HOME Back

Use the

Planning a Trip to Japan?

Share your travel photos with us by hashtagging your images with #visitjapanjp

เที่ยวเกาะแก่ง มุมมองใหม่ ที่ญี่ปุ่น

 

อย่างที่รู้กันดีว่าประเทศญี่ปุ่นมีลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่มีความยาวเหนือจรดใต้ ล้อมรอบไปด้วยทะเลทั้งสี่ด้าน และโดยรอบยังมีเกาะเล็กเกาะน้อยที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์น่าค้นหา

ความสมบูรณ์ของธรรมชาติที่ผ่านไปตามกาลเวลา ทำให้เกิดเกาะแก่งสวยงาม จนเป็นเอกลักษณ์แห่งหนึ่งของประเทศ นักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่น และทั่วโลก เองจึงนิยมแวะมาเยี่ยมชม และมีทริปทัวร์หลายแบบให้เลือกใช้บริการ ทั้งการนั่งเรือชมอ่าว

การเดินทางระหว่างเกาะต่าง ๆ ในญี่ปุ่นค่อนข้างง่าย เพราะโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของญี่ปุ่นนั้นดีเยี่ยม สามารถเดินทางไปทั่วทุกมุมของเกาะต่าง ๆ ได้โดยรถไฟ รถโดยสาร เรือข้ามฟาก และเครื่องบิน

บทความนี้ได้รวบรวมเกาะแก่งสวย ๆ น่าประทับใจ พร้อมทั้งแนะนำจุดถ่ายรูป กิจกรรมยอดนิยม และร้านอาหารที่ควรเช็คอินไว้ให้แล้ว

 

จุดชมวิวเขาโอทะคะโมริ (Mount Otakamori Observatory), มิยากิ (Miyagi)

 

จุดชมวิวเขาโอทะคะโมริ (Mount Otakamori Observatory) ตั้งอยู่ในเกาะมิยะโตะ (Miyato Island) เกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay) จังหวัดมิยากิ (Miyagi) ตั้งอยู่บนความสูง 105.8 เมตร จากระดับน้ำทะเล สามารถมองเห็นเกาะต่าง ๆ ในบริเวณได้อ่าวมากถึง 260 เกาะ เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวยอดนิยมของมัตสึชิมะ (Matsushima) ที่ใคร ๆ ต่างก็อยากมาเที่ยวสักครั้ง

 

จุดถ่ายรูปยอดนิยม

จุดชมวิวเขาโอทะคะโมริ (Mount Otakamori Observatory) เป็นที่รู้จักกันดีของช่างภาพหรือแม้แต่นักท่องเที่ยวที่อยากเก็บภาพของอ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay) โดยจุดถ่ายภาพบริเวณระเบียงของจุดชมวิวนั้นสามารถถ่ายภาพมุมที่สวยงามที่สุดของที่นี่ โดยเฉพาะช่วงอาทิตย์ตกที่จะสามารถมองเห็นดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าสาดแสงสีทองในยามเย็นสะท้อนผิวน้ำ และเหล่าเกาะต่าง ๆ ก็จะกลายเป็นเงาดำตัดกับแสงสีทองของดวงอาทิตย์ จนกลายเป็นภาพที่พิเศษกว่าหลาย ๆ คนอย่างแน่นอน

 

กิจกรรมพิเศษ

 

นอกจากการชมวิวอ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay) จากมุมสูงแล้ว การล่องเรือชมอ่าว และเกาะแก่งต่าง ๆ นั้นก็เป็นอีกกิจกรรมยอดนิยม โดยเรือจะล่องผ่านเกาะเล็กเกาะน้อยต่าง ๆ หลายสิบเกาะ โดยแต่ละเกาะจะมีชื่อและมีรูปทรงที่ไม่เหมือนกัน โดยเรือจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 25-60 นาที (ขึ้นอยู่กับคอร์ส) โดยเราสามารถรับลมชมวิวได้ที่บริเวณดาดฟ้าเรือ หรือจะนั่งชมจากในห้องผ่านกระจกก็ได้เช่นกัน

รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.matsushima.or.jp/en/course/

