HOME Back

Use the

Planning a Trip to Japan?

Share your travel photos with us by hashtagging your images with #visitjapanjp

แนะนำ 5 จุดชมซากุระทั่วจังหวัดโคจิ (Kochi)

ฤดูใบไม้ผลิที่ญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งฤดูที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางเพื่อชื่นชม และถ่ายรูปกับต้นซากุระที่มักจะผลิบานสวยงาม โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม ถึง เดือนพฤษภาคม ออกดอกไล่จากทางตอนใต้สู่ภาคเหนือของญี่ปุ่น ในแต่ละพื้นที่จะมีช่วงเวลาที่ใบไม้เริ่มผลิบานแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อุณหภูมิ สภาพอากาศ ลม หรือฝน ที่อาจทำให้เปลี่ยนแปลงได้ตลอด

 

พยากรณ์ซากุระญี่ปุ่น2024

 

การพยากรณ์การเริ่มต้นบานของดอกซากุระ ประจำปี 2024 ณ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ จากทั้ง 3 ค่ายหลัก
Weathernews
https://weathernews.jp/s/topics/202402/150045/
JWA (tenki.jp)
https://tenki.jp/sakura/
Weathermap
https://sakura.weathermap.jp/

 

ฤดูใบไม้ผลิที่ญี่ปุ่น

การแต่งกาย และสภาพอากาศ

การแต่งกายฤดูใบไม้ผลิ

 

เมื่อหิมะภูเขาเริ่มละลาย ก็เป็นสัญญาณว่าต้นไม้เริ่มผลิใบ เมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศจะถูกแต่งแต้มไปด้วยสีสัน โดยในฤดูใบไม้ผลิจะมีอุณภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 12 องศาเซลเซียส เย็นสบาย ไม่ร้อนในช่วงกลางวัน และอากาศหนาวในช่วงกลางคืน สามารถเดินทางในชุดเบา ๆ กับเสื้อกันหนาวได้ เช่น เสื้อแขนยาว กระโปรงยาว เสื้อคาร์ดิแกน เสื้อแจ็กเก็ต

 

อาหารที่น่าลิ้มลองในฤดูใบไม้ผลิ

อาหารฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น

 

แน่นอนว่าอาหาร และขนมต่าง ๆ ในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ล้วนแต่งเป็นสีชมพู หรือใช้วัตถุดิบจากส่วนดอก กับใบซากุระ ไม่ว่าจะเป็น แป้งโมจิไส้ถั่วกวน ไดฟุกุ ดังโงะเสียบไม้ โดรายากิ วุ้นถั่วกวนโยคัง หรือข้าวเกรียบเซมเบ้

แต่ในช่วงนี้ยังเป็นฤดูที่พืชผัก และต้นอ่อนจะผลิดอกออกผลมาสดใหม่ เช่นหน่อไม้ กระหล่ำปลี มันฝรั่งใหม่ หัวหอมใหญ่ใหม่ ซึ่งจะเก็บ และนำมาจำหน่ายทันที โดยไม่ผ่านการบ่ม

 

อาหารฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น

 

เมนูที่ควรลิ้มลอง

・ข้าวอบหน่อไม้ หรือหน่อไม้ต้มโชยุ
・ดอกนะโนะฮะนะผัด หรือลวก
・ชิราชิซูชิ ข้าวซูชิที่โรยหน้าด้วยปลาดิบหลากชนิดสีสันสวยงาม เป็นอาหารประจำวันฮินะมัตสึริ หรือวันเด็กผู้หญิงช่วงเดือนมีนาคม
・หอยอาซาริ (Asari) หรือหอยฮามากุริ (Hamaguri) ที่เก็บได้ช่วงเดือนมีนาคม มักจะนำมาทำเมนูซุป ข้าวอบหอย หรือพาสต้า เป็นต้น

 

