ตะลอนทุ่งดอกไม้ สัมผัสบรรยากาศหน้าร้อนที่ฮอกไกโดกัน

24 มิถุนายน 2024

JNTO - Japan National Tourism Organization

ฤดูร้อนของฮอกไกโดตรงกับเดือน มิถุนายน กรกฎาคม สิงหาคม ถือเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว เพราะช่วงเวลานี้เต็มไปด้วยธรรมชาติอันงดงาม เช่น ดอกไม้หลากสีบานสะพรั่งในทุ่งอันกว้างใหญ่ ในช่วงฤดูร้อน ท้องฟ้ามักแจ่มใส ทำให้นักท่องเที่ยวสนุกกับกิจกรรมมากมายที่ทำในช่วงฤดูหนาวไม่ได้ มีทั้งอุทยานแห่งชาติที่เป็นแหล่งมรดกโลก สวนดอกไม้อันงดงาม สัมผัสธรรมชาติ ผจญภัยในป่า เยี่ยมชมสวนสัตว์ หรือจะเดินเล่นสบายๆ ในเมือง

ฮอกไกโด เป็นเกาะใหญ่อันดับสองของญี่ปุ่นรองจากเกาะฮอนชู

ฮอกไกโด (Hokkaido) ตั้งอยู่ตำแหน่งเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น ที่นี้เต็มไปด้วยทุ่งหญ้า ทุ่งนา ป่า ภูเขา ทะเลสาบ แม่น้ำ ปล่องภูเขาไฟ และล้อมไปด้วยทะเล จึงเป็นดินแดนที่มีทัศนียภาพงดงาม และในช่วงฤดูร้อนอากาศจะร้อนชื้น อุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 30-35 องศาเซลเซียส ท้องฟ้าโปร่งใสและดอกไม้บานเหมาะกับกิจกรรมฤดูร้อน

กิจกรรมหน้าร้อนในฮอกไกโด

• เที่ยวชมสวนดอกไม้ต่างๆ                  • ปั่นจักรยาน
• เก็บผลไม้ตามฤดูกาล                    • เดินป่า,ขึ้นเขาชมวิว
• เทศกาลในฤดูร้อน                           • ตกปลา
• นั่งรถไฟสายพิเศษเฉพาะช่วงฤดูร้อน • ล่องแก่ง
• เที่ยวชมอุทยานแห่งชาติ                    • พายเรือแคนู
• ล่องเรือทะเลสาบ                               • ขี่ม้า
• เที่ยวน้ำตก                                  • ดูปลาวาฬ นก
• กิจกรรมในฟาร์มสเตย์                 • อื่นๆ

ตารางเวลาดอกไม้บาน และผลไม้ตามฤดูกาล

*อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงจากตารางเวลาดอกไม้บานและผลไม้ตามฤดูกาล ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของแต่ละปี*

ครั้งนี้จะแนะนำทุ่งดอกไม้หลากสี สถานที่ธรรมชาติที่สามารถมาพักผ่อนในช่วงฤดูร้อน พร้อมกินของอร่อยที่ฮอกไกโด

โทมิตะฟาร์ม (Tomita Farm)

โทมิตะฟาร์ม (Tomita Farm) เป็นฟาร์มในเมืองนากะฟุราโนะ (NakaFurano) จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) ฟาร์มลาเวนเดอร์ยอดนิยมที่มีทุ่งดอกไม้หลากสีสันนานาสายพันธุ์ เป็นจุดมุ่งหมายหลักของนักท่องเที่ยวที่ต้องการเที่ยวชมความงามของทุ่งดอกไม้ สัญลักษณ์ของที่นี่คือทุ่งดอกไม้ 7 สีหรือทุ่งอิโรโดริ (Irodori Field) ที่ประกอบด้วยดอกไม้สีสันสวยสดงดงาม ทั้งสีม่วง สีขาว สีแดง สีส้ม สีชมพู ฯลฯ ดอกไม้จะบานออกดอกเต็มที่ประมาณกลางเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม

นอกจากเยี่ยมชมความงามของทุ่งดอกไม้แล้ว มีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ประยุกต์จากดอกไม้ในฟาร์มก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น เทียน สบู่ น้ำหอม และอื่นๆอีกมายมาย และอาหารที่เด่นดังต้องลองชิม เป็นจำพวกขนมหวานต่างๆ เช่น ซอฟต์ครีมลาเวนเดอร์ ซอฟต์ครีมเมลอน ขนมเค้ก และเครื่องดื่ม เป็นต้น

ที่อยู่	Tomita Farm Kisenkita, Nakafurano, Sorachi, Hokkaido
การเดินทาง	จากสถานี Lavender-Farm เดินต่อใช้เวลา 10 นาที
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)	https://www.farm-tomita.co.jp/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ)	https://www.farm-tomita.co.jp/en/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)	https://www.japan.travel/th/spot/546/

