รวม 5 จุดชมซากุระหายากแบบ Unseen ที่คุณอาจยังไม่เคยไป

ที่บริเวณนากะเซ็มบง (Naka Senbon) ของภูเขาโยชิโนะ (Mt. Yoshino) สามารถมองเห็นต้นซากุระขึ้นสลับซ้อนกับหลังคาศาลเจ้าได้อย่างสวยงาม

 

ประเทศญี่ปุ่นเองถือเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยอดฮิต โดยเฉพาะฤดูใบไม้ผลิที่เต็มไปด้วยดอกซากุระบานสะพรั่งเต็มเมือง แต่นอกจากจุดชมซากุระยอดนิยมตามหัวเมืองใหญ่แล้ว ตามสันเขา หรือริมแม่น้ำยังมีจุดชมซากุระแบบ Unseen ที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยไปอยู่มากมาย

 

สายพันธุ์ซากุระที่หาชมไม่ได้ทั่วไป

ผู้คนโดยส่วนใหญ่อาจจำภาพซากุระที่มีเพียงห้ากลีบ และสีชมพูอ่อนเท่านั้น แต่เมื่อเจาะลึกถึงซากุระสายพันธุ์ต่าง ๆ ที่มีอยู่ในประเทศญี่ปุ่นดูแล้ว จะรู้ว่าแต่ละสายพันธุ์มีลักษณะที่โดดเด่นต่างกันออกไป ทั้งช่วงเวลาที่ดอกไม้บาน จำนวนกลีบดอกไม้ ขนาด หรือวิธีการบานเป็นต้น

ชิดาเระซากุระ (Shidarezakura) ซากุระแบบห้อยระยาง โดยกิ่งจะโน้มต่ำ และมีดอกที่ไหลคล้อยลงมาเหมือนสายน้ำตก นับเป็นซากุระสายพันธุ์เก่าแก่ หากไปเดินเที่ยวตามสถานที่โบราณที่ถูกอนุรักษ์ไว้ก็จะพบชิดาเระซากุระ (Shidarezakura) ที่มีอายุกว่าหลายร้อยปี

เอโดะฮิกังซากุระ (Edo Higanzakura) เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ซากุระดั้งเดิมของญี่ปุ่น มีลักษณะกลีบดอกเล็ก สีชมพูอ่อน จุดเด่นอยู่ที่โคนดอกจะพองกลม ส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นต้นซากุระที่ต้นใหญ่ และเก่าแก่

ยาเอะซากุระ (Yaezakura) ดอกซากุระพันธุ์นี้มีกลีบดอกเรียงสลับซ้อนกันมากมาย เคยพบมากที่สุดถึง 300 กลีบ มีสีสันหลากหลายตั้งแต่ขาวไปจนถึงชมพูเข้ม

คังฮิซากุระ (Kanhizakura) เป็นสายพันธุ์ซากุระที่กระจายอยู่ในเขตที่มีสภาพอากาศที่อบอุ่น กลีบดอกมีสีชมพูเข้ม และช่วงที่บานเต็มที่จะเร็วกว่าซากุระชนิดอื่น

คิคุซากุระ (Kikuzakura) เป็นดอกซากุระที่คล้ายกับดอกคิคุ มีจุดเด่นคือดอกจะบานฟู และมีลักษณะเป็นกลมๆ ในหนึ่งดอกมีกลีบกว่า 80 กลีบ

อุคง (Ukon) เป็นซากุระที่มีลักษณะเด่นต่างจากซากุระทั่วไปด้วยกลีบสีเหลืองอ่อน และมีกลีบดอกประมาณ 10-20 กลีบ ตัวใบมีสีออกทองแดง

ครั้งนี้ได้รวบรวมจุดชมซากุระหายากที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมาแนะนำให้ทุกได้ไปสัมผัส

 

สวนเอะโบะชิยามะ (Eboshiyama Park), ยามากาตะ (Yamagata)


 

รูปปั้นคุณตา ฮานาซากะ จีซัง (Hanasaka Jiisan) นั่งซ่อนตัวอยู่บนต้นซากุระสายพันธุ์เอโดะ ฮิคัง (Edo Hikan)

 

