาด หุบเขาโอวะคุดะนิ (Owakudani)
เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่คนที่เดินทางมาเที่ยวที่ฮาโกเนะ (Hakone) สามารถเดินทางได้โดยการขึ้นกระเช้าไฟฟ้า หากวันไหนอากาศปลอดโปร่งจะสามารถเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจน และถ้ามาเที่ยวในช่วงต้นเดือนถึงกลางเดือนพฤศจิกายนก็จะได้พบกับวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามได้อีกด้วย
เว็บไซต์ https://www.hakonenavi.jp/international/en/spot/506 (ภาษาอังกฤษ)
อาหารแนะนำ
หากมาเที่ยวฮาโกเนะ (Hakone) แล้วต้องไม่พลาดทานมันหวานจากร้าน Hakone Oimo Daigakumae โดยทางร้านมีเมนูมันหวานที่ปลูกในท้องถิ่นให้เลือกหลากหลาย เช่น “Tokusei Maple Daigaku-imo Whipped Cream” ความพิเศษคือความหวานธรรมชาติของมันหวานทอดที่ถูกหั่นชิ้นพอดีคำ คลุกเคล้ากับเมเปิ้ลไซรัปสูตรพิเศษของทางร้าน และท้อปปิ้งด้วยวิปครีม และยังมีเมนูมันหวานอบกรอบอื่น ๆ สามารถหาทานได้ที่สถานี Hakone-Yumoto
เว็บไซต์ https://www.hakone-oimo.com/ (ภาษาอังกฤษ)
ชื่อรถไฟ | Hakone Tozan Line |
การเดินทาง | จากสถานี Shinjukuโดยสารรถไฟ Odakyu ลงสถานี Odawara ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 20 นาที |
ขอบเขตเส้นทางที่ให้บริการ | สถานี Odawara ⇄ สถานี Sounzan |
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) |
https://www.hakonenavi.jp/hakone-tozan/ |
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) |
https://www.hakonenavi.jp/international/en/ |
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) |
https://www.japan.travel/th/spot/346/ |
รถไฟนาการะกาวะ เท็ตสึโดะ (Nagaragawa Tetsudo railway)
รถไฟนาการะ (Nagara Train) กิฟุ (Gifu) รถไฟท่องเที่ยวที่ให้บริการเส้นทางใจกลางจังหวัดกิฟุ (Gifu) ให้บริการระหว่างสถานีโฮคุโนะ (Hokuno st.) กับสถานีมิโนะ โอตะ (Mino Ota st.) วิ่งไปตามเส้นทางแม่น้ำนาการะ (Nagara River) ที่สวยงามจากธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ พร้อมการตกแต่งที่หรูหราสไตล์ญี่ปุ่นโดยนักออกแบบชื่อดัง คุณเออิจิ มิโตะโอกะ (Eiji Mitooka) นักออกแบบที่ฝากผลงานการออกแบบรถไฟไว้มากมายทั่วประเทศ สามารถนั่งรถไฟชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ในช่วงกลางถึงปลายเดือนพฤศจิกายน
จุดเด่นของเส้นทางรถไฟ
รถไฟนาการะ (Nagara Train) สามารถสัมผัสบรรยากาศที่สวยงามของธรรมชาติจากภายนอกหน้าต่างได้ตลอดทั้ง 4 ฤดู โดยขบวนจะแล่นผ่าน “แม่น้ำนาการะ (Nagara River)” ซึ่งแสงจากดวงอาทิตย์ตกกระทบผิวน้ำจนสะท้อนเป็นประกายระยิบระยับ ช่วยให้พรรณไม้โดยรอบสวยงาม โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ร่วง ไม่ควรพลาดการนั่งรถไฟชมใบไม้เปลี่ยนสี ตั้งแต่กลาง-ปลายเดือนพฤศจิกายน