สวนชิกิไซโนะโอกะ (Shikisai no Oka)

สวนชิกิไซโนะโอกะ (Shikisai no Oka) เป็นฟาร์มในเมืองคามิคาวะ (Kamikawa) จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) หรือมีอีกชื่อที่เป็นทางการว่า Panoramic Flower Gardens Shikisai-no-oka เป็นสวนดอกไม้ขนาดใหญ่มีพื้นที่มากกว่า 17 ไร่ มีทุ่งดอกไม้สีสันสดใสกว้างสุดลูกหูลูกตา และมีดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ เปิดทำการตั้งแต่ 08.40 น. ถึง 17.40 น. ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมทุ่งดอกไม้หรือใช้บริการรถนำเที่ยว อย่างรถลากโนรกโกะ (Norokko) ที่ลากโดยรถแทรกเตอร์ หรือขับรถกอล์ฟ 1 ที่นั่ง หรือรถเอทีวี (ATV) 4 ที่นั่ง ตามอัธยาศัย โดยต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม

นอกจากเยี่ยมชมความงามของทุ่งดอกไม้แล้ว มีร้านขายของที่ระลึก ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร และยังมีร้านอาหารที่เสิร์ฟเมนูออร์แกนิกจากผลผลิตในสวน เมนูที่ไม่ควรพลาด อาทิเช่น ซุปแกงกะหรี่ ชุดอาหารเจงกีสข่าน โคโรเกะทอด ซอฟท์เสิร์ฟไอศกรีม (นม/ลาเวนเดอร์/ลาเวนเดอร์มิกซ์/เมลอน) เมล่อนหิมะ เป็นต้น อีกจุดที่ควรแวะไปคือ โซนฟาร์มอัลปาก้า (Alpaca) ซึ่งเป็นมาสคอตยอดนิยมในหมู่เด็กๆ สามารถถ่ายภาพและให้อาหารน้องอัลปาก้าได้อีกด้วย

ที่อยู่	Shikisai no Oka Shinsei Dai 3, Biei-cho, Kamikawa-gun, Hokkaido
การเดินทาง	จากสถานี Bibaushi เดินต่อใช้เวลา 25 นาที
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)	https://www.shikisainooka.jp/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ)	https://www.shikisainooka.jp/en/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)	https://www.japan.travel/th/spot/1876/

สวนยูริกาฮาระ (Yurigahara Park)

สวนยูริกาฮาระ (Yurigahara Park) เป็นสวนสาธรณะในเมืองซับโปโร (Sapporo) จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่กว่า 25.4 เฮกเตอร์ และมีดอกไม้กว่า 6,400 พันธุ์ และแปลงดอกไม้แตกต่างไปตามแต่ละฤดูกาล มีทั้งดอกลิลลี่ ดอกกุหลาบ ดอกรักเร่ ทิวลิป และสวนหินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นต้น โดยไฮไลท์ของสวนยูริกาฮาระ (Yurigahara Park) คือ ดอกยูริ (ดอกลิลลี่) รวมกันอยู่มากมายกว่า 100 สายพันธุ์ที่ถูกรวบรวมมาจากทั่วโลกจนเป็นชื่อสวนแห่งนี้ โดยดอกยูริ (ดอกลิลลี่) จะบานออกดอกเต็มที่ประมาณ เดือนกรกฎาคม ทั้งนี้ช่วงฤดูกาลดอกไม้บานนักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการ Lily Train ที่ให้บริการภายในสวยโดยมีระยะทาง 1.2 กิโลเมตร

นอกจากเยี่ยมชมความงามของทุ่งดอกไม้แล้ว ภายในสวยมีทั้งสนามกอล์ฟ-เกทบอล สนามเด็กเล่น ลานสนามหญ้ากว้าง เป็นสถานที่สามารถใช้เวลามาพักกายพักใจกับบรรยากาศที่ร่มรืนเย็นสบายและยังในร้านอาหารก็มีเมนูพิเศษโดยมีวัตถุดิบเป็นดอกลิลลี่เป็นส่วนประกอบให้ลองเลือกชิมได้อีกด้วย

ที่อยู่	Yurigahara Park 210 Yurigaharakoen, Kita Ward, Sapporo, Hokkaido
การเดินทาง	จากสถานี Yurigahara เดินต่อใช้เวลา 6 นาที
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)	https://yuri-park.jp/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ)	https://yuri-park.jp/english/overview/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)	https://www.sapporo.travel/th/spot/facility/yurigahara_park/

ถนนสายโอโรรอน (Ororon Line)