สวนเอะโบะชิยามะ (Eboshiyama Park) ตั้งอยู่บนเนินเขาที่สามารถมองเห็นที่ราบสูงโยะเนะซะวะ (Yonezawa), ยอดเขาอาซุมะ (Mt. Azuma), ยอดเขาอิเดะ (Mt. Ide) และยอดเขาฮาซาฮิ (Mt. Asahi) ในจังหวัดยามากาตะ (Yamagata) อยู่ใกล้กับแหล่งอนเซ็นอะคะยุ อนเซ็น (Akayu Onsen) เริ่มปลูกต้นซากุระขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1875 เพื่อให้ชาวเมืองที่มาเยือนยังอะคะยุ อนเซ็น (Akayu Onsen) ได้ชมดอกไม้อย่างมีความสุข

 

แหล่งชมซากุระที่มีชื่อเสียงในยามากาตะ (Yamagata)

ภายในสวนเอะโบะชิยามะ (Eboshiyama Park) มีต้นซากุระกว่า 1,000 ต้น 25 สายพันธุ์ และโดดเด่นด้วยต้นซากุระสายพันธุ์โซเมอิอิ โยชิโนะ (Somei Yoshino) ที่มีอายุกว่า 120 ปีเป็นไฮไลท์ของสวนแห่งนี้ เมื่อเข้าฤดูใบไม้ผลิช่วงกลางเดือนเมษายนแล้ว ต้นซากุระทั่วพื้นที่จะพร้อมใจกันบานสะพรั่งออกดอกสีชมพู โน้มกิ่งเข้าหากันเป็นอุโมงค์สวยงามจนได้รับขนานนามว่าเอะโบะชิยามะ เซมบงซากุระ (Eboshiyama Senbon Sakura) ซึ่งแปลว่า “ซากุระ 1,000 ต้นที่เห็นได้ในคราวเดียว” และยังติดอันดับ 1 ใน100 สถานที่ชมซากุระที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีต้นซากุระสายพันธุ์เอโดะ ฮิคัง (Edo Hikan) ที่หาชมได้ยากกว่า 160 ต้นปะปนอยู่ในสวน ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีมาตั้งแต่สมัยเอโดะ ลักษณะเด่นคือโคนดอกจะพองกลม และกลีบดอกเล็ก มีสีชมพูอ่อน

 

กิจกรรมที่แนะนำในช่วงดอกซากุระบานภายในสวนเอะโบะชิยามะ (Eboshiyama Park)

ไฟประดับที่จัดขึ้นช่วงเทศกาลชมซากุระ บริเวณศาลเจ้าเอะโบะชิยามะฮะจิมัน (Eboshiyama Hachiman Shrine)

 

บริเวณพื้นที่ในสวนเอะโบะชิยามะ (Eboshiyama Park) จะมีทางเดินขั้นบันไดไปยังแหล่งอนเซ็นอะคะยุ อนเซ็น (Akayu Onsen) และศาลเจ้าเอะโบะชิยามะฮะจิมัน (Eboshiyama Hachiman Shrine) ดังนั้นสามารถดื่มด่ำบรรยากาศที่ยังคงรักษาความเก่าแก่ไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ไปพร้อม ๆ กับดอกซากุระข้างทางที่โน้มตัวลงมาให้ชมอย่างใกล้ชิด และมีเทือกเขาอาซูมะ (Mt. Azuma) ที่ปกคลุมด้วยหิมะทอดยาวอยู่เป็นฉากหลังสวยงาม

นอกจากนี้ช่วงซากุระบานจะมีงานเทศกาลอะคะยุ อนเซ็น ซากุระ มัตสึริ (Akayu Onsen Sakura Matsuri) ภายในงานสามารถชมขบวนพาเหรด และเลือกซื้อของกินที่ซุ้มขายอาหารยะไตมานั่งทานใต้ต้นซากุระได้ ไฮไลท์คือเมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว สวนแห่งนี้จะถูกเนรมิตด้วยแสงไฟประดับงดงามราวกับโลกแห่งจินตนาการ