 

เมนูท้องถิ่นแนะนำ

เมื่อมาเที่ยวในมัตสึชิมะ (Matsushima) ไม่ควรพลาดกับเมนูประเภทอาหารทะเลต่าง ๆ เช่น ปลาทูน่า หรือหอยนางรม ซึ่งเป็นแหล่งจับ และเพาะเลี้ยงอันดับต้น ๆ ของประเทศ โดยสามารถหาทานได้ง่าย ๆ ในตลาดปลาอย่างที่ ตลาดปลาชิโอกะมะ (Shiogama Fish Market) ที่นอกจากจะสามารถเลือกซื้อเลือกทานปลาสด ๆ จากทะเลแล้ว ยังสามารถเข้าชมการประมูลปลาได้อีกด้วย

รายละเอียดเพิ่มเติม https://sendai-experience.com/en/ex/939

 

 

ที่อยู่ Mt. Otakamori
Otakamori Miyato, Higashimatsushima, Miyagi
การเดินทาง

จากสถานี Nobiru โดยสารรถแท็กซี่ ใช้เวลา 10 นาที แล้วเดินต่ออีก 15 นาที

เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://www.matsushima-kanko.com/miryoku/shima/shidaikan.php
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://www.tohokuandtokyo.org/spot_196/
https://www.mustlovejapan.com/subject/mt_otakamori/
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
https://www.japan.travel/th/spot/2127/

 

มิคะตะโงะโกะ (Mikatagoko), ฟุคุอิ (Fukui)

 

มิคะตะโงะโกะ (Mikatagoko) หรือ “ทะเลสาบทั้ง 5 แห่งมิคะตะ (Mikata Five Lakes)” เป็นชื่อเรียกรวมของทะเลสาบทั้ง 5 ในจังหวัดฟุคุอิ (Fukui) ได้แก่ ทะเลสาบมิคะตะ (Lake Mikata) ทะเลสาบซุยเง็ทสึ (Lake Suigetsu) ทะเลสาบซุงะ (Lake Suga) ทะเลสาบคุงุชิ (Lake Kugushi) และทะเลสาบฮิรุงะ (Lake Hiruga) ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติอ่าววาคะสะ (Wakasa Bay Quasi-National Park) มีสวนสาธารณะยอดเขาเรนโบว์ไลน์ (Rainbow Line Summit Park) ตัดผ่านภูเขารอบทะเลสาบทั้ง 5 รวมระยะทางยาวกว่า 11 กิโลเมตร

 

จุดถ่ายรูปยอดนิยม

การเดินทางไปยังจุดชมวิวจะต้องโดยสารเคเบิลคาร์ที่อยู่บริเวณลานจอดรถขึ้นไปด้านบน ใช้เวลาประมาณ 2 นาที ก็จะสามารถดื่มด่ำกับทิวทัศน์ของทะเลสาบทั้ง 5 แห่งมิคะตะ (Mikata Five Lakes) ได้ในมุมสูง เฉดสีของผิวน้ำในทะเลสาบแต่ละแห่งจะแตกต่างกันไปตามระดับความลึก และแร่ธาตุต่าง ๆ ในน้ำ ทำให้เกิดเป็นภาพที่น่าทึ่ง

 

กิจกรรมพิเศษ

 

ภายในพื้นที่แห่งนี้ มีการจัดมุมนั่งเล่นชมวิว คาเฟ่ บ่ออนเซ็นแช่เท้า และสวนดอกกุหลาบที่จะบานสะพรั่งด้วยกัน 2 ช่วงคือ ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนมิถุนายน และกลางเดือนตุลาคม ถึงกลางเดือนพฤศจิกายน

บริเวณใกล้เคียงยังมีศาลเจ้าวะโก (Wago Shrine) ซึ่งขึ้นชื่อด้านการขอพรด้านความรัก และครอบครัว ใครที่มาแล้ว แนะนำให้แวะไปขอพรที่หอเท็งงุ (Tengudo) ด้วยการเขียนคำอธิษฐานลงไปบนจานแล้วโยนลงไปยังทะเลสาบ

รายละเอียดเพิ่มเติม https://mikatagoko.com/terrace/

 