ถนนสายโอโรรอน (Ororon Line) ภาพทิวทัศน์ทุ่งดอกไม้ริมทางในช่วงฤดูร้อนบริเวณบรรยากาศระหว่างทางแนวถนนสายโอโรรอน (Ororon Line) ที่มีฉากหลังเป็นของภูเขาริชิริ (Mt.Rishiri) ในจังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) ถนนสายโอโรรอนนี้มีชื่อเสียงในด้านทิวทัศน์แนวชายฝั่งที่น่าทึ่งที่ทอดยาว โดยเส้นทางนี้เหมาะแก่การขับรถเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ธรรมชาติ ถนนสายโอโรรอนโดยเริ่มจากเมืองอิชิคาริ (Ishikari) ไปยังเมืองเทชิโอะ (Teshio) ซึ่งมีระยะทางประมาณสองร้อยกว่ากิโลเมตร

ถนนสายโอโรรอนประกอบไปด้วยเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 231 ระหว่าง เมืองอิชิคาริ (Ishikari) - เมืองรุโมอิ (Rumoi) และเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 232 ระหว่าง เมืองรุโมอิ (Rumoi) – เมืองเทชิโอะ (Teshio) และถ้าเพิ่มจากแนวชายฝั่งเส้นถนนที่ยังคงมีความสวยงามไม่แพ้กัน คือ เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 106 ระหว่าง เมืองเทชิโอะ (Teshio) – เมืองวักกะไน (Wakanai)

นอกจากนี้ ถ้าอยากจะค่อยๆ ใช้เวลาดื่มด่ำธรรมชาติ แนะนำการปั่นจักรยานสายโอโรรอน ถนนที่ทอดยาวไปตามทะเลญี่ปุ่น ประกอบด้วยเส้นทาง 231 และ 232 การปั่นจักรยานจะใช้เวลานานแค่ไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล โดยแนะนำให้ปั่นจักรยานในช่วงฤดูร้อน ซึ่งมีสภาพอากาศที่เย็นสบาย อย่าลืมแวะและดื่มด่ำอาหารทะเลท้องถิ่นเพื่อเติมพลังสำหรับการเดินทางที่น่าตื่นเต้นนี้

ที่อยู่	Ororon Line Hokkaido, Japan
การเดินทาง	จากสถานี Otaru / สถานี Ishikari / สถานี wakainai สามารถขับรถตามเส้นทาง Ororon Line ดูแผนที่เส้นทาง
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)	https://sarobetsu.com/flower-best-summer/ https://www.hkd.mlit.go.jp/ky/kn/dou_kei/ud49g7000000jpz8-att/09a.pdf https://www.visit-hokkaido.jp/feature/ipponmichi
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ)	https://hokkaido.env.go.jp/nature/mat/park/en/rishiri/p12.pdf
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)	-

ภูเขาโยเท (Mt.Yotei)

ภูเขาโยเทอิ (Mt. Yotei) บนเกาะฮอกไกโด (Hokkaido) เป็นภูเขาไฟแบบแบ่งชั้น มีความสูง 1,898 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ไม่ว่าจะมาฤดูไหนภูเขาโยเทอิก็โดดเด่นสวยงามและยังได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 ภูเขาที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น และยังเป็นภูเขาไฟอีกแห่งที่มีหน้าตาละม้ายคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิเป็นอย่างมาก จนได้ฉายาว่า “ฟูจิซังแห่งฮอกไกโด” ในช่วงฤดูร้อนโดยรอบเชิงเขายิ่ง มีจุดท่องเที่ยวถ่ายรูป ที่เที่ยวตามธรรมชาติ พร้อมกิจกรรมให้สนุกมากมาย อาทิเช่น ทุ่งดอกมันฝรั่ง ทุ่งดอกไม้ ฟาร์มนกกระจอก ฟาร์มวัว ส่องสัตว์ ขึ้นกระเช้า ขึ้นบอลลูน ปีนเขา ตั้งแคลมปิ้ง แช่อนเซ็น เป็นต้น

นอกจากนี้ ในช่วงฤดูร้อนถ้ามาเที่ยวแถวภูเขาโยเทอิ (Mt. Yotei) ขอแนะนำให้แวะทุ่งดอกทานตะวัน ที่ ทุ่งดอกทานตะวันที่ฮิกาชิยามะ ฮานะ โนะ โอคะ (Higashiyama Hana No Oka) ฤดูชมดอกทานตะวันของที่นี่จะเริ่มจากช่วงกลางเดือนกรกฎาคมไปจนถึงปลายสิงหาคม สามารถชมดอกทานตะวันสีเหลืองสดใสตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้า รวมทั้งมีแผงลอยร้านขายอาหาร เครื่องดื่ม ขนมอร่อยๆ เช่น ซอฟท์ครีม และผลิตภัณฑ์จากท้องถิ่น