จุดถ่ายรูปยอดนิยมคือบริเวณประตูเสาโทริอิที่สร้างด้วยหินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นปกคุลมไปด้วยซากุระย้อยเล่นแสงไฟ และรูปปั้นคุณตา ฮานาซากะ จีซัง (Hanasaka Jiisan) นั่งซ่อนตัวอยู่บนต้นซากุระสายพันธุ์เอโดะ ฮิคัง (Edo Hikan) ซึ่งคุณตาคนนี้เป็นชายแก่ผู้ทำให้ดอกไม้บาน ตัวละครจากนิทานพื้นบ้านที่นิยมเล่ากันในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

เว็บไซต์ http://www.bunshindou-p.com/eboshiyama/map/ (ภาษาญี่ปุ่น)

สายพันธุ์ต้นซากุระภายในสวนเอะโบะชิยามะ (Eboshiyama Park)
-โซเมอิอิ โยชิโนะ (Somei Yoshino)
-ชิดาเระซากุระ (Shidarezakura)
-เอโดะ ฮิคัง (Edo Hikan)

ช่วงเวลาชมซากุระที่ดีที่สุดภายในสวนเอะโบะชิยามะ (Eboshiyama Park)
กลางเดือนเมษายน - ต้นเดือนพฤษภาคม (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปี)

 

 

ที่อยู่ Eboshiyama Park
1415 Akayu, Nanyo, Yamagata
การเดินทาง จากสถานี Yamagata โดยสารรถไฟ JR Yamagata Line ลงสถานี Akayu ใช้เวลา 30 นาที เดินต่ออีก 20 นาที
เวลาทำการ เปิดไฟประดับ 18:00-22:00 น.
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ไม่มี
เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://yamagatakanko.com/attractions/detail_7511.html
https://tabi.jtb.or.jp/res/060045-
http://www.bunshindou-p.com/eboshiyama/east_map.html
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://yamagatakanko.com/en/attractions/detail_7511.html
https://www.japan.travel/en/spot/1754/
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
https://www.japan.travel/th/spot/1754/
https://www.jnto.or.th/spring2020/yamagata.html

 

แม่น้ำคันนงจิ (Kannonji River), ฟุกุชิมะ (Fukushima)


 

วิวธารน้ำไหลหลากหลายชั้นพร้อมต้นซากุระทอดตัวยาวทั้งสองฝั่ง ที่แม่น้ำคันนงจิ (Kannonji River)

 

แม่น้ำคันนงจิ (Kannonji River) เป็นอีกหนึ่งในจุดชมซากุระยอดนิยมติดอันดับที่ 11 ของภูมิภาคโทโฮคุ ตั้งอยู่ในจังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima) ทางตอนเหนือไม่ไกลจากสถานี Kawageta มีต้นน้ำมาจากทะเลสาบอินะวะชิโระ (Lake Inawashiro) ที่เกิดจากกระระเบิดของภูเขาไฟ และใหญ่เป็นอันดับ 4 ของญี่ปุ่น เส้นทางน้ำที่โค้งงอนั้นเป็นทางน้ำที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ไม่ได้มีการขุดขึ้น มีลักษณะเป็นธารน้ำขนาดเล็กที่มีน้ำใส ๆ ไหลผ่าน

 

แหล่งชมซากุระที่มีชื่อเสียงในฟุกุชิมะ (Fukushima)

บริเวณสองข้างทางของแม่น้ำคันนงจิ (Kannonji River) มีต้นซากุระทอดตัวเป็นแนวยาวราว 1 กิโลเมตร และจะเริ่มบานช่วงปลายเดือนเมษายน- ต้นเดือนพฤษภาคม โดยมีต้นซากุระสายพันธุ์โซเมอิ โยชิโนะ (Somei Yoshino) ชิดาเระซากุระ (Shidarezakura) เอโดะ ฮิคัง (Edo Hikan) และยามะซากุระ (Yamazakura) รวมกันมากถึง 200 ต้น เห็นเป็นทิวทัศน์งดงามแน่นขนัดไปด้วยซากุระสีชมพูอยู่เต็มบริเวณ หากมองจากด้านหน้าจะเห็นภาพของดอกไม้สีชมพูตัดกับท้องฟ้า และทุ่งหญ้าสีเขียวขจี มีแม่น้ำคันนงจิ (Kannonji River) ไหลผ่านเป็นธารน้ำหลากหลายชั้นคล้ายๆ ขั้นบันไดอยู่ตรงกลาง และมีเทือกเขาทอดตัวอย่าวเป็นฉากหลัง นับเป็นภาพที่งดงามจับตา และเป็นจุดที่คนนิยมมาถ่ายภาพมากที่สุด