ร้านอาหารบริเวณใกล้เคียง

ใกล้กันกับ สวนสาธารณะยอดเขาเรนโบว์ไลน์ (Rainbow Line Summit Park) จะเป็นที่ตั้งของ Rainbow Cafe คาเฟ่ห้องกระจก บรรยากาศเปิดโล่ง มีโซนเทอเรสที่มองเห็นวิวมิคะตะโงะโกะ (Mikatagoko) และทะเลญี่ปุ่น Japan (East Sea) ได้แบบไม่มีอะไรมากั้น เสิร์ฟอาหารหลากหลายเมนู อาทิ อาหารอิตาเลี่ยน ข้าวหน้าเนื้อสเต๊ก พิซซ่า แกงกะหรี่ แซนวิช ซอฟท์ครีม เป็นต้น

รายละเอียดเพิ่มเติม https://mikatagoko.com/shop/

 

 

ที่อยู่ Rainbow Line Summit Park
6 75-2 Hiruga, Mihama, Mikata District, Fukui
การเดินทาง

จากสถานี Mihama โดยสารรถแท็กซี่ ใช้เวลา 15 นาทีก็ถึงสถานีเคเบิลคาร์ทางขึ้นสวน Rainbow Line Summit Park

เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
http://www.mikatagoko.com/
https://www.fuku-e.com/spot/detail_1330.html
https://wakasabay.jp/list/detail?genre=spot&id=5d6f6b5f7765619cb2480300
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
http://www.mikatagoko.com/eng/
https://enjoy.pref.fukui.lg.jp/en/spot/spot-7/
https://go-centraljapan.jp/route/mountain/en/11.html
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
-

 

จุดชมวิวโยโกยามะ (Yokoyama Observatory), มิเอะ (Mie)

 

จุดชมวิวโยโกยามะ (Yokoyama Observation Deck) เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติอิเสะชิมะ (Ise Shima) จังหวัดมิเอะ (Mie) สามารถมองเห็นวิวพาโนรามาอันงดงามของเกาะแก่งต่าง ๆ กว่า 60 เกาะที่ยื่นออกไปในอ่าวอาโกะ (Ago Bay) ได้รอบทิศ ซึ่งเป็นอ่าวที่มีชื่อเสียงในด้านการเพาะหอยมุก อีกทั้งยังได้รับหนึ่งดาวจากมิชลิน กรีน ไกด์ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติไว้อย่างดีเยี่ยมควรค่าแก่การมาเยี่ยมชม

 

จุดถ่ายรูปยอดนิยม

จุดชมวิวโยโกยามะ (Yokoyama Observation Deck) ตั้งอยู่บนภูเขาโยโกยามะ (Mt. Yokoyama) ที่ระดับความสูง 203 เมตร มีทางลาดไม้ยาวจากที่จอดรถ ไปยังจุดชมวิว สามารถเดินไปได้โดยใช้เวลา 10-15 นาที หรือหาเฃ่าจักยานได้ที่ หรือ Yokoyama Visitor Center

โดยจุดถ่ายภาพสวย ๆ จะอยู่ที่บริเวณระเบียงไม้ Yokoyama Sky Cafe Terrace มองเห็นสีเขียวของป่าโดยรอบกลมกลืนกับสีฟ้าของมหาสมุทร และเรือที่กำลังแล่นลัดไปตามเกาะน้อยใหญ่ ไล่เรียงกันไปจนสุดลูกหูลูกตา โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตกดินเป็นช่วงเวลาอันน่าประทับใจ หรือถ้ามาในช่วงฤดูกาลทั้งซากุระ และใบไม้เปลี่ยนสี สีสันของธรรมชาติจะขับให้บรรยากาศดูสวยกว่าที่เคย

หากเดินลัดเลาะไปตามเส้นทางไม่ไกล ก็จะพบกับ Komorebi Terrace เป็นระเบียงไม้พร้อมที่นั่ง ที่สามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ธรรมชาติขณะนั่งอยู่ใต้ร่มไม้ และจุดชมวิวอื่น ๆ อาทิ Soyokaze Terrace, Miharashi View Point ที่ตั้งอยู่ตามสันเขา