ที่อยู่	Mount Yotei Kawanishi, Kyogoku, Abuta, Hokkaido
การเดินทาง	จากสถานี Niseko สามารถขับรถตามไปตามจุดต่างๆ
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)	https://www.town.kutchan.hokkaido.jp/tourism/yoteizan/
เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ)	https://www.niseko-ta.jp/en/ https://nisekotourism.com/ja/news/higashiyama-reservist-summer-experiences/ https://www.japan.travel/en/sports/hiking/courses/mt-yotei/
เว็บไซต์ (ภาษาไทย)	-

อาหารท้องถิ่นที่แสนธรรมดาแต่ควรลิ้นลอง

โทคะจิ บุตะด้ง (Tokachi Butadon)

โทคะจิ บุตะด้ง (Tokachi Butadon) หรือข้าวหน้าเนื้อหมูโทคะจิ เป็นเมนูขึ้นชื่อของฮอกไกโด (Hokkaido) เริ่มต้นขึ้นร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองใกล้กันนั้นอย่างเมืองโอะบิฮิโระ (Obihiro) ได้มีการนำเนื้อหมูจากโทคะจิ (Tokachi) มาย่างถ่านแล้วราดด้วยซอสปลาไหลโบะไปบนข้าวจนกลายเป็นเมนูโทคะจิ บุตะด้ง (Tokachi Butadon) จนได้รับความนิยม

โดยโทคะจิ บุตะด้ง (Tokachi Butadon) ประกอบไปด้วย เนื้อหมู ข้าว และซอสที่มีส่วนผสมของ สาเก ซอสถั่วเหลือง มิริน น้ำตาล กระเทียม และอาจจะโรยด้วยต้นหอมญี่ปุ่นหรือถั่วลันเตา ซึ่งเมนูนี้จะมีความหวาน มัน เค็ม และความหอมของเนื้อที่ผ่านการย่าง ทานพร้อมกับข้าวญี่ปุ่นร้อน ๆ

ไคเซ็นด้ง (Kaisendon)

ไคเซ็นด้ง (Kaisendon) หรือข้าวหน้าอาหารทะเลสด เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ได้รับความนิยมสำหรับคนชอบทานปลาดิบ โดยเฉพาะเมื่อไปเยือนเกาะฮอกไกโด (Hokkaido) ซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหาร และธรรมชาติ รวมถึงยังขึ้นชื่อเรื่องความสดอร่อยของอาหารทะเลเป็นอย่างมากเมนูนี้เป็นเมนูที่อัดแน่นไปด้วยอาหารทะเลสด ๆ หลากชนิดตกแต่งสวยงามอยู่บนข้าวสวยพร้อมทาน โดยอาหารทะเลแต่ชนิดนั้นจะไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับแต่ละร้านหรือฤดูของการทำประมง

โดยการทานไคเซ็นด้ง (Kaisendon) นั้นจะนิยมราดซอสโชยุไปบนปลาดิบแล้วทาน หรืออาจจะนำซอสโชยุผสมวาซาบิแล้วราดไปบนเนื้อปลาได้เช่นกัน โดยรสชาติจะให้ความรู้สึกเหมือนทานซาชิมิ ที่ทานไปพร้อมกับข้าวสวย

เนื้อย่างเจงกิสข่าน (Genghis Khan)

เนื้อย่างเจงกิสข่าน (Genghis Khan) ที่นับว่าเป็นอาหารแห่งจิตวิญญาณของชาวฮอกไกโดนั้น เป็นการนำเอาเนื้อแกะมาย่างในหม้อเหล็กที่มีลักษณะเฉพาะ โดยเนื้อแกะที่ใช้นั้นจะมีทั้งแบบ แลมบ์ (lamb) ที่นุ่มและปราศจากกลิ่นสาบ และแบบ มัตตัน (mutton) ซึ่งเป็นเนื้อลูกแกะที่อายุ 2 ปีขึ้นไป และในปัจจุบันก็มีบางร้านที่เสิร์ฟเนื้อที่แปลกออกไปอย่าง เนื้อกวางเอโซชิกะ (Ezo-Shika Deer) ด้วยเช่นกัน

โดยการทานเนื้อย่างเจงกิสข่าน (Genghis Khan) นั้น จะต้องเรียงผักชนิดต่างๆ อย่างเช่นหอมใหญ่ ต้นหอมญี่ปุ่น และถั่วงอก ลงไปรอบๆ หม้อเหล็ก จนเมื่อความร้อนกระจายทั่วถึงหม้อดีแล้วจึงนำเนื้อแกะมาใส่ลงตรงกลาง เมื่อสุกดีแล้วจึงคีบขึ้นมาทานคู่กับน้ำจิ้มสูตรพิเศษ เมนูนี้สามารถหาทานได้ทั่วไปในฮอกไกโด

เพจที่เกี่ยวข้อง

${v.title}