 

กิจกรรมที่แนะนำในช่วงดอกซากุระบานภายในบริเวณแม่น้ำคันนงจิ (Kannonji River)

ไฟประดับที่จะมีให้ชมในช่วงเทศกาลคันนงจิกาวะ ซากุระ มัตสึริ (Kannonji River Sakura Matsuri)

 

ทุกปีในช่วงฤดูซากุระบาน บริเวณนี้จะมีการจัดเทศกาลคันนงจิกาวะ ซากุระ มัตสึริ (Kannonji River Sakura Matsuri) นักท่องเที่ยวต่างเดินทางมายังแม่น้ำคันนงจิ (Kannonji River)เพื่อชมความงามของซากุระ พร้อมกับนั่งปิกนิครับประทานอาหารร่วมกัน หรือสามารถหาซื้ออาหารแนวสตรีทฟู๊ดแสนอร่อยที่ตั้งขายอยู่ตามรวงร้านยะไต (Yatai) ข้างทางได้ และเมื่อเข้าสู่ช่วงพระอาทิตย์ตกเย็น แม่น้ำคันนงจิ (Kannonji River) จะเปลี่ยนเป็นอีกโลกหนึ่งด้วยแสงไฟประดับหลากสีสัน ให้ได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันงดงามแตกต่างไปจากเวลากลางวัน สามารถหาชมได้เฉพาะช่วงเทศกาลเท่านั้น

สายพันธุ์ต้นซากุระภายในบริเวณแม่น้ำคันนงจิ (Kannonji River)
-โซเมอิ โยชิโนะ (Somei Yoshino)
-ชิดาเระซากุระ (Shidarezakura)
-เอโดะ ฮิคัง (Edo Hikan)
-ยามะซากุระ (Yamazakura)

ช่วงเวลาชมซากุระที่ดีที่สุดภายในบริเวณแม่น้ำคันนงจิ (Kannonji River)
ปลายเดือนเมษายน- ต้นเดือนพฤษภาคม (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปี)

 

 

ที่อยู่ Kannonji River Sakura
Kamikawahara-83 Kawageta, Inawashiro, Yama District, Fukushima
การเดินทาง จากสถานี Fukushima โดยสารรถไฟ Shinkansen ลงสถานี Koriyama ใช้เวลา 13 นาที จากนั้นโดยสารรถไฟ JR Ban'etsusai Line ลงสถานี Kawageta ใช้เวลา 40 นาที จากนั้นเดินต่ออีก 5 นาที
เวลาทำการ ไม่มี
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ไม่มี
เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://www.tif.ne.jp/jp/spot.html?spot=5727
https://www.kanko-koriyama.gr.jp/tourism/detail5-1-521.html
https://fukutubu.jp/20180419121
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://fukushima.travel/destination/kannonji-gawa-river-cherry-trees/3
https://bandaisan.or.jp/ib/en/nature/
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
https://welovefukushima.com/sightseeing/แม่น้ำคันนงจิ/

 

ดอกซากุระที่สุสานฟูจิ (Fuji Cemetery Cherry Blossoms), ชิซุโอกะ (Shizuoka)


 

ภาพมุมกว้างของต้นซากุระที่กำลังออกดอกสีชมพูสะพรั่งริมสองข้างทาง สามารถมองเห็นได้จากจุดชมวิว Fuji Cemetery Observation Deck

 

สุสานฟูจิ (Fuji Cemetery) เป็นสุสานสาธารณะขนาดใหญ่ที่กินอาณาเขตกว้างขวางถึง 230 เฮกเตอร์ ตั้งอยู่ในเมืองโอยามะ (Oyama) จังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka) ใกล้กับบริเวณตีนภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) มีบรรยากาศที่รายล้อมด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติสีเขียว และดอกไม้นานาพันธุ์ ภายในสุสานจะแบ่งพื้นที่ออกเป็นหลายส่วนประกอบด้วย ลานหลุมฝั่งศพ ห้องสวดสำหรับทำพิธี อนุสรณ์สถานยะสึระงิ (Yasuragi no-oka Memorial Hall) สนามเด็กเล่น ร้านอาหาร ห้องรับรอง เป็นต้น