กิจกรรมที่แนะนำในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

นอกจากการมาชมซากุระแล้ว ในช่วงฤดูใบไม้ผลิยังมีกิจกรรมพิเศษที่จัดขึ้นทั่วญี่ปุ่น รวมถึงเทศกาลต่าง ๆ อาทิ
・เทศกาลชมซากุระที่บางแห่งจะมีร้านแผงลอย สามารถหาชิมเมนูสตรีทฟู๊ดไปพร้อมๆ กับชมซากุระ ซึ่งบางแห่งอาจมีการประดับไฟในยามค่ำคืน
・สัมผัสบรรยากาศเทศกาลฮานามิ (Hanami) ที่ชาวญี่ปุ่นจะห่อเบนโตง่าย ๆ เตรียมน้ำชา และออกไปเดินเล่น นั่งชมซากุระใต้ต้นไม้
・ล่องเรือชมซากุระริมแม่น้ำ
・แช่อนเซ็นพร้อมชมซากุระตามโรงแรมสไตล์ญี่ปุ่น
・นั่งรถไฟท่องเที่ยวที่แล่นผ่านทุ่งดอกไม้
・เก็บสตรอเบอร์รี่สด ๆ จากต้น

 

ครั้งนี้จะมาแนะนำ 5 จุดชมซากุระยอดนิยมในจังหวัดโคจิ ภูมิภาคชิโคคุ (Shikoku)

 

สวนเฮียวตัน ซากุระ ปาร์ค (Hyotan Sakura Park)

สวนเฮียวตัน ซากุระ ปาร์ค (Hyotan Sakura Park)

 

สวนเฮียวตัน ซากุระ ปาร์ค (Hyotan Sakura Park) ตั้งอยู่ที่ บริเวณต้นน้ำของแม่น้ำนิโยโดะ (Niyodo River) ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญของภูมิภาคชิโกะคุ (Shikoku) ที่มาของชื่อ “เฮียวตันซากุระ” นั้น มาจากรูปร่างของดอกที่ตูม และมีลักษณะคล้ายกับน้ำเต้า และความพิเศษของสวนแห่งนี้คือ มีต้นซากุระที่อายุนานถึง 500 ปี สูงประมาณ 21 เมตร รอบฐานประมาณ 6 เมตร โดยต้นซากุระเก่าแก่นี้ถูกกำหนดให้เป็นอนุสรณ์ทางธรรมชาติของจังหวัดโคจิ (kochi) อีกด้วย

 

กิจกรรม หรือ เทศกาลพิเศษ

สวนเฮียวตัน ซากุระ ปาร์ค (Hyotan Sakura Park)

 

เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซากุระกว่า 100 ต้นทั้งสายพันธุ์โซเมอิ โยชิโนะ (Somei Yoshino) และเอโดะฮิกัง (Edo higan) จะบานสะพรั่ง ช่วยแต่งแต้มสีสันให้กับเนินเขา และยังมีดอกชิบะซากุระ (Shibazakura) หรือเรียกอีกชื่อว่า สีเหลืองอร่ามของทุ่งดอกนะโนะฮะนะที่ขึ้นตามพื้นดิน มีสีเหลืองสดสวยตัดกับต้นซากุระสีชมพูที่ขึ้นบนเนินเขา

สามารถมาเดินเล่นตามเส้นทาง หรือ นั่งเล่นตามม้านั่งที่จัดไว้ให้ก็ได้ เนื่องจากเป็นสวนที่ซากุระขึ้นตามเนินเขา จึงไม่มีลานสำหรับนั่งชมซากุระใต้ต้นไม้

 

ช่วงเวลาชมซากุระที่ดีที่สุดภายในสวนเฮียวตันซากุระ ปาร์ค

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมคือตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปี)

 

ร้านอาหารบริเวณใกล้เคียง

แนะนำให้แวะพักคาเฟ่ Ikegawa Cha-en Cafe ไม่ไกลจากสวนเฮียวตัน ซากุระ ปาร์ค (Hyotan Sakura Park) โดยรถยนต์ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ที่นี่เต็มไปด้วยของอร่อยอย่างโรลเค้ก พุดดิ้ง ทีรามิสุ พาร์เฟ่ต์ ซอฟท์ครีม ในรูปแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ เน้นใช้วัตถุดิบหลักคือ ใบชาที่เพาะปลูก และคั่วด้วยตนเอง ผสมกับวัสดุท้องถิ่นในเมืองนิโยโดะกาวะ (Niyodogawa Town) มีทั้งชาเขียวคาบูเซฉะ (Kabusecha), โฮจิฉะ (Hochicha) และอีกมากมาย