 

กิจกรรมพิเศษ

 

ทุกวันที่ 10 หรือ 20 ของทุกเดือน จะมีไกด์ภาษาอังกฤษของคนท้องถิ่นพาสำรวจเส้นทางธรรมชาติ และสอนวัฒนธรรมอื่น ๆ ให้ด้วย และที่ Yokoyama Visitor Center ยังมีจัดแสดงข้อมูลต่าง ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติอิเสะชิมะ (Ise Shima) นิทรรศการภาพถ่าย และยังสามารถหาทำกิจกรรม งานคราฟท์ได้อีกเช่นกัน

รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.iseshima-kanko.jp/en/see-and-do/1249

 

ร้านอาหารบริเวณใกล้เคียง

ร้านกาแฟมิราดอร์ ชิมะ (Mirador Shima) เป็นคาเฟ่เล็ก ๆ ที่สามารถมานั่งพักเอาแรง โดยร้านจะอยู่ติดบริเวณระเบียงไม้ Yokoyama Sky Cafe Terrace ตกแต่งให้โปร่งโล่ง และมีกำแพงกระจกที่มองเห็นวิวอ่าวอาโกะ (Ago Bay) อย่างสวยงาม มีขนมเบเกอรี่หลากหลายชนิด อาทิ เค้ก พาย สโคน ซอฟท์ครีม แซนวิช เป็นต้น

ใครที่อยากจิบกาแฟ พร้อมเสพบรรยากาศธรรมชาติรายล้อม ขอแนะนำให้ขึ้นไปชั้นสองของคาเฟ่ เพราะจะเป็นโซนระเบียงเอาท์ดอร์

รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.kanko-shima.com/en/purpose/1759/

 

 

ที่อยู่ Yokoyama Observatory Deck
875-20 Agocho Ugata, Shima, Mie
การเดินทาง

จากสถานี Ugata โดยสารรถแท็กซี่ ใช้เวลา 10 นาที

เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://www.kankomie.or.jp/spot/2307
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://visitmie-japan.travel/en/report/detail_38.html
https://www.iseshima-kanko.jp/en/see-and-do/1249
https://www.kanko-shima.com/en/purpose/965/
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
https://visitmie-japan.travel/th/spot/detail_2307.html

 

จุดชมวิวเขามิเซน (Mount Misen Observatory), ฮิโรชิม่า (Hiroshima)

 

จุดชมวิวเขามิเซน (Mount Misen Observatory) ตั้งอยู่บนเกาะอิทสึคุชิมะ (Itsukushima Island) หรือมิยะจิมะ (Miyajima) ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกอย่างศาลเจ้าอิสึคุชิมะ (Itskushima Shrine) ในจังหวัดฮิโรชิม่า (Hiroshima)

จุดชมวิวเขามิเซน (Mount Misen Observatory) ตั้งอยู่บนความสูง 535 เมตรจากระดับน้ำทะเล สามารถมองเห็นวิวโดยรอบของทะเลในเซะโตะ (Seto Inland Sea) ได้อย่างชัดเจน สามารถเดินทางขึ้นไปได้ทั้งการขึ้นกระเช้าไฟฟ้าหรือเดินขึ้นประมาณ 2 ชั่วโมง

 

จุดถ่ายรูปยอดนิยม

บริเวณจุดชมวิวเขามิเซน (Mount Misen Observatory) ถือเป็นจุดถ่ายภาพที่สวยงามที่สามารถเก็บภาพสวย ๆ ของเกาะต่าง ๆ และเกาะใหญ่บริเวณรอบทะเลในเซะโตะ (Seto Inland Sea) ได้ตลอดทั้งวัน หรือจุดชมวิวใกล้ ๆ กันอย่าง จุดชมวิวชิชิอิวะ (Shishiiwa Observatory) นั้นก็ยังเป็นอีกมุมนึงที่สวยงามเช่นกัน อีกความพิเศษของที่นี่คือรูปร่างของหินต่าง ๆ ที่มีความแปลกตา นักท่องเที่ยวหลายคนก็มักจะถ่ายภาพหินต่าง ๆ นี้ไว้ด้วยเช่นกัน