นอกจากนี้ ยังสามารถสัมผัสความสวยงามภายในของการออกแบบ และตกแต่งในขบวน รวมถึงการได้สัมผัสกับอาหาร และของหวานจากเชฟท้องถิ่นที่ได้คัดวัตถุดิบของจังหวัดกิฟุ (Gifu) มาสร้างสรรเมนูชั้นเลิศ คอยเติมเต็มประสบการณ์ในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงให้เต็มอิ่มมากขึ้น *สามารถจองแพลนที่มีอาหาร หรือของหวาน หรือจะแค่ขึ้นรถไฟท่องเที่ยวอย่างเดียวก็สามารถทำได้เช่นกัน
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำใกล้เคียง
หุบเขาใบไม้เปลี่ยนสี ศาลเจ้าโอยะดะ (Oyada Shrine Maple Valley) ต้นเมเปิ้ลสีสันสดใสในฤดูใบไม้ร่วงรอบบริเวณศาลเจ้าโอยะดะ (Oyada Shrine) เป็นหนึ่งใน 33 สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่แนะนำในจังหวัดกิฟุ (Gifu) และยังได้รับการยกย่องให้เป็นอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติแห่งชาติอีกด้วย ใบไม้สีแดงสดคู่กับงานสถาปัตยกรรมของอาคารศาลเจ้าโดดเด่น และเข้ากันได้ดี จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมนักท่องเที่ยวต่างอยากจะมาเยือนศาลเจ้าโอยะดะ (Oyada Shrine)ในฤดูใบไม้ร่วง
เว็บไซต์ https://visitgifu.com/see-do/oyada-maple-valley/ (ภาษาอังกฤษ)
อาหารแนะนำ
ขบวนรถไฟนาการะกาวะ เท็ตสึโดะ (Nagaragawa Tetsudo railway) มีคอร์สเมนูอาหารให้เลือกหลากหลาย ทั้งคอร์สอาหารกลางวัน คอร์สเบนโตะ คอร์สของหวาน รวมไปถึงคอร์สเครื่องดื่มสาเกพร้อมของทานเล่น โดยเมนูคอร์สอาหารกลางวันจะมาในรูปแบบเบนโตะ 2 ชั้น ประกอบไปด้วยวัตถุดิบชั้นดีเช่น กุ้ง ปลาอายุ ปลาเทราต์จากแม่น้ำในกิฟุ (Gifu) พร้อมเครื่องเคียงหลากหลายที่ถูกรังสรรค์โดยเชฟจากร้าน Suzumenoiori ชื่อดังของเมืองกุโจ (Gujo)
*เมนู และวัตถุดิบจะเปลี่ยนตามฤดูกาล
เว็บไซต์ http://www.nagatetsu.co.jp/nagara/plan/ (ภาษาญี่ปุ่น)
ชื่อรถไฟ | Nagaragawa Tetsudo railway |
การเดินทาง | จากสถานี Gifuโดยสารรถไฟ JR Takayama Main Line ลงสถานี Mino-Ota ใช้เวลา 40 นาที |
ขอบเขตเส้นทางที่ให้บริการ | สถานี Mino-Ota ⇄ สถานี Hokuno |
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) |
http://www.nagatetsu.co.jp/nagara/ |
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) |
http://www.nagatetsu.co.jp/en/ |
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) |
- |
รถไฟพาโนราม่า คิราระ (Panorama Train KIRARA)