ภายในให้บรรยากาศแบบกึ่งเอาท์ดอร์ มีไร่ชาเล็ก ๆ ปลูกคู่กับแม่น้ำนิโยโดะ (Niyodo River) ที่ไหลผ่านอยู่ด้านข้าง สามารถชมธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ และยังมีจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของไร่ชาฉุยฟงให้เลือกซื้อเองอีกด้วย

รายละเอียดเพิ่มเติม https://niyodoblue.jp/en/gourmet/detail.php?id=GO018&lang=en

 

 

ที่อยู่ Hyotan Sakura Park
994 Sakura, Niyodogawa, Agawa District, Kochi 781-1505, Japan
การเดินทาง

จากสถานี Kochi ขับรถยนต์ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 15 นาที

เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://niyodoblue.jp/spot/detail.php?id=126
https://www.town.niyodogawa.lg.jp/life/life_dtl.php?hdnKey=948
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://visitkochijapan.com/en/see-and-do/10048
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
https://visitkochijapan.com/th/see-and-do/10048

 

สวนดอกไม้นิชิกะวะ (Nishigawa Flower Park)

สวนดอกไม้นิชิกะวะ (Nishigawa Flower Park)

 

สวนดอกไม้นิชิกะวะ (Nishigawa Flower Park) เป็นสวนขนาดใหญ่กินพื้นที่กว่า 70 เอเคอร์ตั้งอยู่ในเมืองโคนัน (Konan) ในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะเต็มไปด้วยสีสันสดใสของดอกซากุระ ดอกบ๊วย และดอกนะโนะฮะนะแข่งกันออกดอกบานสะพรั่งตามลำดับ ราวกับพรมดอกไม้ 3 สี

สีสันของดอกบ๊วยสีชมพูเข้มกว่า 600 ต้น บานสลับกับดอกซากุระสีชมพูอ่อน ตัดกับสีเหลืองอร่ามของทุ่งดอกนะโนะฮะนะมากถึง 50,000 ต้น เป็นที่ดึงดูด และสะกดความสนใจของช่างภาพ และนักเดินทางจากทั่วประเทศ

 

กิจกรรม หรือ เทศกาลพิเศษ

สวนดอกไม้นิชิกะวะ (Nishigawa Flower Park)

 

ทุก ๆ ปีจะมีการจัดเทศกาลนิชิกะวะฮานะมัตสึริ (Nishigawa hana Matsuri) และปีนี้ตรงกับวันที่ 23 - 31 มีนาคม 2024 ทางสวนจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเดินเล่น และมีจุดถ่ายภาพจากมุมสูงที่สามารถมองลงมาเห็นวิวแบบ 360 องศา มุมยอดฮิตก็คือ มุม Jump for Joy จะเป็นลักษณะแท่นไม้ยกสูงสำหรับขึ้นไปยืนถ่ายรูป พร้อมมีพร็อพเป็นไม้กวาดให้หยิบถ่ายรูปได้ตามใจชอบ ชาวญี่ปุ่นที่มาเยือนมักจะถ่ายรูปท่ากระโดดขึ้นไม้กวาด พร้อมมีฉากหลังเป็นทุ่งดอกไม้สดใส เหมือนกับภาพยนต์เรื่องแม่มดน้อยกิกิ (Kiki's Delivery Service) ที่กำลังขี่ไม้กวาดบนพรมสีเหลืองทอง

 

ช่วงเวลาชมซากุระที่ดีที่สุดภายในสวนดอกไม้นิชิกาวะ

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมคือตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปี)

 