 

กิจกรรมพิเศษ

©️一般社団法人 広島県観光連盟

 

การขึ้นไปบริเวณจุดชมวิวเขามิเซน (Mount Misen Observatory) สามารถทำได้โดยการเดินหรือขึ้นกระเช้าไฟฟ้า หากเดินขึ้นเขาก็จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งถึง 2 ชั่วโมง โดยมี 3 เส้นทางให้เลือก เช่น เส้นทางไดโชอิน (Daisho-in Course) เส้นทางโมมิจิดะนิ (Momijidani Course) และเส้นทางโอโมะโตะ (Otomo Course) โดยเส้นทางไดโชอิน (Daisho-in Course) จะมีเส้นทางเดินที่ง่ายและวิวสวยที่สุด

หรือใครที่เลือกเดินทางด้วยกระเช้าลอยฟ้า ซึ่งก็จะสะดวกสบายและยังได้เห็นวิวทะเลในเซะโตะ (Seto Inland Sea) ได้ตลอดเส้นทางโดยมีค่าใช้จ่าย ผู้ใหญ่ 1,000 เยน (ไป-กลับ) หรือ 1,100 เยน (เที่ยวเดียว) เด็ก 1,000 เยน (ไป-กลับ) หรือ 550 เยน (เที่ยวเดียว) หากต้องการไปที่จุดชมวิวเขามิเซน (Mount Misen Observatory) ต้องเดินต่ออีกประมาณ 20 นาที

รายละเอียดเพิ่มเติม https://miyajima-ropeway.info/english/

 

เมนูท้องถิ่นแนะนำ

อาหารที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวที่มิยะจิมะ (Miyajima) เลยก็คือ เมนูจาก “หอยนางรม” เนื่องจากบริเวณทะเลโดยรอบนั้นเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงหอยนางรมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น นอกจากความสดของหอยนางรมแล้ว ขนาดของหอยยังใหญ่เนื้อแน่น นิยมนำมาทำเมนูหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการทานสด หอยนางรมย่างถ่าน หอยนางรมทอด ข้าวหน้าหอยนางรม อูด้งหอยนางรม และเมนูอื่น ๆ อีกมากมาย โดยเมนูหอยนางรมนั้นสามารถหาทานได้จากหลาย ๆ ร้าน เช่น ร้าน Yakigaki no Hayashi ซึ่งนำเมนูหอยนางรมมาทำเมนูที่หลากหลายเลยทีเดียว

รายละเอียดเพิ่มเติม https://dive-hiroshima.com/en/feature/kaki/

 

 

ที่อยู่ Mount Misen Observatory
Miyajimacho, Hatsukaichi, Hiroshima
การเดินทาง

จากสถานี Hiroden-Miyajimaguchi โดยสารเรือ Miyajima Ferry ใช้เวลา 10 นาที เดินไปสถานี Ropeway Momijidani ใช้เวลา 30 นาที
จากสถานี Momijidani โดยสาร Ropeway ลงสถานี Shishiiwa ใช้เวลา 15 นาที เดินต่ออีก 20 นาที

เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://miyajima-ropeway.info
https://www.miyajima.or.jp/new/blog/ropeway2hour/
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://miyajima-ropeway.info/english/miraculous-scenery/
https://dive-hiroshima.com/en/explore/1467/
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
https://www.japan.travel/th/spot/884/

 

หมู่เกาะคุจูคุชิมะ (Kujukushima), จังหวัดนางาซากิ (Nagasaki)

 

หมู่เกาะคุจูคุชิมะ (Kujukushima) เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติไซไค (Saikai National) หากแปลตรงตัวจะหมายถึง 99 เกาะ แต่ในความจริงแล้วนั้นมีจำนวนเกาน้อยใหญ่กว่า 208 เกาะ เรียงรายกินพื้นที่จากเมืองซาเซโบะ (Sasebo) ไปจรดเมืองฮิระโดะ (Hirado) จังหวัดนางาซากิ (Nagasaki)

 