รถไฟท่องเที่ยวขบวนพาโนราม่า คิราระ (Panorama Train KIRARA) จังหวัดเกียวโต (Kyoto) สายคุระมะ (Kurama Line) สีแดง เป็นขบวนรถไฟของการรถไฟเออิซัง (Eizan Railway) ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในช่วงฤดูใบไม้ร่วง วิ่งให้บริการบริเวณตอนเหนือของจังหวัดเกียวโต (Kyoto) บนพื้นที่เส้นทางภูเขา KIRARA-ZAKA จากสถานีเดะมะจิยานางิ (Demachiyanagi st.) ใจกลางเมืองเกียวโตไปยังสถานีคิบุเนะกุจิ (Kibuneguchi st.) และสถานีคุระมะ (Kurama st.) เป็นระยะทางกว่า 8.8 กิโลเมตร
จุดเด่นของเส้นทางรถไฟ
ตัวขบวนรถไฟพาโนราม่า คิราระ (Panorama Train KIRARA) จะมีสีแดง และสีส้มสดใส เพื่อสื่อถึงเอกลักษณ์ของฤดูใบไม้ร่วง โดดเด่นด้วยหน้าต่างกระจกใสบานใหญ่ และมีที่นั่งพิเศษ ที่จะหันหน้าออกนอกกระจก เพื่อช่วยเพิ่มอรรถรสในการชมวิวข้างทางได้อย่างเต็มที่
ในช่วงต้นถึงปลายเดือนพฤศจิกายนจะเป็นช่วงที่ทัศนียภาพของป่าไม้บนเส้นทางพร้อมใจกันผลัดใบเป็นสีแดง สีส้ม สีเหลือง ไล่สีอย่างสวยงาม จนสามารถสะกดผู้โดยสารได้ตลอดเส้นทาง และจะวิ่งผ่าน “อุโมงค์ต้นเมเปิ้ล (Maple Tree Tunnel)” ที่ 2 ข้างทางเต็มไปด้วยต้นเมเปิ้ลนับ 280 ต้น ขึ้นเรียงรายเป็นระยะทางเกือบ 250 เมตร อยู่ระหว่างสถานีอิจิฮาระ (Ichihara st.) และสถานีนิโนะเสะ (Ninose st.)
อีกหนึ่งความพิเศษของรถไฟขบวนนี้คือ เมื่อเข้าสู่ช่วงเทศกาลโคมเมเปิลคิบุเนะ (Kibune maple lantern) ต้นเมเปิ้ลจะเฉิดฉายพร้อมแสงไฟประดับ รถไฟขบวนนี้จะดับไฟ และค่อยๆ วิ่งด้วยความเร็วต่ำ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ดื่มด่ำกับวิวอันแสนวิเศษตลอดสองข้างทาง
รถไฟขบวนอื่นๆ
นอกจากนี้ยังมีรถไฟท่องเที่ยวขบวนฮิเออิ (Sightseeing Train HIEI) สายฮิเออิ (Eizan Line) สีเขียว เริ่มต้นวิ่งที่สถานีเดะมะจิยานางิ (Demachiyanagi st.) แล้ววิ่งแยกไปทางทิศตะวันออกที่สถานีทะคะระไกเคะ (Takaragaike st.) ไปสุดที่สถานียะเสะ ฮิเออิซังกุจิ (Yase-Hieizanguchi st.)
ตัวขบวนถูกออกแบบมาอย่างหรูหรา ด้วยสีเขียวเข้มสะดุดตา ตัดกับกระจกหน้าต่างรูปทรงวงรีสีทอง รูปทรงไข่ เพื่อสื่อถึงบรรยากาศอันแสนลึกลับ คล้องจองกับเส้นทางการวิ่งที่มุ่งหน้าสู่ภูเขาฮิเออิ (Mt.Hiei) ซึ่งเป็นพื้นที่อันศักดิ์สิทธิ์ โดยรถไฟจะพาผู้โดยสารเพลิดเพลินใจไปกับวิวทิวทัศน์สุดโรแมนติกตลอดสองข้างทา สามารถลงที่สถานีปลายทาง เพื่อนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปยังจุดชมวิว และสักการะวัดเอนเรียคุจิ (Enryaku-ji) บนยอดภูเขาฮิเออิ (Mt.Hiei) ได้
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
ศาลเจ้าคิฟุเนะ (Kifune Shrine) ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีคิบุเนะกุจิ (Kibuneguchi st.) บนเขาคุระมะ (Mt. Kurama) เป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่มีอายุกว่า 1,300 ปี มีจุดเด่นคือโคมไฟสีแดงที่บันไดหินตรงทางเข้า และการเสี่ยงเซียมซีที่จะต้องนำกระดาษไปลอยน้ำเพื่ออ่านคำทำนาย