ร้านอาหารบริเวณใกล้เคียง

จากสวนดอกไม้นิชิกะวะ (Nishigawa Flower Park) โดยสารรถยนต์ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที จะพบกับคาเฟ่ Tokuchuan คาเฟ่สไตล์บ้านอบอุ่น ที่เจ้าของชุบชีวิตบ้านเก่าสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมอายุมากกว่า 100 ปี ให้กลับมามีชีวิต ภายในร้านยังคงความเป็นบ้านญี่ปุ่นด้วยเสื่อทาทามิ และตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์วินเทจ เสิร์ฟขนมวากาชิ (Wagashi) อาทิ เนริกิริ (Nerigiri) หรือถั่วขาวกวนปั้น, เซ็นไซ (Zenzai) หรือโมจิต้มถั่วแดง และเค้กต่าง ๆ แบบโฮมเมด ทานคู่กับนำ้ชา หรือจะเลือกเป็นกาแฟ รับรองว่าจะได้สัมผัสถึงความเป็นญี่ปุ่นแบบต้นตำรับได้อย่างน่าประทับใจ

 

รายละเอียดเพิ่มเติม
https://kounan-navi.com/sightseeing/category1/tokuchuan/
https://eimons.jp/gourmet/tokuchuan

 

 

ที่อยู่ Nishigawa Flower Park
Kagamicho Nakanishigawa, Konan, Kochi
การเดินทาง

จากสถานี Kochi ขับรถยนต์ ใช้เวลาประมาณ 50 นาที

เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://kounan-navi.com/sightseeing/category2/nishigawahanakouen/
https://nishigawa-hanakoen.com/about/
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://visitkochijapan.com/en/topics/573
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
https://visitkochijapan.com/th/see-and-do/10506

 

ปราสาทโคชิ (Kochi Castle)

ปราสาทโคจิ (Kochi Castle)
©️VISIT KOCHI JAPAN

 

ปราสาทโคชิ (Kochi Castle) ตั้งอยู่ในบริเวณสวนสาธารณะโคชิ (Kochi Park) ใจกลางเมืองโคชิ (Kochi City) และเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดโคชิ ปราสาทนี้ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 12 ปราสาทของญี่ปุ่นที่ยังคงสภาพดั้งเดิม และยังติด 1 ใน 100 ปราสาทที่สวยงามของประเทศญี่ปุ่น

ปราสาทโคจิ (Kochi Castle) มีความสูงของหอหลักถึง 5 ชั้น บริเวณหอคอยขั้นบนสุดสามารถชมวิวเมืองโคจิ (Kochi) ได้แบบ 360 องศาและภายในปราสาทมีการจัดแสดงประวัติศาสตร์ของปราสาท เมือง ขุนนาง หรือข้าวของเครื่องใช้ในยุคนั้นอีกด้วย  นอกจากนี้ทุกๆวันอาทิตย์จะมีการจัดตลาดวันอาทิตย์ (Sunday Market) ขึ้นที่บริเวณใกล้ๆปราสาท ซึ่งจะครึกครื้นไปด้วยร้านค้ามากมาย เช่น ร้านขายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น และร้านขายของเก่า เป็นต้น

 

กิจกรรม หรือ เทศกาลพิเศษ

ปราสาทโคจิ (Kochi Castle)

 

ชาวเมือง และนักท่องเที่ยวนิยมมานั่งปิคนิคกันในครอบครัวและกลุ่มเพื่อนบริเวณสวนซันโนะมารุ (Sannomaru Park) ซึ่งเป็นบริเวณที่สามารถชมดอกซากุระที่อยู่รอบตัวและมองเห็นปราสาทโคจิ (Kochi Castle) ได้อย่างชัดเจน มีต้นซากุระกว่า 225 ต้นรอบเขตปราสาท ออกดอกสีชมพูขาวตัดกับสีของกำแพงหินและสีขาวดำของอาคารปราสาท เมื่อท้องฟ้าเริ่มมืดจะมีการแสดงไฟไลท์อัพระหว่างเวลา 19:00 น. - 22:00 น.