ที่สุสานแห่งนี้ยังมีหลุมศพของคนดังมากมายถูกฝังอยู่ไม่ว่าจะเป็น โซอิจิโระ ฮอนดะ (Soichiro Honda) ผู้ก่อตั้งบริษัทฮอนด้ามอเตอร์ที่เป็นตำนานยานยนต์ของโลก หรือนักร้องชื่อดังอิจิโระ ฟุจิยะมะ (Ichiro Fujiyama) และอดีตนายกรัฐมนตรีโนบุสึเคะ คิชิ (Nobusuke Kishi) เป็นต้น

 

แหล่งชมซากุระที่มีชื่อเสียงในชิซุโอกะ (Shizuoka)

บริเวณถนนตรงกลางของสุสานฟูจิ (Fuji Cemetery) ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ต้นซากุระทั้งสองข้างทางกว่า 8,000 ต้นจะพร้อมใจกันบานสะพรั่งออกดอกเรียงรายไปตามทางเดิน สามารถพบซากุระสายพันธุ์โซเมอิโยชิโนะ (Someiyoshino) ได้ถึง 7,000 ต้น และสายพันธุ์ยามะซากุระ (Yamazakura) อีก 1,000 ต้น ไม่ว่าเดินไปทางไหนก็มีแต่สีชมพูของดอกซากุระสวยงามเต็มไปหมดจนติดอันดับ 1 ใน 100 สถานที่ชมซากุระที่สวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น

และในช่วงเทศกาลซากุระทุกปี มีนักท่องเที่ยวกว่าแสนคนหลั่งไหลเดินทางมาชมซากุระท่ามกลางความเงียบสงบ เนื่องจากสุสานฟูจิ (Fuji Cemetery) เป็นสถานที่ทางศาสนา นักท่องเทียวที่เดินทางมาชมดอกซากุระจึงไม่ควรพูดคุยกันเสียงดัง เพื่อเป็นการให้เกียรติ และเคารพสถานที่

 

กิจกรรมที่แนะนำในช่วงดอกซากุระบานบริเวณสุสานฟูจิ (Fuji Cemetery)

เดินเล่นใต้อุโมงค์ซากุระบริเวณสุสานฟูจิ (Fuji Cemetery)

 

นอกจากการเดินเล่นชมซากุระอย่างใกล้ชิดบริเวณถนนที่เต็มไปด้วยกิ่งก้านของดอกซากุระโน้มเข้าหากันเป็นอุโมงค์สีชมพูแล้ว ที่นี่ยังมีความพิเศษที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาถ่ายภาพเก็บเป็นที่ระลึกอีกอย่างคือ จุดชมวิว Fuji Cemetery Observation Deck ที่ตั้งอยู่บนสุดถนน สามารถเดินขึ้นบันไดกว่าร้อยขั้นไปยังด้านบนของเนินเขา และมองเห็นสุสานตั้งอยู่มากมายจากมุมสูง พร้อมกับดอกซากุระสีชมพูบานสดใสอยู่เต็มสวน

สายพันธุ์ต้นซากุระบริเวณสุสานฟูจิ (Fuji Cemetery)
-โซเมอิอิ โยชิโนะ (Somei Yoshino)
-ยามะซากุระ (Yamazakura)

ช่วงเวลาชมซากุระที่ดีที่สุดบริเวณสุสานฟูจิ (Fuji Cemetery)
ระหว่างต้นเดือนเมษายน - กลางเดือนเมษายน (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปี)

 

 