จุดถ่ายรูปยอดนิยม

จุดชมวิวเทงไคโฮ (Tenkaiho observatory) ของเมืองซาเซโบะ (Sasebo) มีชื่อเสียงอย่างมาก เพราะสามารถชมทิวทัศน์แบบพาโนรามาของหมู่เกาะคุจูคุชิมะ (Kujukushima) ที่ประกอบด้วยเกาะขนาดเล็ก และใหญ่มากมายถึง 208 เกาะ ได้แบบเต็มตา และในช่วงพระอาทิตย์ตกดินที่แสงส้มสะท้อนกับสีฟ้าของน้ำทะเล ช่วยยกระดับความสวยของที่นี่ขึ้นไปอีก

 

กิจกรรมพิเศษ

 

ที่นี่จะมีเรือนำเที่ยว 2 แบบคือ Pearl Queen เป็นเรือสำราญหรูหรา และเรือโจรสลัด Mirai ให้ความรู้สึกสนุกสนานราวกับได้ผจญภัยท่ามกลางความงามหมู่เกาะโดยรอบ การนั่งเรือเที่ยวรอบหมู่เกาะคุจูคุชิมะจะใช้เวลาประมาณ 50 นาที แล่นผ่านส่วนเว้าขอหมู่เกาะ และบางจุดจะได้ชมกันแบบระยะใกล้ สำหรับใครต้องการความส่วนตัวก็เลือกนั่งเรือยอร์ช หรือพายเรือคายัคออกท่องทะเลได้เช่นกัน

ไม่ไกลจากจุดชมวิวเทงไคโฮ (Tenkaiho observatory) ยังสามารถแวะเวียนไปชมทุ่งดอกดอกนาโนะฮานะ สีเหลืองอร่ามที่บานสะพรั่งเป็นพื้นที่กว้างในช่วงกลางเดือนมีนาคม-เมษายน เรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยวอย่างมาก

รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.pearlsea.jp/

 

เมนูท้องถิ่นแนะนำ

ซาเซโบะ (Sasebo) เป็นเมืองท่าที่มีฐานทัพอเมริกาตั้งอยู่ จึงมีชาวต่างชาติอาศัยอยู่ในเมืองนี้เป็นจำนวนมาก และหยิบยกวัฒนธรรมอย่าง “แฮมเบอร์เกอร์” เข้ามาเผยแพร่ตั้งแต่ปีค.ศ. 1950 แฮมเบอร์เกอร์จึงกลายเป็นเมนูขายดี ถึงกระทั่งมาสคอตประจำเมืองก็ยังเป็นแฮมเบอร์เกอร์

เอกลักษณ์ของเบอร์เกอร์ที่นี่คือ ไซส์ที่ใหญ่ และไส้ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อแพตตี้ที่ทำมาจากเนื้อวัว เบค่อนย่างหอม ๆ ไก่ทอด ไข่ดาว รวมถึงบางร้านพิถีพิถันในการเลือกวัตถุดิบโฮมเมด ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของขนมปังนุ่ม ซอส มายองเนส หรือมัสตาร์ด สามารถหาทานได้ที่ร้าน LOG KIT, Big Man, Misa rosso เป็นต้น

รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.sasebo99.com/gourmet/burger

 

 

ที่อยู่ Tenkaiho observatory
399 Shimofunakoshicho, Sasebo, Nagasaki
การเดินทาง

จากสถานี Sasebo โดยสารรถบัส Saihi Bus โดยขึ้นที่ป้ายหมายเลข 5 ไปลงที่ป้าย Tenkaiho-Iriguchi ใช้เวลาประมาณ 45 นาที แล้วเดินต่ออีก 5 นาที

เว็บไซต์
(ภาษาญี่ปุ่น)
https://www.sasebo99.com/downloads/media/2112.pdf
เว็บไซต์
(ภาษาอังกฤษ)
https://www.discover-nagasaki.com/en/sightseeing/274
เว็บไซต์
(ภาษาไทย)
https://www.japan.travel/th/spot/728/

 

เพจที่เกี่ยวข้อง

ค้นหา

Categories

Archives

Please Choose Your Language

Browse the JNTO site in one of multiple languages