 

ช่วงเวลาชมซากุระที่ดีที่สุดภายในบริเวณปราสาทโคจิ

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมคือตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปี)

 

เมนูท้องถิ่นแนะนำ

ปลาโอลนไฟ (Katsuo no Tataki) คือเมนูเด่นประจำจังหวัดที่ไม่ควรพลาด ชาวโคจินิยมทานปลาโอมากที่สุดของประเทศ และยังมีวัฒนธรรมการจับปลาเป็นของตัวเอง จากการล่อปลามารวมกัน แล้วจับปลาด้วยเบ็ดทีละตัว ๆ เนื้อปลาโอดิบจะถูกนำไปลดไฟจนหอม สุกนอก ดิบใน สีแดงสด ทานกับซอสพอนสุ หรือซอสถั่วเหลือง พร้อมเครื่องเคียง อร่อยลงตัว ร้านที่ขายเมนูปลาโอลนไฟสามารถพบเห็นได้ทั่วทั้งจังหวัด หรือร้านใกล้ปราสาทก็มีให้เลือกมากมาย

 

 

ที่อยู่ Kochi Castle
1 Chome-2-1 Marunouchi, Kochi
การเดินทาง

จากสถานี Kochi ขับรถยนต์ ใช้เวลา ประมาณ 7 นาที

เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://kochipark.jp/kochijyo/
https://www.city.kochi.kochi.jp/site/kanko/kochijou.html
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://visitkochijapan.com/en/see-and-do/10009
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
https://visitkochijapan.com/th/see-and-do/10009

 

สวนพฤกษศาสตร์มะคิโนะ (The Kochi Prefectural Makino Botanical Garden)

สวนพฤกษศาสตร์มะคิโนะ (The Kochi Prefectural Makino Botanical Garden)
©️VISIT KOCHI JAPAN

 

สวนพฤกษศาสตร์มะคิโนะ (The Kochi Prefectural Makino Botanical Garden) เปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อผี ค.ศ. 1858 โดย โทมิทาโระ มะกิโนะ (Tomitaro Makino) บิดาแห่งพฤกษศาสตร์ญี่ปุ่น บริเวณเขาโกะได (Mount Godai) ซึ่งไม่ไกลจากใจกลางเมืองโคจิ (Kochi) มีพันธุ์ไม้กว่า 3,000 มีทั้งชนิดหาชมได้ยากและสายพันธุ์พิเศษมากมายบนพื้นที่กว่า 8 เฮกเตอร์

 

กิจกรรม หรือ เทศกาลพิเศษ

สวนพฤกษศาสตร์มะคิโนะ (The Kochi Prefectural Makino Botanical Garden)

 

สวนแห่งนี้มีต้นซากุระรวมกันกว่า 30 สายพันธุ์ให้ชมและศึกษา ประกอบกับพันธุ์ไม้กว่า 3,000 ชนิดทำให้การชมซากุระที่นี่จะให้ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนที่ไหน ๆ ในช่วงเวลาหลังพระอาทิตย์ตกจะมีการฉายไฟสร้างบรรยากาศของสถานที่และต้นซากุระให้สวยงามโดดเด่น เหมาะแก่การถ่ายภาพเป็นอย่างยิ่ง ประกอบกับการแสดงดนตรีสร้างบรรยากาศให้โรแมนติกยิ่งขึ้น

*กิจกรรมอาจมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละปีดูข้อมูลเพิ่มได้ที่
https://www.makino.or.jp/event/detail.php?id=804

 

ช่วงเวลาชมซากุระที่ดีที่สุดภายในสวนพฤกษศาสตร์มะคิโนะ

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมคือตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปี)

 

ร้านอาหารบริเวณใกล้เคียง

Cafe arbre คาเฟ่ภายในสวนพฤกษศาสตร์มะคิโนะ (The Kochi Prefectural Makino Botanical Garden) มีเมนูอาหารคาวและหวานให้บริการอย่างครบครัน เช่น แฮมเบิร์ก สเต็ก ซุป สลัด ชีสเค้ก ทิรามิสุ ชา กาแฟ และยังมีเซ็ทอาหารให้เลือกทานอีกด้วย โดยร้านจะถูกร้อมรอบไปด้วยต้นไม้สีเขียว ให้บรรยากาศที่สดชื่น เหมาะแก่การพักผ่อน

 

 

ที่อยู่ The Kochi Prefectural Makino Botanical Garden
4200-6 Godaisan, Kochi
การเดินทาง

จากสถานี Kochi ขับรถยนต์ ใช้เวลาประมาณ 16 นาที

เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://www.makino.or.jp/
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://visitkochijapan.com/en/see-and-do/10019
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
https://visitkochijapan.com/th/see-and-do/10019