ที่อยู่ Fuji Cemetery
888ー2 Omika, Oyama, Sunto District, Shizuoka
การเดินทาง จากสถานี Shinjuku โดยสารรถไฟ Odakyu limited express ขบวน Romancecar ลงสถานี Suruga Oyama ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที จากนั้นโดยสารรถบัส ลงป้าย Fuji cemetery park (Fuji-reien)ใช้เวลา 25 นาที
เวลาทำการ 9:00-16:30 น.
วันหยุด ทุกวันพุธ
ค่าใช้จ่าย ไม่มี
เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://www.fujireien.or.jp
https://shizuoka-hamamatsu-izu.com/shizuoka/oyama-cho/sz524/
http://www.fuji-oyama.jp/kankou_02_fujireien.html
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://www.japan.travel/en/spot/186/
https://guides-japan.com/t/oyama/spots/3182/Fuji_cemetery_park
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
https://www.japan.travel/th/spot/186/

 

ภูเขาโยชิโนะ (Mt. Yoshino), นารา (Nara)


 

ผืนพรมซากุระสีชมพูปกคลุมสันเขาได้อย่างกว้างสุดสายตา จุดชมวิวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งที่คามิเซ็มบง (Kamisenbon)

 

ภูเขาโยชิโนะ (Mt. Yoshino) เป็นภูเขาที่ทอดตัวยาวอยู่ทั่วเมืองโยชิโนะ (Yoshino) จังหวัดนารา (Nara) ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกอันล้ำค่าของประเทศญี่ปุ่น บนภูเขาแห่งนี้มีลักษณะเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ประกอบไปด้วยโรงแรม ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก วัด และศาลเจ้า

 

แหล่งชมซากุระที่มีชื่อเสียงในนารา (Nara)

บนภูเขาโยชิโนะ (Mt. Yoshino) มีจุดชมวิวธรรมชาติกระจายอยู่ตามเส้นทางต่าง ๆ สามารถชมทัศนียภาพที่แตกต่างกันตลอด 4 ฤดูกาลได้ ตั้งแต่ดอกไฮเดรนเยียในฤดูฝน ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ผลิ ทัศนียภาพหิมะโปรยปรายในฤดูหนาว และในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกซากุระกว่า 30,000 ต้นจาก 200 สายพันธุ์จะพร้อมใจกันผลิบานทั่วสันเขากินระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร เห็นเป็นผืนพรมสีชมพูปกคลุมได้อย่างกว้างสุดสายตา จึงถูกเรียกว่าเป็นฮิโตะเมะ เซมบงซากุระ (Hitome Senbon Sakura) โดยสายพันธุ์ที่มีจำนวนมากที่สุดคือสายพันธุ์เก่าแก่อย่าง “ชิโระยามะซากุระ (Shiroyamazakura)”

 

กิจกรรมที่แนะนำในช่วงดอกซากุระบานบนภูเขาโยชิโนะ (Mt. Yoshino)

ทัศนียภาพของต้นซากุระที่ปะปนไปกับหลังคาบ้าน และศาลเจ้านั้นสวยงามแบบหาไม่ได้จากที่ไหน

 

ภูเขาโยชิโนะ (Mt. Yoshino) ถูกแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่ชิโมเซ็มบง (Shimo Senbon) นากะเซ็มบง (Naka Senbon) คามิเซ็มบง (Kami Senbon) และโอคุเซ็มบง (Oku Senbon) ดอกซากุระจะค่อย ๆ บานสลับสีชมพูเข้มอ่อน ตั้งแต่เชิงเขาไปจนสุดยอดเขา ซึ่งจุดที่ผู้คนนิยมมาชมซากุระ คือบริเวณชิโมเซ็มบง (Shimo Senbon) ที่เป็นจุดขึ้นกระเช้า บรรยากาศโดยรอบรายล้อมด้วยอาคารเก่าแก่ราวกับอยู่ในย่านเกอิชา และบริเวณนากะเซ็มบง (Naka Senbon) ที่เป็นจุดศูนย์รวมวัด และศาลเจ้า

และที่บริเวณคามิเซ็มบง (Kami Senbon) จะมีจุดชมวิว Hanayagura Observatory ที่สามารถมองเห็นต้นซากุระนับพันได้ในคราวเดียว เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่คนนิยมเดินขึ้นเขามาถ่ายภาพเก็บเป็นที่ระลึก แต่หากถัดขึ้นไปสูงกว่านั้นจะเป็นเส้นทางที่เหมาะสำหรับนักเดินป่า เพราะจำนวนซากุระเริ่มน้อยลง และเมื่อพระอาทิตย์ตกเย็นซากุระยามราตรีจะฉาบด้วยแสงไฟสวยงาม