ทัศนียภาพรอบศาลเจ้าจะผลัดเปลี่ยนความงดงามตามฤดูกาล เมื่อเข้าสู่ช่วงต้น - ปลายเดือนพฤศจิกายนที่เป็นฤดูใบไม้ร่วง โคมไฟสีแดงจะช่วยขับสีสันของใบไม้เปลี่ยนสีให้สวยงามขึ้นไปอีก และในตอนกลางคืนจะมีการประดับไฟไลท์อัพ ดูสวยงามอย่างน่าพิศวง
เว็บไซต์ https://www.japan.travel/th/spot/1117/ (ภาษาไทย)
อาหารแนะนำ
คินชิด้ง (Kinshi Don) เมนูข้าวหน้าปลาไหลท้อปปิ้งด้วยไข่ม้วนชิ้นหนา เป็นเมนูอาหารท้องถิ่นยอดนิยมของจังหวัดเกียวโต (Kyoto) และจังหวัดชิกะ (Shiga) ความใส่ใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การแล่ ไปตลอดจนการย่าง ทำให้ปลาไหลที่ได้มีรสสัมผัสกรอบนอก นุ่มใน ราดด้วยซอสสูตรพิเศษ และเอกลักษณ์ที่ขาดไม่ได้ของเมนูนี้คือ ไข่ม้วนเนื้อหนานุ่มฟูที่โป๊ะมาด้านบนปลาไหล สามารถหาทานได้ที่ร้าน Kaneyo ร้านเก่าแก่ที่เสิร์ฟคินชิด้ง (Kinshi Don) โดยเฉพาะ เปิดมาตั้งแต่สมัยยุคเมจิที่ 5
เว็บไซต์ http://www.kaneyo.in/index.html (ภาษาญี่ปุ่น)
ชื่อรถไฟ | Eizan Railway |
การเดินทาง | จากสถานี Kyoto โดยสารรถไฟ JR Nara ลงสถานี Tofukuji ใช้เวลา 2 นาที จากนั้นโดยสารรถไฟ Keihan Main Line ลงสถานี Sanjo ใช้เวลา 8 นาที จากนั้นโดยสารรถไฟ Keihan Main Line ลงสถานี Demachiyanagi ใช้เวลา 3 นาที |
ขอบเขตเส้นทางที่ให้บริการ | สถานี Demachiyanagi ⇄ สถานี Kibuneguchi st. และสถานี Kurama st. |
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) |
https://eizandensha.co.jp/ https://eizandensha.co.jp/about/kirara/ https://eizandensha.co.jp/spot/ |
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) |
https://eizandensha.co.jp/en/ |
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) |
https://www.jnto.or.th/newsletter/mysterious-places-in-japan/ https://www.japan.travel/th/spot/236/ https://www.japan.travel/th/spot/2192/ |
เพจที่เกี่ยวข้อง
- ระบบทางรถไฟในท้องถิ่นของญี่ปุ่น
- รถไฟออเร้นจ์ โชคุโดะ (Orange Shokudo Train) ห้องอาหารเคลื่อนที่แห่งคิวชู (Kyushu)
- นั่งรถไฟฟรุทเทียฟุคุชิมะ (FruiTea Fukushima) เที่ยวเมืองไอซุวะกะมัทสึ (Aizu-Wakamatsu)
- เที่ยวเมืองไอซุด้วยสายรถไฟท้องถิ่นสุดโรแมนติกทะดะมิ (JR Tadami Line)
- “โระคุมง (Rokumon)” รถไฟสำราญแห่งการรถไฟชินะโนะ (Shinano Railway)
- รถไฟด่วนพิเศษเพื่อการท่องเที่ยว “ชิมะคาเสะ (Shimakaze)”, จังหวัดมิเอะ (Mie)
- ขบวนรถไฟสายพิเศษ ผ่านใจกลางขุนเขาภูมิภาคชิโกะคุ (Shikoku)