 

สวนสาธารณะคะกะมิโนะ (Kagamino Park)

สวนสาธารณะคะกะมิโนะ (Kagamino Park)
©️VISIT KOCHI JAPAN

 

สวนสาธารณะคะกะมิโนะ (Kagamino Park) ตั้งอยู่ในเมืองคามิ (Kami) ติดกับมหาลัยวิทยาลับ Kochi University of Technology ติดอันดับ 1 ใน 100 สถานที่ชมซากุระที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยต้นซากุระกว่า 600 ต้นที่ผลิดอกบานผสานกันเป็นอุโมงค์ยาวถึง 200 เมตรตามทางเดิน และมีสายพันธุ์ที่หลากหลายเช่น ยาเอะซากุระ (Yaezakura)  โซเมอิอิ โยชิโนะ (Somei Yoshino) เป็นต้น

ภายในสวนจะแบ่งออกเป็นโซนชมซากุระ และโซนธรรมชาติ ซึ่งเป็นบริเวณที่อุดมไปด้วยพรรณไม้ใหญ่นานาชนิด บ่อน้ำ ลานกว้างสำหรับการออกกำลังกาย และเส้นทางธรรมชาติที่สามารถมาเดินเล่นรับลมไม่มีเบื่อ

 

กิจกรรม หรือ เทศกาลพิเศษ

สวนสาธารณะคะกะมิโนะ (Kagamino Park)
©️VISIT KOCHI JAPAN

 

ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ผู้คนต่างนิยมมาที่นี่เพื่อชมซากุระ หรือที่เรียกว่าเทศกาลฮานามิ ชาวญี่ปุ่นจะนิยมมาทำเบนโตะ และมานั่งปิกนิค สังสรรค์กันใต้ต้นซากุระ และปีนี้มีจัดเทศกาลในวันที่ 23 มีนาคม ถึง 14 เมษายน 2024 สามารถมาชมซากุระพร้อมไฟประดับในเวลากลางคืน หรือเพลิดเพลินไปกับเมนูหลากหลายจากร้านอาหารริมทาง (Yatai)

 

ช่วงเวลาชมซากุระที่ดีที่สุดภายในสวนสาธารณะคะกะมิโนะ

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมคือตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปี)

 

ร้านอาหารบริเวณใกล้เคียง

cafe IVY เป็นคาเฟ่กระท่อมไม้กลางป่า ขับรถเพียง 5 นาทีจากสวนสาธารณะคะกะมิโนะ (Kagamino Park) การตกแต่งภายในร้านเน้นใช้วัสดุจากธรรมชาติทั้งหมด มีทั้งโซน Indoor และ Outdoor ที่เป็นระเบียงเทอเรส สามารถนั่งทานอาหารพร้อม ๆ กับชมแม่น้ำโมะโนะเบะ (Monobe River) สีฟ้าใสให้บรรยากาศรื่นรมย์

เมนูอาหารเด่น ๆ ของที่นี่คือ แกงกระหรี่ผักที่เบสน้ำแกงกระหรี่ทำจากผัก และแป้งข้าวเจ้า (ไม่มีส่วนผสมของเนื้อ และไข่) สามารถเลือกท้อปปิ้งได้ อาทิเบค่อน เนื้อไก่งวง หรือเต้าหู้ชุบเกล็ดขนมปังทอด

รายละเอียดเพิ่มเติม
https://kochike.jp/column/199068/
https://hotkochi.co.jp/gourmet/44571/

 

 

ที่อยู่ Kagamino Park
Miyanokuchi, Kami, Kochi
การเดินทาง

จากสถานี Kochi ขับรถยนต์ ใช้เวลาประมาณ 35 นาที

เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://www.pref.kochi.lg.jp/soshiki/171801/kagamino.html
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://visitkochijapan.com/en/see-and-do/10047
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
https://www.japan.travel/th/spot/801/

 

เพจที่เกี่ยวข้อง

ค้นหา

Categories

Archives

Please Choose Your Language

Browse the JNTO site in one of multiple languages