เว็บไซต์ https://87yama.sakura.ne.jp/news/sakura-spot/index.html (ภาษาญี่ปุ่น)

สายพันธุ์ต้นซากุระบนภูเขาโยชิโนะ (Mt. Yoshino)
-ชิโระยามะซากุระ (Shiroyamazakura)
-ทะคิซากุระ (Takizakura)
-คุโมะซากุระ (Kumozakura)
-นุโนะบิคิซากุระ(Nunobikizakura)

ช่วงเวลาชมซากุระที่ดีที่สุดบนภูเขาโยชิโนะ (Mt. Yoshino)
ปลายเดือนมีนาคม - ต้นเดือนเมษายน (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปีและช่วงเวลาที่เปิดให้เข้าชม)

 

 

ที่อยู่ Mt. Yoshino
Yoshinoyama, Yoshino, Yoshino District, Nara
การเดินทาง จากสถานี Kyoto โดยสารรถไฟ Kintetsu Ltd. Exp. ลงสถานี Kashiharajingumae ใช้เวลา 55 นาที จากนั้นโดยสารรถไฟ Kintetsu Yoshino Line ลงสถานี Yoshino ใช้เวลา 50 นาที จากนั้นขึ้นกระเช้า 3 นาที และมีรถบัสวิ่งไปลงจุดต่างๆ
เวลาทำการ บริการกระเช้า 07:40-19:00 น.
*เวลาให้บริการจะแตกต่างกันตามฤดูกาล กรุณาเช็คที่เว็บไซต์
http://www.yokb315.co.jp/ropeway.php
วันหยุด ไม่มี
ค่าใช้จ่าย ไม่มี
เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://www.town.yoshino.nara.jp/kanko-event/sakura/yoshinoyama/
http://www.yoshinoyama-sakura.jp
http://yamatoji.nara-kankou.or.jp/02nature/01mountain/04south_area/yoshinoyama/
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://www.japan.travel/en/itineraries/the-sakura-trail-mt-yoshino-nara-and-kyoto/
http://www.yoshinoyama-sakura.jp/english/
https://www.japan-guide.com/e/e4152.html
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
https://www.japan.travel/th/spot/988/
https://www.japan.travel/th/spot/985/

 

ภูเขาชิอุเดะยามะ (Mt. Shiudeyama), คางาวะ (Kagawa)


 

ซากุระผลิบานบนภูเขาชิอุเดะยามะ (Shiudeyama) มีทะเลในเซะโตะ (Seto Inland Sea) อยู่เป็นฉากหลัง

 

ภูเขาชิอุเดะยามะ (Shiudeyama) ตั้งอยู่บนคาบสมุทรโชไน (Shonai Peninsular) อยู่ที่ระดับความสูงจากน้ำทะเล 352 เมตร เมืองมิโตะโยะ (Mitoyo) จังหวัดคางาวะ (Kagawa)

ชื่อของภูเขาชิอุเดะยามะ (Shiudeyama) แปลได้ว่า ภูเขาแห่งหมอกควันสีม่วง ซึ่งมาจากตำนานนิทานพื้นบ้านเรื่องอุระชิมะ ทาโร่ Urashima Taro (浦島太郎) ว่ากันว่าพื้นที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ตัวละครได้เปิดกล่องปริศนาและมีควันสีม่วงพุ่งพวยออกมาตามที่ปรากฏอยู่ในนิทาน

 

แหล่งชมซากุระที่มีชื่อเสียงในคางาวะ (Kagawa)

จุดเด่นที่ทำให้ภูเขาชิอุเดะยามะ (Shiudeyama) นี้ได้รับความนิยมคือทิวทัศน์ของต้นซากุระสีชมพูหลากสายพันธุ์ที่เบ่งบาน และมีทะเลในเซะโตะ (Seto Inland Sea) พร้อมเกาะน้อยใหญ่ทอดยาวอยู่เป็นฉากหลังสวยงาม ติดอันดับ 1 ใน 15 สถานที่ชมซากุระที่สวยที่สุด โดยการจัดอันดับของ Yahoo! JAPAN และยังถูกยกย่องให้เป็นสถานที่ที่ต้องมาให้ได้สักครั้งในชีวิต โดยนิตยสาร New York Times

 

กิจกรรมที่แนะนำในช่วงดอกซากุระบานบนภูเขาชิอุเดะยามะ (Shiudeyama)

เสมือนโลกนี้เป็นสีชมพู ทั้งฟากฟ้า ท้องทะเล และต้นซากุระในช่วงพระอาทิตย์ตก

 

ด้านบนของยอดภูเขาแห่งนี้ มีจุดชมวิวหลายจุด สามารถนั่งรถบัส หรือเดินขึ้นเขาใช้เวลา 50 นาทีเพื่อไปชมทิวทัศน์อันสวยงามอลังการของดอกซากุระกว่า 1,000 ต้นบานอยู่คู่กับทะเลในเซะโตะ (Seto Inland Sea) โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ท้องฟ้าจะเปลี่ยนเป็นสีส้มอมชมพูเหมาะแก่การมาถ่ายภาพ ซึ่งแต่ละ 4 ฤดูกาลก็จะมีดอกไม้ผลิบานแตกต่างกันออกไป อย่างช่วงฤดูฝนก็จะเป็นพุ่มดอกไฮเดรนเยียสีฟ้าปนม่วงดูโดดเด่นชวนน่ามอง

นอกจากจุดชมวิวแล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์ และคาเฟ่ชื่อว่า Mt. Shiude Archaeological Museum and Cafe ด้านในจัดแสดงเครื่องปั้นดินเผาอายุ 200 ปี และมีมุมนั่งจิบชาทานขนมพร้อมชมวิวซากุระผ่านที่นั่งเคาน์เตอร์บาร์ได้ และไม่เพียงแต่มาชมวิวเท่านั้น ที่ภูเขาแห่งนี้ยังเป็นภูเขาแห่งการผูกดวง วัยรุ่นหนุ่มสาวที่ต้องการเสริมดวงความรักก็มักจะเดินทางมาซื้อเครื่องรางรูปเปลือกหอย และเขียนคำอธิษฐานลงไป จากนั้นจึงนำไปผูกกับต้นไม้ ว่ากันว่าจะสมหวังในความรัก

สายพันธุ์ต้นซากุระบนภูเขาชิอุเดะยามะ (Shiudeyama)
-โซเมอิอิ โยชิโนะ (Somei Yoshino)
-ยามะซากุระ (Yamazakura)
-โยโคะซากุระ (Yokozakura)

ช่วงเวลาชมซากุระที่ดีที่สุดบนภูเขาชิอุเดะยามะ (Shiudeyama)
ปลายเดือนมีนาคม - กลางเดือนเมษายน (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปี)

 

 

ที่อยู่ Mt. Shiudeyama
Takumachotsumu, Mitoyo, Kagawa
การเดินทาง จากสถานี Takamatsu โดยสารรถไฟ LTD. EXP ISHIZUCHI ลงสถานี Takuma ใช้เวลา 40 นาที จากนั้นโดยสารรถบัส Mitoyo Community Bus ลงป้าย Ohama ใช้เวลา 30 นาที และโดยสารรถบัส ลงป้าย Mt.Shiude ใช้เวลา 5 นาที
*สามารถซื้อตั๋วรถชัทเทิลบัสจาก Ohama Fishing Port เพื่อนั่งไปยังจุดชมวิวด้านบน

หรือจากสถานี Takamatsu ขับรถยนต์ ไปยังจุดหมาย ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที
เวลาทำการ จุดชมวิวเปิดตลอด 24 ชั่วโมง
Mt. Shiude Archaeological Museum and Café : 9:30-17:00น.
วันหยุด Mt. Shiude Archaeological Museum and Café : หยุดทุกวันอังคาร
ค่าใช้จ่าย ไม่มี
เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://www.my-kagawa.jp/point/132/
https://www.mitoyo-kanko.com/mt-shiude/
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://www.mitoyo-kanko.com/mt-shiude-eng/
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
https://www.jnto.or.th/spring2020/kagawa.html

 

เพจที่เกี่ยวข้อง

ค้นหา

Categories

Archives

Please Choose Your Language

Browse the JNTO site in one of multiple languages